Pirelli เผยแผนรับมือสนาม Philip Island
งานงอกขึ้นทันทีหลังจากที่สนามแรกของการแข่งขัน WorldSBK มีการทำผิวแทร็กสนามใหม่ ทำให้มีความท้าทายเกิดขึ้นทันที แต่ทาง Pirelli เผยแผนรับมือสนาม Philip Isaland ให้แฟน ๆ มอเตอร์สปอร์ตได้รับรู้กัน ว่าทางพีเรลลีจะรับมือปัญหาที่เกิดขึ้นนี้อย่างไรบ้าง
สนามเปิดฤดูกาลการแข่งขันรายการ MOTUL FIM Superbike World Championship เป็นสนามที่สำคัญเสมอ แค่สนามนี้สนามเดียวก็แทบจะคาดเดาการแข่งขันในปี 2024 ได้เลยทีเดียว สิ่งนึงที่เป็นส่วนสำคัญมาก ๆ เลยก็คือยางที่พีเรลลีจะนำไปใช้ในสนามนี้ งานนี้บริษัทยางอิตาลีก็ได้ประกาศแผนการรับมือกับสนามที่มีการทำผิวแทร็กใหม่แห่งนี้แล้ว โดยมีการมีข้อจำกัดเพิ่มเติม และจำเป็นจะต้องมีการเข้ามาเปลี่ยนยางทั้งในรุ่นใหญ่อย่าง WorldSBK และ WorldSSP
ยางที่มีให้เลือกใช้
ทางพีเรลลี่ได้เลือกที่จะนำยางที่มีเนื้อยางหรือคอมปาวด์ที่แข็งที่สุดไปให้นักแข่งใช้ที่ออสเตรเลีย เนื่องจากสนามมีโค้งที่ต้องใช้ความเร็ว และโค้งความเร็วสูงที่กินยางมาก ๆ โดยด้านหน้าจะมียางให้เลือก 2 สูตรคือ SC1 และ SC2 ซึ่งเป็นสูตรมาตรฐาน ขณะที่ยางหลังมีให้ใช้เป็น SC0 สองเส้นในช่วงซูเปอร์โพลเรซ และเนื่องจากการมีการบังคับให้เข้ามาเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยาง ดังนั้นก็เลยจะมียางเพิ่มให้อีก 2 เซ็ทเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งในการทดสอบอย่างเป็นทางการนั้น นักแข่งหลาย ๆ คนเองก็สามารถทำเวลาได้ดีกว่าสถิติเวลาแล็ปของสนามอีกด้วย และเป็นครั้งแรกเลยที่มีคนทำเวลาได้ที่ 1.28 นาที
ในส่วนของการแข่งขันในรุ่น WorldSSP เองก็เช่นเดียวกันกับรุ่น WorldSBK โดยมียางให้เลือกแบบเดียวกัน โดยจะมียางหน้า SC1 และ SC2 สำหรับกรณีฝนไม่ตก แต่จะมียางหลังเพียงสูตรเดียวให้เลือก ซึ่งยาง SC1-A ที่เคยเปิดตัวให้ใช้ครั้งแรกที่สนามแห่งนี้เมื่อสองปีที่แล้วจะกลายเป็นส่วนสำคัญในการเป็นยางให้เลือกใช้ในเรซ และอย่างที่เกริ่นไว้ในตอนต้นว่าจำเป็นจะต้องมีการเข้าพิทมาเปลี่ยนยาง ดังนั้นก็เลยจะมียางเพิ่มเติมให้ด้วยเช่นกัน ส่วนรุ่นนี้ในการทดสอบอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เป็น Yari Montella (Barni Spark Racing Team) ที่สามารถทำสถิติเวลาต่ำกว่าสถิติเวลาแล็ปของสนามได้จากการอาศัยข้อดีของผิวแทร็กใหม่นั่นเอง
ต้องเข้าพิท
“มันเป็นการตัดสินใจที่ยากจริง ๆ”
เบื้องหลังของการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแข่งขันในครั้งนี้ โดยทาง Giorgio Barbier ผู้อำนวยการฝ่ายการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ของทาง Pirelli กล่าวว่า
“เรารู้จักสนามนี้เป็นอย่างดี ทว่าทุก ๆ ปีสนามแห่งนี้กลับกลายเป็นอีกเรื่องนึงตลอด เพราะที่นี่มีตัวแปรหลายอย่างที่ส่งผลต่ออาการของยางและมักจะคาดเดาไม่ได้อีกด้วย ปีนี้เองก็มีปัจจัยที่ส่งผลหนักที่สุดก็คือยางมะตอยใหม่ที่ทำเอาข้อมูลอ้างอิงที่เรามีนั้นต้องรีเซ็ตกันไปเลย ผมเตือนทุกคนว่ายางสำหรับการแข่งขันในเรซนี้ถูกส่งมาจากยุโรปตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่การปรับผิวแทร็กใหม่เพิ่งจะเสร็จไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้เอง และการที่เราใช้ข้อมูลเดิมไม่ได้ เราจึงคิดหาวิธีที่เหมาะสม โดยเลือกที่จะปรับเปลี่ยนการแข่งขันที่เคยใช้และได้ผลดีมาแล้วเมื่อสองฤดูกาลที่แล้วแทน”
“เราได้เห็นการทดสอบไปแล้วว่ายางมะตอยใหม่นี้ให้การยึดเกาะที่ดีมาก ๆ ทำให้เวลาแล็ปดีขึ้นมาก แต่ในทางตรงกันข้ามก็กินยางมาก ๆ เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่ออุณหภูมิสูง ๆ ซึ่งทำให้เกิดอุณหภูมิขึ้นสูงจนผิดปกติและทำให้ยางหมดไวมาก ๆ โดยเราตรวจพบว่ายางร้อนสูงถึง 160 องศาในพิทเลน ซึ่งเราคาดว่าขณะที่ขับขี่อยู่อาจจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเกินกว่า 200 องศาเลยด้วยซ้ำ พิจารณาจากข้อมูลที่มี และข้อตกลงกับทาง Dorna, FIM และทางเรซไดเร็กชัน เราได้ตัดสินใจแล้วว่าการแข่งขันของทั้งสองเรซจำเป็นจะต้องมีการเข้าพิทเปลี่ยนยาง มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก เพราะบางทีมเองก็อยากที่จะแข่งเต็มระยะทีเดียวให้จบ แต่อย่างไรก็ตามพีเรลลีเชื่อว่าความปลอดภัยของนักแข่งเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดในสถานการณ์แบบนี้”
สำหรับความคิดเห็นของผมนั้นบอกเลยว่าการเข้ามาเปลี่ยนยางนั้นมีผลต่อรูปเกมการแข่งขันอย่างมาก มันต้องอาศัยทีมเวิร์กที่ยอดเยี่ยม การบริหารยางที่ดี การตัดสินใจที่แม่นยำ และการวางแผนที่ดี ไม่งั้นแล้วคนที่นำอยู่อาจจะกลายเป็นผู้ตาม คนที่ตามแล้วอาจจะกลายเป็นผู้นำได้เลย
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก