รีวิว ทดสอบ BMW S1000R เน็กเก็ตไบค์ตัวพัน ม้ามืดนอกสายตา!!

iCe Superbike

เทสไรเดอร์ตัววพ่อ กับ Sport Naked ตัวพ่อมากับการรีวิว ทดสอบ BMW S1000R ที่สนามไทยแลนด์ เซอร์กิต นครชัยศรี โดย SuperBike Team นำการทดสอบโดย Benz Racing 1Z6A8977

Don’t underestimate me!! ฆ่าได้หยามไม่ได้
BMW S1000R
เน็กเก็ตไบค์ตัวพัน ม้ามืดนอกสายตาที่คุณไม่ควรมองข้าม

ท่านผู้อ่านหลายคนเปิดมาเจอคอลัมน์นี้ก็คงนึกในใจว่า “ไรว้า รถเก่าปีที่แล้วทำไมยังจะเอามาเทสต์อีก” แล้วอาจจะเปิดข้ามไป แต่ผมบอกก่อนเลยเรามีเหตุผลมากมายเลยล่ะครับ จริงๆ แล้วเราเคยพิมพ์บททดสอบของมันในรูปแบบของคอลัมน์ลองขี่หรือ First Ride ไปแล้วในฉบับที่ 23 นู้นเลยล่ะครับ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นการทดสอบที่ต่างประเทศและไม่ได้จัดเต็มแบบที่ควรจะเป็นอย่างที่ SuperBike ในไทยแล้วทำกัน ถ้าถามว่าทำไมแล้วไม่ทดสอบตั้งแต่มันมาไทยใหม่ๆ ก็ต้องตอบเลยว่าคิวยาวซะเหลือเกิน แถมเจ้าฉลามชีเปลือยคันนี้นี่กว่าจะมาไทยได้ก็ช้าจนเราทนไม่ไหวชิงทดสอบเน็กเก็ตไบค์ในคลาสพันซีซีไปซะก่อนแล้วเนี่ยสิ เราก็เลยต้องมาหาคิวว่างเพื่อที่จะทดสอบ และก็เราก็ได้เป็นเล่มที่ท่านกำลังถืออยู่ในมือเนี่ยแหละครับ เรียกได้ว่าถึงจะมาช้า แต่ก็มาเต็มนะพี่น้อง เหมาะสำหรับท่านที่ยังตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าเน็กเก็ตไบค์คันไหนคือตัวตนของคุณ อ่านบทความนี้แล้วคุณอาจจะหลงรักมันก็เป็นได้

ต้นกำเนิด

BMW S 1000 R นั้นเป็นเน็กเก็ตโร้ดสเตอร์ของทางค่ายใบพัดสีฟ้าที่มีพื้นฐานมาจากเจ้า BMW S 1000 RR ฉลามสายพันธุ์แรง สปอร์ตไบค์ตัวพันตัวหลักของทางค่าย ด้านหน้าตาก็มีความละม้ายคลายคลึงกันค่อนข้างมาก จุดเด่นคือไฟหน้าแบบไม่สมมาตรหรือที่มักจะเรียกกันแบบบ้านๆ ว่าตาเหล่ ซึ่งเป็นสไตล์แบบนึงของทางค่าย BMW แต่ครั้นจะให้เรียกว่าแฝดคนละฝาเลยก็ไม่ได้ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดต่างๆ มากมายเลยทีเดียว ที่เห็นชัดๆ จะๆ ก็มีไฟหน้า ท่อไอเสีย แฮนด์บาร์ และแฟริ่ง แต่ก็ยังมีหลายๆ จุด ที่เปลี่ยนแปลงไป จะมีก็แต่เครื่องยนต์ที่เอาเครื่องยนต์ของเจ้า BMW S 1000 RR มาใช้ แต่ก็ถูกเปลี่ยนแปลงปรับจูนไปมากพอสมควรเลย โดยส่วนตัวผมว่ามันแปลกๆ จะพูดว่าสวยก็ไม่เชิง แต่จะว่าหล่อก็แปลกๆ จะเท่ก็พูดได้ไม่เต็มปาก ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องรูปร่างหน้าตาผมว่าแล้วแต่คนชอบซะมากกว่า แต่รถไม่หล่อก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่แรงไปด้วยสักหน่อยเนอะ ว่างั้นมั้ยครับ ขนาดคนยังมีบอกเลยว่า อย่าเอาแต่ชอบคนที่หน้าตาเลยครับ

ในเรื่องของเครื่องยนต์ที่ได้นำเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงระบายความร้อนด้วยน้ำขนาด 999 ซีซีของเจ้า RR มาใช้ อย่างไรก็ตามมันก็มีการปรับเปลี่ยนในเรื่องของสมรรถนะในช่วงย่านความเร็วรอบต่ำถึงกลางให้เหมาะสมกับการเป็นรถเน็กเก็ต หรือโร้ดสเตอร์ที่เน้นการใช้งานในชีวิตประจำวันและการขับขี่แบบสปอร์ตบนถนนโล่งๆ ด้วยการเพิ่มแรงม้าและทอร์คให้มีมากขึ้น แต่มีการปรับลดความเร็วรอบสูงสุดลงมาประมาณ 2,000 รอบ แม้ว่าเจ้า S 1000 R นั้นถูกปรับลดแรงม้าลงมาเป็น 160 ม้าที่ 11,000 รอบก็ตามแต่กลับมีแรงบิดสูงสุดที่ 83 ปอนด์ฟุตที่ 9,250 รอบซึ่งมากกว่าแรงบิดของเจ้า S 1000 RR อยู่เกือบๆ 7 ปอนด์ฟุต ช่วยให้รอบต่ำนั้นมาเร็วมาแรงมากกว่า ส่วนน้ำหนักรถอยู่ที่ 207 กก.รวมน้ำมันเต็มถัง ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าหนักมากมายอะไรนักสำหรับรถตัวพัน เรียกได้ว่าสืบสายเลือดความแรงมาเช่นกัน แต่มาต่างกันที่ลักษณะหน้าตา นิสัยและสไตล์เท่านั้นเอง

เจ้าฉลามสีแดงคันที่เห็นอยู่นี้คือ BMW S 1000 R สแตนด์ดาร์ดแพ็กเก็จ (Standard Package) ในไทยจะมีจำหน่ายแค่สแตนด์ดาร์ดแพ็กเกจอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งแพ็กเก็จนี้จะมีลูกเล่นน้อยกว่ารุ่นอื่นๆ คือจะไม่มีระบบ Dynamic Damping Control หรือ DDC หรือที่เรานิยมเรียกกันว่าโช้คปรับไฟฟ้า ฮีทกริ๊ปหรืออุ่นมือ ครูซคอนโทรลและอกไก่ อย่างในแพ็กเก็จอื่นๆ ที่วางขายในต่างประเทศ แต่เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งคิดว่ามันจะหน่อมเพราะโดนลดทอนลูกเล่นบางอย่างไป แต่ไม่ว่าจะยังไงลูกเล่นสำคัญอย่างโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือก 2 โหมดนั้นคือ โหมด Rain และโหมด Road ที่มีไว้ให้ปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสภาพถนนและอากาศ ระบบเบรค ABS แบบ Race ABS และระบบ Automatic Stability Control หรือ ASC หรือระบบควบคุมความเสถียรของรถซึ่งก็จะช่วยในการเร่งความเร็วบนถนนที่มีการยึดเกาะน้อยได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งสำคัญต่อการขับขี่อย่างปลอดภัยก็ยังมีอยู่ครบถ้วนครับ นอกจากนี้ก็มีกันสะบัดติดตั้งมาให้ด้วยเลย ผมเอาหัวผมนี่เป็นประกันเลยว่าถึงไม่มีลูกเล่นที่หายไปก็แทบจะไม่มีผลอะไรมากนัก เรียกได้ว่าอย่าดูถูกเจ้า S 1000 R เด็ดขาด

*ทั้งนี้ในโหมด Rain รถจะถูกตัดกำลังลงให้เหลือเพียงแค่ 136 ม้า ส่วนแรงบิดจะเหลือแค่เพียง 77 ปอนด์ฟุตเท่านั้น

อย่าหยามกัน

หลังจากที่ได้ลงเอามันไปหวดในแทร็กที่ร้อนระอุด้วยแสงแดดหน้าร้อนเมืองไทยเพื่อที่จะได้สัมผัสกับสมรรถนะและฟีลลิ่งในการขับขี่อยู่พักใหญ่ พอเริ่มจับจังหวะจะโคนและฟีลลิ่งของรถได้พอสมควรก็เริ่มการถ่ายภาพมาลงให้ท่านได้ชมว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง ผมรู้สึกว่าเจ้า S 1000 R คันนี้เนี่ยมีเครื่องยนต์ที่ใช้งานได้ดีเลยล่ะ แม้ทาง BMW จะบอกเราว่ามันมีการลดทอนแรงม้าลงไปบ้าง แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันอืดอาดยืดยาดจนเกินไป แล้วที่บอกว่าแรงบิดเพิ่มเข้ามาจนมีมากกว่าเจ้า RR แล้วเนี่ยผมก็มองว่ามันแรงอยู่จริงๆ แต่ก็ไม่ได้แรงจนน่ากลัว ถือว่าแรงม้าที่ให้มาเนี่ยเพียงพอต่อการใช้งานตามสไตล์ของเน็กเก็ตไบค์เลย เครื่องยนต์สี่สูบเรียงของเจ้า R ทำงานได้สมู้ทราบลื่นนุ่มนวลดีมาก เวลาที่เราเดินคันเร่งในโค้งเนี่ย เครื่องยนต์เนี่ยตอบสนองได้ค่อนข้างดี แสดงให้เห็นว่าคันเร่งไฟฟ้าทำงานได้ดี ไม่เหมือนกับรถบางรุ่นที่มีคันเร่งไฟฟ้า แต่แบบว่าช้า ไม่ทันมือไม่ทันใจ หรือว่าไม่ฉลาด สั่งงานไม่ได้ดั่งใจ ผ่อนนิดเดียวกับกลายเป็นการปิดคันเร่งไปเลยก็มี แต่ของเจ้า S 1000 R นั้นทำงานได้เหมือนกับคันเร่งสายตามปกติเลย

ช่วงล่างที่ให้มานั้นค่อนข้างดี โช้คหน้าแบบอัพไซด์ดาวน์สามารถปรับคอมเพรชชั่นและรีบาวด์แดมปิ้งได้ โช้คหลังก็สามารถปรับได้เช่นกัน จากที่ได้ลองเทสต์เนี่ยไม่ค่อยจะมีการเสียอาการให้เห็นเท่าไหร่นัก ล้อนั้นใช้ล้ออลูมิเนียมไดคาสต์ 10 ก้านน้ำหนักเบามาพร้อมกับยาง Pirelli Rosso II ที่ให้ความหนึบและมั่นใจได้ระบบเบรคนั้นก็มี Race ABS ที่เป็นตัวชูโรง แน่นอนว่าอุปกรณ์เบรคก็มี Brembo ที่จัดมาให้ก็ใช้านได้ดี เลี้ยวได้ง่ายไม่หนัก ท่านั่งก็โอเค แต่ไม่รู้ว่าแฮนด์บาร์มันกว้างไปหรือเปล่า เวลาขี่ซอกแซกผมว่ามันอาจจะลำบากนิดหน่อย แต่ถ้าเป็นตอนที่ขี่ในสนามอาจจะต้องมีการปรับตัวบ้าง เพราะต้องโหนเวลาเข้าโค้งมากกว่าปกตินิดหน่อย แล้วก็เวลาเปิดและเดินคันเร่งองศาของมือมันจะต่างออกไปจากเดิม ไม่เหมือนกับสปอร์ตไบค์อย่างเจ้า S 1000 ข้อด้อยคือ ด้วยความที่มันเป็นเน็กเก็ตไบค์มันก็เลยจะไม่มีชิลด์บังลมที่ด้านหน้า เวลาที่ขี่ด้วยความเร็วสูงๆ เนี่ยจะมีลมตีเข้าที่ด้านหน้าแล้วมันจะทำต้านลมมาก ทำให้ทำความเร็วมากไม่ได้ ขี่เป็นระยะทางไกลๆ และเป็นเวลานานๆ จะทำให้เหนื่อยมาก ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าออกแบบให้รองรับในเรื่องของแอโรไดนามิกมากน้อยแค่ไหน สำหรับเจ้า S 1000 R คันนี้เนี่ยทางตรงยาวๆ ขี่ 180 กม./ชม. แล้วก็ยังสบายๆ อยู่ ไม่มีปัญหาเรื่องลม แต่จริงๆ แล้วความเร็วที่ขี่แบบสบายๆ จะอยู่ที่ราวๆ 160 กม./ชม.น่ะครับ แต่ถ้าขี่เกิน 230 กม./ชม.เนี่ยจะเริ่มเหนื่อยแล้วลมเริ่มเป็นปัญหามากแล้วครับ ถ้าอยากจะขี่เร็วกว่านั้นเนี่ย ผมไม่แนะนำ

อย่าดูแคลนกันเกินไป

แม้จะไม่ใช่สปอร์ตไบค์เหมือนอย่างเจ้า S 1000 RR แต่ก็ขี่ในสนามได้ค่อนข้างดี ไม่ถือว่าการเป็นเน็กเก็ตไบค์แล้วจะขี่ได้สนามไม่ได้หรือยากลำบากอะไรนัก เรียกได้ว่าขี่ในเมืองก็ได้ ขี่ออกทริปก็ดี ขี่สนามก็ถือว่าโอเคเลย สำหรับในแง่ของมือใหม่นั้น ผมว่าขี่ได้อยู่นะ ไม่ได้ดูน่ากลัวหรืออันตรายมากนัก ถือว่าเป็นอีกทางเลือกนึงสำหรับคนที่ไม่อยากได้หรือไม่ชอบสปอร์ตไบค์อย่างที่คนส่วนใหญ่ชอบกัน แม้จะเป็นเน็กเก็ตไบค์แต่ว่ากำลังเครื่องยนต์นั้นค่อนข้างใกล้เคียงกัน มีแทร็คชั่นคอนโทรล มี ABS มีไรดิ้งโหมดเข้ามาช่วย ทำให้ขับขี่ได้ง่ายขึ้น แต่อาจจะต้องระวังเรื่องทอร์คนิดหน่อย นอกจากนี้ยางเดิมติดรถที่ให้มานั้นใช้ได้ดีเลย

ถ้าให้เทียบกับ S 1000 RR แล้วถามว่าต่างกันเยอะมั้ย ผมตอบตรงๆ เลยว่าก็พอสมควรนะ แม้จะเครื่องตัวเดียวกัน แต่ก็คงเทียบไม่ได้เพราะมีการปรับเซ็ตเครื่องยนต์และสิ่งต่างๆ ให้เหมาะกับเน็กเก็ตไบค์ที่เน้นการขับขี่บนท้องถนนมากกว่า แต่ก็ไม่ได้แย่จนน่าเกลียด และมีดีตรงที่ขี่ได้ง่ายกว่า RR สำหรับคนที่ไม่ชอบสปอร์ตไบค์ถือว่าตัวนี้ดีมากเลย ใกล้เคียงกับสปอร์ตไบค์มาก อย่างไรก็ตามมีข้อเสียตรงที่อ็อปชั่นที่ไม่เต็มเหมือนอย่าง RR เขา จัดว่าเป็นเน็กเก็ตตัวพันที่ถือว่าโอเค คุ้มค่าเลยทีเดียวและดูดีกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันมาก

“เรียกได้ว่าขี่ในเมืองก็ได้ ขี่ออกทริปก็ดี ขี่สนามก็ถือว่าโอเค”

BMW S1000R

SPECIFICATION

 

BMW S1000R

เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 4 สูบเรียงระบายความร้อนด้วยน้ำ
ปริมาตรกระบอกสูบ 999 ซีซี
ระบบวาล์ว DOHC 4 วาล์วต่อสูบ
ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก 80 X 49.7 มม.
อัตราส่วนการอัด 12.0:1
ระบบเกียร์ 6 สปีด
แรงม้า (เคลม 43 แรงม้า)
แรงบิด
ระบบจุดระเบิด แบบดิจิตอล
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์
ระบบสตาร์ท สตาร์ทไฟฟ้า
ระบบคลัทช์ คลัทช์เปียกแบบหลายแผ่นซ้อนกัน
กันสะเทือนหน้า โช้ค แบบหัวกลับขนาด 46 มม. ระยะยุบ 120 มม. สามารถปรับคอมเพรสชั่นและรีบาวด์ได้
กันสะเทือนหลัง อลูมิเนียมสวิงอาร์ม โช้คเดี่ยวระยะยุบ 120 มม. สามารถปรับรีบาวด์แดมปิ้งได้
ยางหน้า 120/70 – ZR 17
ยางหลัง 190/55 – ZR 17
เบรคหน้า ดิสก์เบรคคู่ขนาด 320 มม.พร้อมคาลิเปอร์เบรคลอยตัว 4 พ็อต (Race ABS)
เบรคหน้า ดิสก์เบรคขนาด 220 มม.พร้อมคาลิเปอร์เบรค 1 พ็อต (Race ABS)
ยาว X กว้าง X สูง 2,057 X 845 X 1,228 มม.
ระยะฐานล้อ 1,439 มม.
ความสูงเบาะ 814 มม.
น้ำหนักรถ
ความจุถังน้ำมัน 10 ลิตร
ราคา 830,000 บาท
ติดต่อ BMW

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

Bike Club สายบันเทิง !! “สายบันเทิง !!...เกิด มา ลั่น”

Bike Club สายบันเทิง!! “สายบันเทิง!!…เกิด มา […]

You May Like

Subscribe US Now

Exit mobile version