Honda BigBike Dirt Drill 2019 ครั้งที่ 3

ทาง Honda ได้จัดกิจกรรม Honda Bigbike Dirt Drill 2019 ครั้งที่ 3 ที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยก่อนหน้านี้ได้จัดขึ้นไปแล้ว 2 สนาม สนามแรกอยู่ที่จังหวัดระยอง เป็นสนามการขับขี่แบบ Forest หรือทางฝุ่นในผืนป่าธรรมชาติ สนามที่สองอยู่ที่จังหวัดสุราษฏาร์ธานี เป็นสนามแบบ Rock การขับขี่สภาพทางแบบหินขรุขระ สนามที่ 3 คือสนามที่เรากำลังจะพูดถึงจัดอยู่ที่ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นสนามแบบ Mud การขับขี่บนพื้นผิวที่เป็นโคลน กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมฝึกการขับขี่จักรยานยนต์ทางฝุ่น หรือ สาย Adventure เป็นกิจกรรมที่ทาง Honda มอบให้กับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ของทาง Honda ในตระกูล Adventure โดยจะประกอบไปด้วยรุ่น VFR1200X / Africa Twin / NC750X / CB500X / X-ADV CB500X เพื่อมาฝึกและเพิ่มทักษะการควบคุมรถกับเทรนแบบ Off Road Skill Training สร้างความเร้าใจในการขับขี่ของตัวเองและความมั่นใจในการออกทริปขับขี่ท่องเที่ยวในถนนทุกสภาพอย่างมั่นใจโดยครูฝึกมืออาชีพที่ มีดีกรีเป็นนักขี่รถสายเอ็นดูโร่ ของประเทศไทย และกิจกรรมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมพัฒนาสกิลการขับขี่มากกว่า 50 คัน

โดยเริ่มสตาร์ทกันที่ Honda BigWing กาญจนบุรีโดยมีผู้บริหาร Honda BigWing กาญจนบุรี คุณ สมเกียรติ พงษ์วิทยภานุ พร้อมด้วย คุณ รวมพร พงษ์วิทยภานุ ที่ให้เกียรติต้อนรับ ลูกค้า และ สาวๆ จากกลุ่ม Biker Chicks Thailand นำทีมโดย แอนนี่ ปริศนา ปัญญาศิรินุกูล ที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

หลังจากนั้นได้ออกเดินทาง ไปยังสนาม โล้วเฮงหมง โมโตครอส สถานที่ฝึกอบรม ในครั้งนี้

โดยแคมป์ในการฝึกอบรมในครั้งนี้ จะมีทั้งหมด 5 สถานีดังนี้

Basic การทรงตัวและการบังคับเลี้ยวแบบวงแคบ

Full Lock + 8 การแนะนำวิธีเลี้ยวแบบวงแคบ

Parallel Lock การขับขี่ในร่องบังคับ

STOP & GO ทักษะการควบคุมรถ ขึ้นลงทางชัน

Moving Board เพื่อฝึกการถ่ายเทน้ำหนัก สร้างบาลานซ์

ครูฝึกจะเริ่มด้วยการให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมขับขี่เพื่อคัดกรองก่อนทุกคันเพื่อแยกสกิลในการขับขี่ของแต่ละคนในการจัดกลุ่มเพื่อการเรียนที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วไม่น่าเบื่อ

ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะหมุนเวียนเรียนจนครบ 5 สถานี

หลังจากเรียนจบครบทั้ง 5 สถานี ผู้เข้าร่วมกิจกรรมก็ได้รับประทานอาหารกลางวันนั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนทักษะในการขับขี่กัน อย่างสนุกสนาน และได้เพื่อนใหม่อีกมากมาย

เมื่อรับประธานอาหารเสร็จ ทาง Honda ได้เติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้อีก 5 ลิตร เพื่อไปยังสนามจริงที่ตำบลแก่งเสี้ยน

สภาพพื้นผิวทราย สลับกับหินลอยระยะทาง 25 กิโลเมตรโดยมีจุดพักถ่ายภาพหมู่พร้อมพักดื่มน้ำที่ ห้วยขุนพิชิต ก่อนออกเดินทางไปยังถนนดำอีก รวมระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร ทำให้ผู็เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้รู็สึกประทับใจมาก เพราะการอบรมในช่วงเช้านั้นสามารถนำมาใช้จริงในการทดสอบในช่วงบ่าย ถือว่าพีคมากในสนามนี้ครับ