Liberty Media เทคกิจการของ Dorna เจ้าของสิทธิ์ MotoGP
เป็นข่าวใหญ่ระดับสะเทือนวงการสองล้อกันเลยทีเดียวของดีลธุรกิจที่มีมูลค่าสูงถึง 4.2 พันล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยราว ๆ 165,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นดีลธุรกิจที่เกิดขึ้นจากการที่ Liberty Media เทคกิจการของ Dorna เจ้าของสิทธิ์ทางการค้าและการถ่ายทอดวิดีโอการแข่งขัน MotoGP นั่นเอง
แล้ว Liberty Media คือใคร ทำธุรกิจอะไร สำหรับคนที่ยังไม่ทราบ ลิเบอร์ตี้มีเดียคือเจ้าของสิทธิ์ Formula 1 นั่นเอง เรียกว่าอยู่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตเช่นเดียวกัน เพียงแต่จำนวนล้อไม่เท่ากันและรูปแบบการแข่งขันก็แตกต่างกันอยู่พอสมควร รวมถึงยังประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสื่อ การสื่อสาร และธุรกิจบันเทิงอื่น ๆ อีกมากมาย
ซึ่งทางลิเบอร์ตี้เองก็มาซื้อหุ้นของทาง Dorna ไปมากถึงราว ๆ 86% ใช้เงินไปกว่า 3.5 พันล้านยูโร หรือราว ๆ 138,000 ล้านบาท โดยทางดอร์น่าเองยังถือหุ้นไว้เอง 14% ผ่านข้อตกลงใหม่ซึ่งทาง Dorna Sports S.L., ที่ถือสิทธิ์ทางการค้าและการถ่ายทอด MotoGP อยู่จะยังคงทำดำเนินธุรกิจอยู่อย่างอิสระเช่นเดิม เพียงแต่เป็นส่วนนึงของทางกลุ่มธุรกิจลิเบอร์ตี้มีเดียเท่านั้น ทั้งนี้การแข่งขันอื่น ๆ ที่ทางดอร์น่าดูแลเองก็จะตกอยู่ภายใต้ลิเบอร์ตี้มีเดียด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Moto2, Moto3, WorldSBK, MotoE, Junior GP, Asia Talent Cup, British Talent Cup, Northern Talent Cup, MiniGP และ MotoGP Rookies Cup
นอกจากนี้ทาง Carmelo Ezpeleta ซีอีโอของทางดอร์น่าที่รั้งตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 1994 เองก็จะยังคงอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไปเช่นเดิม และทำธุรกิจต่อไปร่วมกับทีมบริหารของเขา และเบสก็จะยังคงอยู่ที่เมืองมาดริดเช่นเดิมไม่เปลี่ยนไป
ซึ่งทาง Greg Maffei ประธานของฝั่งลิเบอร์ตี้มีเดียก็ออกมากล่าวในทำนองว่ารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ขยายเครือข่ายธุรกิจการถ่ายทอดสดกีฬาเพิ่มมากขึ้นจากดีลในครั้งนี้ ซึ่งเขามองว่ารายการการแข่งขันนี้มีฐานแฟน ๆ ที่ติดตามที่ดีและเหนียวแน่น มีการแข่งขันที่ตื่นเต้นเร้าใจ และมีเงินไหลเวียนมาก มีศักยภาพในการทำเงินนั่นเอง และเขาเองก็ตั้งใจจะมาพัฒนาและเพิ่มยอดผู้ชมหรือแฟน ๆ MotoGP ให้มากยิ่งขึ้นไปอีก
ทางซีอีโอของทางดอร์น่าเองก็มองว่านี่คือมุดหมายสำคัญของการแข่งขันรายการนี้ ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญ ซึ่งทางลิเบอร์ตี้มีเดียนั้นชำนาญงานทางด้านนี้ และจะช่วยเพิ่มฐานคนดูให้มากขึ้นได้อย่างแน่นอน
สุดท้ายดีลนี้จะเสร็จสมบูรณ์ในช่วงปลายปี 2024 เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการและขั้นตอนตามกฎหมายจำนวนมาก แต่เมื่ออ่านมาถึงตอนนี้แล้ว หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าแล้วมันจะมีผลอะไรต่อรายการแข่งขันรายการโปรดของพวกเขาหรือไม่ ผมบอกเลยว่าต้องมีอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรยืนยัน แต่สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เรื่องค่าตั๋วนั้นจะต้องแพงขึ้น เนื่องจากเรื่องของการลงทุนทำธุรกิจ และอาจจะมีผลดีเรื่องคุณภาพการถ่ายทอดสด หรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการถ่ายทอดสดก็เป็นได้ครับ
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก