ทางผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี นาย ณัฐกร อุเทนสุต ได้ออกมา บอกว่าจะเปลี่ยนมาเก็บ ภาษี รถจักรยานยนต์ Bigbike ตามอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากเดิมที่เก็บจากความจุของกระบอกสูบ
และจะเริ่มมีผลบังคับใช้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ปี พ.ศ. 2563 หรือปีหน้านั้นเองครับ
โดยการปรับภาษีของรถมอเตอร์ไซค์นั้นจะอิงตามค่าของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากท่อไอเสีย และจะแบ่งการเก็บภาษีออกเป็น 4 ระดับ
ระดับแรกคือรถมอเตอร์ไซค์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาต่ำกว่า 50 กรัม จะเสียภาษีในอัตรา 3 % ส่วนระดับที่สองคือ มอเตอร์ไซค์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 51-90 กรัมจะเสียภาษีอยู่ที่ 5 % และระดับที่สามจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 91-130 กรัม ซางจะเสียภาษีอยู่ที่ 9 % และสุดท้ายระดับที่ 4 คือมอเตอร์ไซค์ที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ออกมามากกว่า 130 กรัม จะเสียภาษี 18 % จากเดิมที่มีการเสียภาษีส่วนใหญ่อยู่ที่ 2.5-3%
นอกจากนั้นแล้ว การจัดเก็บภาษีใหม่จะทำให้รถมอเตอร์ไซค์ ที่มีขนาดเครื่องยนต์ 150 ซีซี ซึ่งถือเป็น 90% ของจำนวนรถจักยายนต์ทั้งประเทศ เสียภาษีเพิ่มขึ้น 100 บาทต่อคัน หรือจากเดิมถูกจัดเก็บภาษี 2.5% เพิ่มขึ้น 3% ของราคาขายปลีก
ขณะที่รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ซึ่งมีขนาดเครื่องยนต์มากกว่า 1,000 ซีซี จะถูกจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว จากเดิมเสียภาษีสูงสุดที่ 9% เพิ่มขึ้นเป็น 18% ของราคาขายปลีก ดังนั้น ถ้ารถบิ๊กไบค์คันละ 1 ล้านบาท จะเสียภาษีเพิ่มขึ้น 100,000 บาทต่อคัน.
อ่านข่าวสารเพิ่มเติม คลิกทีนี้
ติดตามข่าวสาร Facebook คลิกทีนี้