และแล้วการเทสต์ทางฝุ่นหรือการทดสอบแนวเอ็นดูโร่ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยในครั้งนี้เราได้เดินทางไปที่พัทยาเพื่อที่เราจะได้ไปเจอกับเจ้า Husqvarna มอเตอร์ไบค์สัญชาติสวีเดน ณ Husqvarna Motorcycle Thailand (พัทยาใต้)
หลายๆ คนถ้าได้ติดตามเรื่องราวในวงการมอเตอร์ไบค์มาตลอดน่าจะเคยได้ยินชื่อแบรนด์ Husqvarna มาบ้าง ทั้งนี้ Husqvarna นั้นเข้ามาในเมืองไทยมาได้ระยะนึงแล้ว แต่อาจจะไม่แพร่หลายเหมือนแบรนด์อื่นๆ สักเท่าไหร่ แม้ว่าที่ต่างประเทศแบรนด์นี้นั้นค่อนข้างจะโด่งดังก็ตาม และหลังจากที่ Husqvarna เริ่มรุกตลาดเมืองไทยแบบเงียบๆ จนกระทั่งตอนนี้ Husqvarna ได้ตัวแทนจำหน่ายพร้อมทั้งบริการเซอร์วิสต์ในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ทาง SuperBike ก็ย่อมไม่พลาดโอกาสที่จะไปทดลองขับขี่ Husqvarna มอเตอร์ไบค์สัญชาติสวีเดนที่มีชื่อเสียงในเรื่องของทางฝุ่นมาเนิ่นนานสักที หากคุณเป็นสายฝุ่นและอดใจรอไม่ไหวแล้วก็รีบอ่านย่อหน้าต่อไปให้ไวเลย (แม้คุณจะเป็นสายทางเรียบอ่านไว้ก็ได้ Husqvarna มีรถซูเปอร์โมโตตัวแรงๆ ให้เลือกเช่นกัน หากเรามีโอกาสก็จะไปทดสอบมันให้ได้เช่นกัน ติดตามเราต่อไปได้เลย)
โมเดลที่เราจะทำการเทสต์ในวันนี้คือเจ้า Husqvarna TE300 และ FE450 แน่นอนว่าทั้ง 2 รุ่นนี้เป็นเอ็นดูโรไบค์จ๋าทั้งคู่ ทั้งนี้ทั้งสองรหัสนี้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องของเครื่องยนต์ที่เป็นแบบ 2 จังหวะและ 4 จังหวะตามลำดับ (ตัว T ในชื่อรหัสสื่อถึง Two Stroke หรือ 2 จังหวะ ส่วนตัว F ในชื่อสื่อถึง Four Stroke หรือ 4 จังหวะนั่นเอง) ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ โดยรวมนั้นแทบจะไม่แตกต่างกันเลย
ในส่วนของความแรงของเจ้าเครื่องยนต์ 2 ตัวนี้ ดูที่ตัวเลขซีซีนั้นออกจะต่างกันเยอะพอสมควร แต่แรงม้าที่ผลิตออกมาได้นั้นกลับแทบไม่ต่างกันเลยเจ้า TE300 มีแรงม้าอยู่ที่ 54 ตัวส่วนเจ้า FE450 มีแรงม้าอยู่ที่ 53 ตัว แต่เจ้า FE จะเสียเปรียบเรื่องน้ำหนักตัวที่หนักกว่า TE300 อยู่ 8.4 กก. ซึ่งน้ำหนักตัวของ TE300 อยู่ที่ 104.4 กก. เท่านั้น ส่วน FE450 อยู่ที่ 112.8 กก. อย่างไรก็ดีถือว่าทั้ง 2 รุ่นก็ยังมีน้ำหนักที่เบามากๆ อยู่ดีครับ สิ่งที่โดนใจผมสุดๆ คือทั้งสองคันนี้มันมีระบบสตาร์ทไฟฟ้าด้วย ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงถูกใจหรอครับ? ก็เพราะส่วนมากรถทรงวิบากจะเป็นระบบสตาร์ทเท้า หรือกระแทกด้วยเท้านั่นเอง นอกจากนี้ทั้ง 2 รุ่นนี้ ยังมีขาตั้งข้างติดตัวมาตั้งแต่เกิดเลยนะครับ
สถานที่ในการเทสต์ก็คือ หลังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา โดยเส้นทางเข้า-ออกก่อนไปถึงบริเวณที่เราจะเก็บภาพกันเป็นหลักนั้น เส้นทางจะเป็นดินแดงหินอัด การเดินทางไม่มีปัญหาอะไรถือว่าสบายเอามากๆ ด้วยระบบช่วงล่างจากค่าย WP เหมือนอย่างค่ายสีส้มที่มีมาให้ค่อนข้างดีถึงดีมาก รวมไปถึงยางติดรถและระบบเบรค ส่วนพื้นผิวสถานที่เทสต์และเก็บภาพงามๆ จะเป็นดินปนทรายละเอียด หน้าแคบ โค้งแคบ และมีต้นหญ้าขึ้นสูงมาก (ท่วมหัวเลยล่ะ) สูงจนไม่สามารถมองเห็นทางที่อยู่ถัดจากโค้งต่อไปได้เลย ทีมงาน SuperBike เองก็เพิ่มจะเคยไปกันเป็นครั้งแรกด้วย บางช็อตบางช่วงเล่นเอาช่างภาพเรากระโดดหลบรถแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเส้นทางโหดและทุลักทุเลไม่เบาเลยล่ะครับ แม้แต่เทสต์ไรเดอร์เองก็เช่นกันครับ ยัดมาในโค้งขาส่งคันเร่งออกจากโค้ง เท้าก็ต้องยันพื้น มือก็ต้องคอบประคอง คันเร่งก็ต้องเลี้ยง ล้อหลังก็กำลังฟรี ท้ายก็กำลังออกข้าง สายตาไปเห็นจุดดำๆ ปลายโค้ง แล้วก็ต้องร้อง…เฮ้ย!!! หลบ หลบไปเร็ว
มาดูความแตกต่างกันระหว่าง TE300 และ FE450 กันครับ หากว่ามองภาพรวมที่จอดคู่กัน แทบจะไม่แตกต่างกัน ที่จะเห็นเด่นชัดคือ ท่อไอเสียและหน้าตาของเครื่องยนต์ เรื่องเครื่องยนต์นั้นบอกเลยครับว่าคนละเรื่องกันเลย มาทำความเข้าใจกันก่อนแบบกระชับกันนิด เริ่มด้วยอักษรที่ลงท้ายด้วย 2T / 4T คือ เครื่องยนต์ 2 จังหวะ และ 4 จังหวะ เครื่องยนต์ 2 จังหวะ เป็นเครื่องยนต์แบบง่ายๆ การทำงานและชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ไม่ซับซ้อนเหมือนของเครื่องยนต์ 4 จังหวะ การนำไอดีเข้าและปล่อยไอเสียที่เกิดจากการเผาไหม้ทำได้ด้วยการเปิดและปิดของลูกสูบเพียง 2 จังหวะเท่านั้น จึงไม่มีกลไกปิดและเปิดทางเดินไอดีไอเสียเข้ามาเกี่ยว ส่วนเครื่องยนต์ 4 จังหวะ มีการทำงานออกเป็น 4 จังหวะ คือ จังหวะดูด จังหวะอัด จังหวะระเบิด และจังหวะคาย ในการทำงานทั้ง 4 จังหวะของลูกสูบเท่ากับการหมุนของเพลาข้อเหวี่ยง 2 รอบ ต่อการจุดระเบิด 1 ครั้ง และต้องมีระบบกลไกเปิดและปิดทางเดินไอดีไอเสียซึ่งต้องทำงานสอดคล้องกับเพลาข้อเหวี่ยงร่วมไปถึงการจุดระเบิดด้วย
สัมผัสแรกที่ผมได้ขึ้นคร่อมผมก็รู้ได้เลยว่ารถเอ็นดูโร่นั้นช่วงล่างยุบตัวลงเยอะมาก ท่านั่งการวางเท้าวางมือถือว่าค่อนข้างสบาย อุปกรณ์สวิตซ์ไฟทั้งหลายให้มาครบครันหน้าตาหล่อดูดี ใช้งานง่าย กะทัดรัดดีมากๆ ในการเทสต์ใช้วิธีสลับกันขี่คนละคัน โดยในครั้งนี้จะมีผมและ Roy Fu โดยจะมีทั้งแบบวิ่งทีละคนและวิ่งคู่ไปพร้อมๆ กัน ผมขอเริ่มจากเจ้า FE450 ก่อนเลยละกันครับ เพราะการตอบสนองของเครื่อง 4 จังหวะ นั้นตัวผมเองน่าจะคุ้นเคยกว่า ตามที่คาดไว้เลย FE450 ลูกสูบโตๆ เสียงท่อแน่นๆ ทุกทีที่กระแทกคันเร่งต้องเป็นฟรีทิ้ง ท้ายออกตลอด เครื่องยนต์ตอบสนองไวมากๆ น้ำหนักมือที่เปิดคันเร่งต้องเนียนๆ กันหน่อยนะครับ เพราะมันอาจทำให้ท่านนั้นเกิดอาการหมุนและฟรีทิ้งอยู่กะที่ได้ตลอด ส่วนทอร์คหรือแรงบิดนั้นเรียกมาได้แบบตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นย่านไหนก็ตาม
และแล้วก็ได้เวลาสลับกันขี่ TE300 เครื่องเล็กๆ แต่เวลารอบเครื่องถึง แทบจะหน้าหงายกันเลย เสน่ห์ของเครื่อง 2 จังหวะก็คือเสียงของมัน รอบเดินเบาดูไม่ค่อยมีแรง มีควันขาวออกปลายท่อนิดๆ พร้อมกลิ่นน้ำมันออโต้ลูปที่แสนหอมหวน เครื่องยนต์ที่สามารถเรียกแรงม้ากันได้ไม่ยากด้วยการใช้คลัทช์ให้ถูกวิธี แล้วทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไปในทันที่ เสียงท่อดังขึ้นเป็นทวีคูณ และแรงทอร์คที่มาแบบมหาศาลให้ลากกันยาวๆ ผิดกับ FE450 ที่มาเป็นลูกๆ ตันสับ…ตันสับ…ตลอดเวลา
ทั้ง TE300 และ FE450 ต่างก็มีข้อดีในตัวของมันเองอย่างชัดเจน อย่างเจ้า TE300 ได้เปรียบทันทีในด้านของน้ำหนักตัว ช่วงเกียร์ที่ยาว รวมไปถึงความแรงในรอบกลางปลายแบบโหดๆ ส่วนเจ้า FE450 กำลังเครื่องยนต์เราสามารถเรียกใช้ได้ตลอดทุกย่านรอบกันเลย ความเร็วในการเดินทางบนถนนดำขอบอกเลยว่าไม่ธรรมดา ขี่กันแบบสบายๆ ด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. ที่เกียร์ 5 แถมยังเหลือในมือให้กระแทกอีกเพียบ ผมดันไปถึง 144 กม./ชม. เริ่มมีอาการสะบัด จึงยกคันเร่งเสียก่อนส่วนตัวถ้ารถไม่มีอาการผมคิดว่าดันได้ 160กม./ชม.สบายๆ แต่ถ้ายังไม่สะใจท่านสามารถเข้ารับการปรับแต่งโมดิฟายเพิ่มเติมกันอีกได้มากมายที่ Husqvarna Motorcycle Thailand (พัทยา) กันได้เลยครับ
Husqvarna TE300 & FE450 นั้นจัดเป็นรถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงมาก และด้วยราคาค่าตัว 5 แสนนิดๆ อาจจะทำให้มันไม่ค่อยน่าคบหา แต่การที่มันให้อุปกรณ์มาครบครันและเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังมหาศาล พร้อมที่จะให้ทุกท่านได้ออกไปผจญภัยไปกับมัน ก็เรียกได้ว่าค่อนข้างจะคุ้มค่ามากครับ สำหรับมือใหม่นั้นมันอาจจะดูไม่ค่อยเหมาะกับมันสักเท่าไหร่ครับ ไม่ว่าจะทั้งในแง่ความคุ้มค่าและความยากในการควบคุมโดยเฉพาะในตัวของเจ้า TE300 ที่จำเป็นจะต้องใช้ทักษะและความคุ้นเคยค่อนข้างมากครับ แต่สำหรับเจ้า FE450 นี่ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดูจะเหมาะสมกับมือใหม่มากกว่า อย่างไรก็ดีทั้งสองคันนี้ไม่เหมาะกับการขี่ทางเรียบสักเท่าไหร่นัก ใครที่คิดจะเอามาขี่ทางเรียบบ้างเข้าป่าบ้างอาจจะมีเครียดได้ แต่หากท่านเป็นสายธุดงค์ละก็เหมาะมากเหลือเกินครับ
หัวข้อคะแนน |
TE300 |
FE450 |
Engine | 9 | 8 |
Handling | 8 | 8 |
Brake | 7 | 7 |
Adventure | 6 | 6 |
Cruise | 3 | 4 |
Enduro | 8 | 8 |
Newbies | 5 | 6 |
Advance | 9 | 9 |
Appearance | 9 | 9 |
Value | 5 | 5 |
Total | 69 | 70 |
TE300
Like
- ชิ้นส่วนต่างๆ เป็นของคุณภาพดีมาตั้งแต่โรงงาน
- น้ำหนักเบา
- มีสตาร์ทมือ
Dislike
- ราคาแรงไปหน่อย
- ต้องใช้ทักษะมาก
FE450
Like
- ชิ้นส่วนต่างๆ เป็นของคุณภาพดีมาตั้งแต่โรงงาน
- น้ำหนักเบา
- มีสตาร์ทมือ
Dislike
- ราคาแรงไปหน่อย
“เปิดปุ๊บท้ายออก…เติมอีกดอกเป็นหมุน”
|
TE300 |
TE450 |
เครื่องยนต์ | 2 จังหวะ สูบเดียว ระบายความร้อนด้วยน้ำ | 4 จังหวะ สูบเดียว ระบายความร้อนด้วยน้ำ |
ปริมาตรกระบอกสูบ | 293.2 ซีซี | 449.3 ซีซี |
ระบบวาล์ว | SOHC | SOHC |
ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก | 72.0 X 72.0 มม. | 95.0 X 63.4 มม. |
อัตราส่วนการอัด | NA | 11.8:1 |
ระบบเกียร์ | 6 สปีด | 6 สปีด |
แรงม้าเคลม | 54 แรงม้า | 53 แรงม้า |
แรงบิดเคลม | ฟุต-ปอนด์ | ฟุต-ปอนด์ |
ระบบจุดระเบิด | ดิจิตอล | ดิจิตอล |
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | หัวฉีดไฟฟ้า | หัวฉีดไฟฟ้า |
ระบบสตาร์ท | สตาร์ทไฟฟ้า | สตาร์ทไฟฟ้า |
ระบบคลัทช์ | คลัทช์เปียกแบบหลายแผ่นซ้อนกัน | คลัทช์เปียกแบบหลายแผ่นซ้อนกัน |
ระบบกันสะเทือนหน้า | โช้ค WP แบบหัวกลับขนาด 48 มม. ระยะยุบ 300 มม. | โช้ค WP แบบหัวกลับขนาด 48 มม.ระยะยุบ 300 มม. |
ระบบกันสะเทือนหลัง | โช้คเดี่ยว WP ระยะยุบ 330 มม. | โช้คเดี่ยว WP ระยะยุบ 330 มม. |
เบรคหน้า | ดิสก์เบรคเดี่ยวขนาด 260 มม. | ดิสก์เบรคเดี่ยว 260 มม. |
เบรคหลัง | ดิสก์เบรคเดี่ยวขนาด 200 มม. | ดิสก์เบรคเดี่ยว 200 มม. |
ขนาดยางหน้า | 90/90-21 | 90/90-21 |
ขนาดยางหลัง | 140/80-18 | 110/110-18 |
ยาว X กว้าง X สูง | NA | NA |
ระยะฐานล้อ | 1,482 มม. | 1,482 มม. |
ความสูงเบาะ | 960 มม. | 970 มม. |
น้ำหนักรถเปล่า (เคลม) | 104.4 กก. | 112.8 กก. |
ความจุถังน้ำมัน | 11 ลิตร | 9 ลิตร |
ราคา | 534,000 บาท | 554,000 บาท |
ติดต่อ | บริษัท ฟาลคอน พาวเวอร์ สปอร์ต เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด โทร: 033-009-679 |
บริษัท ฟาลคอน พาวเวอร์ สปอร์ต เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด โทร: 033-009-679 |