คราวนี้ผมจะได้สัมผัสกับโร้ดสเตอร์คันใหม่จากค่ายใบพัดสีฟ้ากับเจ้า BMW G 310 R ครั้งแรกกับขนาดต่ำกว่า 500 ซีซีจากค่ายรถเยอรมันค่ายนี้ครับ
ครั้งนี้ผมได้มีโอกาสมาลองขับขี่เจ้า BMW G 310 R ที่จะให้ทดสอบลงขี่ถนนจริงๆ โดยได้รับการดูแลจากทีมครูฝึกจากทาง BMW Motorrad คุณปฏิมา กองเพชร หรือน้าไก๋ที่เป็นที่รู้จักกันดี วันนี้เราจะเริ่มต้นกันที่โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ ในช่วงสายๆ มีการบรี๊ฟเส้นทาง 15-20 นาที แล้วเราก็เริ่มทดสอบกันเลย โดยมีเจ้า BMW G 310 R เป็นพาหนะคู่ใจในวันนี้ เส้นทางที่เราจะทดสอบจะเป็นวิ่งเป็นถนนวนจากสุวรรณภูมิ – ร่มเกล้า – อ่อนนุช – ศรีนครินทร์ – ถนนเรียบสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วมาจบกันที่โรงแรมโนโวเทลอีกครั้ง
แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็ลุยกันเลย สัมผัสแรกที่ได้คร่อมรู้สึกได้ถึงความเบาและเตี้ย เพราะเจ้า BMW คันนี้น้ำหนักเพียง 158.5 กิโลกรัม เบาใช้ได้เลยครับ ที่มาพร้อมกับสรีระท่านั่งที่ถูกออกแบบมาให้กระชับ นั่งสบาย สำหรับตัวผมที่สูง 171 ซม. ขาถึงเต็มพื้นพอดี ทำให้มั่นใจขึ้นอีกหน่อย คิดว่าสำหรับส่วนสูงของคนไทยหรือคนเอเชียนั้นขี่ได้สบายๆ ตอบโจทย์ ขับออกจากโรงแรม สลาลมสักหน่อย โอ้วโหว ช่วงล่างดี เลยครับไม่มีอาการสะบัด นุ่ม หนึบ สบายๆ
กับโช้คหน้าอัพไซด์ดาวน์หรือหัวกลับที่ถูกเซ็ตอัพมาจากโรงงาน สถานีเช็คพ้อยท์แรกเราจะเดินทางไปเสริมทักษะกันที่มีนบุรี ร่มเกล้า เป็นสถานีฝึกทักษะ โดยมีครูฝึกสอนที่ได้รับใบรับรองจากประเทศเยอรมัน เป็นการสอนเกี่ยวกับการใช้เบรคหน้า-หลังโดยใช้ความเร็ว 50-60 กม./ชม. พร้อมกันโดยกำเบรคให้สุดแรง เพื่อที่จะให้รู้สึกถึงสมรรถนะของคาลิเปอร์เบรค ByBre ได้อย่างเต็มที่ ส่วนเจ้า ByBre คืออะไร มันคือแบรนด์รองจาก Brembo ครับ ถ้าเทียบกันแล้ว ก็คือ Brembo นั้นละครับ ByBre (BY Brembo) ขาหนีบถังแล้วกำให้สุด สายตามองตรง ไม่ล้มครับ แถมยังได้ระยะเบรคที่สั้นมาก ระบบ ABS ที่ติดมาให้กับตัวรถ คือ ABS แบบ 2 Channel หรือ 2 ช่องทาง ซึ่งก็คือ แยกล้อหน้า ล้อหลัง คนละส่วนกัน ถือว่าทำได้ดีมากครับ ทำให้รู้สึกปลอดภัยที่ขับขี่
มาต่อกันที่สถานีสลาลมกับกรวยที่ได้วางไว้ชิดกันพอสมควร เพื่อที่จะได้ทดสอบความคล่องตัว ทำได้ดีครับกับการเลี้ยวในที่แคบ แฮนด์บาร์แบบกว้างที่ให้มานั้นจับถนัดมือ ควบคุมรถได้ดี จากนั้นเราก็ขับขี่รอบๆ ในสนามฝึก โดยขี่ตามทางที่ครูฝึกได้จัดไว้ ทางตรง เลี้ยว หรือโค้งตัวเอส ก็ขี่ได้ดีเลยครับ กำลังเครื่องยนต์ ช่วงล่าง มันเข้ากันดีจริงๆ
หลังจากนั้นเราก็ต่อกันที่การขับขี่บนถนนจริง ได้ลองทดสอบฟีลลิ่งการออกตัวคัน ได้ทดสอบเครื่องยนต์ตัวใหม่นี้ดูบ้าง ว่ามันจะจี๊ดแค่ไหน พอได้จังหวะก็เต็มปลอกเลยครับ ตามนิสัยเครื่องสูบเดียว 313 ซีซี ล้อมันก็จะลอยหน่อยๆ สนุกดีครับ บิดเป็นมา แต่เครื่องตัวนี้ รอบเดินพอใช้ได้เลยครับสำหรับเครื่องแคมคู่ 34 แรงม้า เกียร์ 6 สปีด ขี่บนถนน สบายๆ แรงเหลือๆ พอเข้าช่วงถนนอ่อนนุช การจราจรเมืองไทย อย่างที่รู้กัน ติดขัดกันทุกเวลา แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของ BMW G 310 R เลยครับ ขี่ได้ง่าย คล่องตัว บาลานซ์ของรถนั้นมาดีมากๆ อาจจะเป็นเพราะตัวเสื้อสูบเครื่องเยื้องเอียงมาข้างหลังพอสมควร
ทำให้น้ำหนักอยู่ตรงกลางสามารถคอนโทรลรถได้ดีขึ้น มันสามารถซิกแซ็ก มุดไป มุดมา ขับขี่ได้สนุกสมเป็นโร้ดสเตอร์มากๆ เลยครับ บวกกับเครื่องที่มีกำลังในรอบต่ำ บิดเป็นมา ขับมาได้ซักพัก มาถึงทางเรียบสุวรรณภูมิก็ได้มีโอกาสทำความเร็วสักหน่อย ท็อปสปีที่ผมทำได้กับคันนี้คือ 155 กม./ชม.
แต่ผมคิดว่าลากไปได้อีกหน่อย อันนี้ก็ต้องมาลองดูกันเองนะครับ ว่าแต่ละคนวิ่งได้กันเท่าไร วันนี้ที่วิ่งรอบๆ ชานเมือง ก็กดทริปไว้ได้ระยะทางทดสอบ 50 กว่ากิโลเมตร เท่านี้ผมก็พอจะรู้สึกได้ว่าคันนี้ BMW G 310 R คือแนวโร้ดสเตอร์ที่แท้จริง…
ติดตามเพจ Facebook คลิกทีนี้
อ่านรีวิวรถ รุ่นอื่นๆ คลิกทีนี้