วันนี้เรามาทดลองขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ Hybrid รุ่นแรกของโลกกันครับ รถคันนี้ถูกเปิดตัวที่งาน Tokyo Motor Show ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว เราก็รอโอกาสจนกระทั่งวันนี้ที่เราได้มีโอกาสทดสอบเจ้า Honda PCX Hybrid เป็นระยะทางไกลกว่า 200 กิโลเมตร โดยเราจะเริ่มจาก ศูนย์ขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า สุขาภิบาล 3 ไปจนถึง พัทยา หาดจอมเทียน โดยครั้งนี้มีสื่อมวลชนร่วมทดสอบกันเกือบครึ่งร้อย เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ ว่าเจ้า PCX คันนี้ มีอะไรยังไงกันบ้าง
ภายนอก
![Honda PCX Hybrid](https://www.superbikemag.com/wp-content/uploads/2018/10/Honda07-1024x536.jpg)
รูปลักษณ์ รูปทรง Honda PCX Hybrid ก็จะเหมือน PCX ทั่วๆ ไปแต่จะมีเพลทสัญลักษณ์ที่บ่งบอกความหรูหรามีสไตล์ เป็นสัญลักษณ์ HYBRID เด่นชัด เรือนไมล์เป็นแบบฟูลดิจิตอลทั้งหมด บอกโหมดการขับขี่ วัดความเร็ว ความร้อน แบตเตอรี่ ไฟสถานะเครื่องยนต์ ไฟเลี้ยว มีการบอกสถานะการจ่ายไฟจากแบตเตอรรี่ลิเทียมไอออน และสถานะการชาร์ตไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ลิเทียม และก็มีโหมดบอกอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน บอกเลยให้มาแน่นจริงๆ พร้อมกับระบบไฟ LED รอบคันที่ใช้ส่องสว่างแบบเหลือๆ ตอนกลางคืน
ขับขี่
มาต่อกันที่การตอบสนองและการทำงานของเครื่องยนต์ที่เป็นหัวใจหลักของ PCX Hybrid ที่เสริมกำลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Parallel หรือเราจะเรียกว่า Hybrid แบบคู่ขนาน โดยการใช้เครื่องยนต์เป็นหลัก และใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวช่วยเสริมแรง โดยจะช่วยทั้งในช่วงออกตัวและในตอนเร่งแซง ซึ่งมอเตอร์ไฟฟ้าจะถูกสั่งงานด้วยกล่องอัจฉริยะ PDU (Power Delivery Unit) ที่จะคำนวนการเปิดของลิ้นปีกผีเสื้อ เพื่อที่จะให้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 48 โวลต์ที่วางอยู่ใน U Box คนซ้อนด้านหลังจ่ายไฟให้มอเตอร์ไฟฟ้าที่จะช่วยเสริมแรงตั้งแต่ออกตัวจนไปถึงที่ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม.ทำให้ฟีลลิ่งการขับขี่เหมือนรถที่ถูกดัดแปลงระบบส่งกำลังมาระดับนึงเลย รถนั้นออกตัวได้ไวขึ้น เร่งแซงได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องลุ้นมาก ขี่สนุกมาก และเมื่อใช้แบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนมีประจุลดน้อยลง เจ้าตัวกล่อง PUD จะทำการสั่งให้รีชาร์จไฟเข้าไปในแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนขณะขับขี่โดยอัตโนมัติ (เต็มแล้วก็ตัดโดยอัตโนมัติเช่นกัน) ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำสมัยไปอีกขั้น
ตัวรถยังมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดได้ โดยสามารถปรับได้ถึง 3 โหมด D S และ Blank สามารถมองเห็นสถานะได้จากเรือนไมล์ ส่วนตัวตอนนี้ผมขับ แต่ S เพราะว่าแรงดี 555 แต่ก็จะบอกให้ว่า D ก็จะเป็นโหมดที่ขับขี่ในเมืองสบายๆ ประหยัดน้ำมัน อันที่จริงมันก็ประหยัดอยู่แล้ว แต่ที่ให้มาก็เพราะว่าประหยัดกว่าโหมด S เอาง่ายๆ ก็คือ โหมด D ก็คือค่าของโรงงาน ตั้งมายังไงก็อย่างงั้น มาต่อกันที่โหมด S ตามชื่อเลยครับ Sport ทำให้เครื่องยนต์ตอบสนองรวดเร็วมากขึ้น ทำให้รถมีกำลังเพิ่มขึ้น โดยทางโรงงานเคลมมาว่า Moto Assist ที่ให้มา สามารถเพิ่มแรงม้าได้ถึง 1.9 แรงม้า แรงขึ้นจริงๆ ครับ บิดสนุก แซงง่าย โหมดสุดท้าย Blank Mode จะเป็นโหมดที่เหมือนกับโหมด D เพียงแต่ไม่สามารถใช้ Idling stop ได้ ส่วนมากก็คงจะไม่ได้ใช้โหมดนี้กันอยู่แล้วละครับ อีกหนึ่งลูกเล่นก็คือ Idling stop นี่ละครับ มีการพัฒนาให้ดีขึ้น รอบนี้ทำงานไวมาก เพียงแค่ปิดคันเร่งขณะที่ความเร็วไม่เกิน 10 กม./ชม.มันก็ทำงานทันที เรียกว่าขายังไม่ถึงพื้นรถก็ดับเครื่องแล้ว เป็นอีก 1 ตัวแปรที่ทำให้รถ PCX Hybrid คันนี้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น
“Honda PCX Hybrid นั้นทั้งแรงขึ้นและประหยัดน้ำมันมากขึ้นจริงๆ”
เส้นทางการขับขี่ในครั้งนี้รวมๆ แล้วประมาณ 200 กว่ากิโลเมตร อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ผมทำได้คือ 49.9 กิโลเมตร/ลิตร ถ้าเติมน้ำมันเต็มถังก็วิ่งได้ราว 350 กิโลเมตร ถือว่าดีมากเลยทีเดียวได้กับการได้พลัง Hybrid มาช่วยอีกแรง เสริมเติมจากตัว PCX รุ่นธรรมดามามากมาย ซึ่งผมบอกก่อนเลยว่า ไม่เสียรูปทรงจากเดิมเลย ไม่มีได้ใหญ่เทอะทะมากกว่าโมเดลเดิม มีแต่แรงม้าที่เพิ่มขึ้น ตัวรถนั้นขี่ได้สมดุลมากๆ ส่วนตัวชอบฟีลลิ่งนี้มากๆ ครับ แล้วก็เหมือนรู้สึกว่าทางวิศวกร Honda ได้ออกแบบการกระจายน้ำหนักของแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนมาเป็นอย่างดี ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกมั่นใจมากขึ้น ไม่ต้องมากังวลเรื่องน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของแบตเตอรี่ลิเที่ยม แต่อาจจะเก็บสัมภาระได้ไม่เท่าแต่ก่อนเพราะมีแบตเตอรี่ลิเทียมมาอยู่ใน U box ด้วย แต่มันก็สามารถเก็บหมวกครึ่งใบได้อยู่นะครับ
สรุป
ส่วนตัวที่ทดสอบ Honda PCX Hybrid มาก็อยากจะบอกให้เข้าใจง่ายๆ เลยว่าเครื่องยนต์หลัก 150 ซีซี เสริมแรงด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนขนาด 48 โวลต์ ทำให้แรงม้าเพิ่มขึ้น 1.9 แรงม้า ออกตัว เร่งแซงได้ง่ายขึ้น มาพร้อมกับโหมดขับขี่สนุกๆ โดยเฉพาะ โหมด S มาพร้อมกับราคา 99,900 บาท ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ครับ
ขอขอบคุณ AP Honda
ติดตามข่าวสารต่างๆ จาก Honda คลิกที่นี่
คลิกอ่านรีวิวทดสอบรถรุ่นอื่นๆ ได้ที่นี่