รีวิว XSR 900 2023 สายหล่อ เครื่องแรง เทคโนโลยีจัดเต็ม
สาวกสายสปอร์ตไม่ควรพลาด ครั้งนี้ทาง SuperBike Thailand ได้รับโอกาสพิเศษจากทางค่ายยามาฮ่า ส่งเทียบเชิญให้เราได้รีวิวทดสอบเจ้ารถสปอร์ตเฮอร์ริเทจอย่าง Yamaha XSR900 2023 ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นตัวท็อปจากทางค่าย ที่จัดมาให้เทสต์ จัดหนัก จัดเต็มแบบถึงพริกถึงขิง เดี๋ยวมาดูกันว่าการ รีวิว XSR900 2023 รุ่นใหม่คันนี้ จะมีสมรรถนะเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง และฟีเจอร์การใช้งานที่ตอบโจทย์การขับขี่ในเมือง หรือบนเวย์สนามแข่งได้เร้าใจขนาดไหน
ดีไซน์คลาสสิก เสมือนรถแข่งยุค 80
ก่อนจะไปรีวิวทดสอบ เราจะขอย้อนถึงที่มาที่ไปของโมเดล XSR900 กันซักนิด โดยรุ่นนี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งยามาฮ่าในปี 1980 กับรูปลักษณ์การดีไซน์ที่มีกลิ่นอายความเป็นคลาสสิก โดยมีการนำเฟรมเดลต้าบ็อกซ์ในตำนาน มาใช้เป็นต้นแบบของโมเดลรุ่นนี้ ซึ่งทางค่ายได้นำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดผลิตเฟรมอลูมิเนียมให้มีขนาดกระทัดรัด แข็งแรง แถมน้ำหนักเบายกมาใส่ในรุ่นนี้อีกด้วยครับ
 |
 |
| ถังน้ำมันดีไซน์หยดน้ำ พร้อมโลโก้ Yamaha | ไฟหน้าทรงกลมสไตล์ XSR |
 |
 |
| มุมมองการขับขี่ พร้อมกระจกปลายแฮนด์หล่อ ๆ | ไฟท้าย LED พร้อมไฟเลี้ยวดีไซน้ล้ำสมัย |
นอกจากนี้ โมเดลคันนี้ ยังได้รับการออกแบบดีไซน์ในสไตล์รถเรโทร สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ แฟริ่งของตัวรถที่ออกแบบมาให้มีความปราดเปรียว เสริมฟีลลิ่งความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น เสมือนรถแข่งในลวดลายสไตล์คลาสสิก โดยเฉพาะถังน้ำมันทรงหยดน้ำอันเป็นเอกลักษณ์ ที่มีการเว้าถังเพื่อรองรับท่านั่งการขับขี่ที่กระชับมากขึ้น แถมกิมมิกลายกราฟิกเล็ก ๆ กับโลโก้ยามาฮ่า ดูดีมีสีสันเพิ่มมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
 |
 |
| หน้า | หลัง |
แถมยังโดดเด่นด้วยไฟหน้าทรงกลม LED โดยออกแบบให้มีลำแสงที่กว้างและสว่างชัดอย่างชัดเจน ไฟท้ายดีไซน์แบบซ่อนภายใต้เบาะ เสริมด้วยไฟเลี้ยว แยกตัวออกไปอยู่ที่บังโคลน นอกเหนือจากความทันสมัยของไฟ LED แล้ว โมเดลคันนี้ยังให้แฮนด์บาร์ที่มีระยะเหมาะสม ไม่กว้างจนเกินไป แถมกระจกที่ติดมากับปลายแฮนด์ออกแบบมาได้สวยงาม
 |
 |
| ประกับคอนโทรลฝั่งซ้าย | ประกับคอนโทรลฝั่งขวา |
รวมไปถึงประกับทางฝั่งซ้ายมีปุ่มคอนโทรลการขับขี่มากมาย เช่น ไฟผ่าหมาก ปุุ่มสัญญาณแตร ไฟสูง-ไฟต่ำ ไฟเลี้ยว ไฟกระพริบ ปุ่มคอนโทรลระบบครูซคอนโทรล ส่วนประกับฝั่งคันเร่ง จะมีปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมลูกกลิ้งคอนโทรลการตั้งค่า ระบบต่าง ๆ ในตัวรถ ผ่านหน้าจอสี TFT ขนาด 3.5 นิ้ว
 |
 |
| เบาะชิ้นเดียว ดีไซน์ 2 ระดับ | ท่อไอเสีย 2 รู ดีไซน์กลางลำตัวรถ |
อีกทั้ง ตัวเบาะดีไซน์ชิ้นเดียว 2 ระดับ พร้อมที่พักเท้าผู้ซ้อนก้านสีดำทรงใหม่ซึ่งต่างจากรุ่นก่อน สามารถพับเปิด-ปิดได้ รวมไปถึงท่อไอเสียที่มีการออกแบบใหม่ โดยดีไซน์ปลายท่อ 2 รู ให้มีองศาที่ขนานกับพื้นถนน พร้อมกับการปรับจูนเสียงของท่อไอเสียใหม่ให้โดดเด่นและเร้าใจมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ ที่ยังบ่งบอกถึงความพรีเมียมอีกหลายจุดทั่วทั้งคัน เช่น แผงคอบน CNC เบาโช้คเจาะรูแต่ง โลโก้ XSR อลูมิเนียม และดีเทลอื่น ๆ อีกมากมายเลยทีเดียวครับ
ขุมพลังจัดจ้าน กับเครื่องยนต์ CP3 พื้นฐานเดียวกับ MT-09 ทอร์คหนัก ปลายพุ่ง
 |
 |
| เครื่องยนต์ CP3 3 สูบ 890 ซีซี | พร้อมระบบแอสซิสต์สลิปเปอร์คลัตช์ บิดติดมือ |
ในส่วนของขุมพลังของเครื่องยนต์รุ่นนี้ แน่นอนว่ายังคงเป็นเครื่อง CP3 สามสูบเรียงแบบครอสเพลน ขนาด 890 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่มีเอกลักษณ์ที่ทอร์คจัดจ้านสุด พร้อมกับการปรับให้รองรับมาตรฐาน Euro5 โดยเจ้าเครื่องนี้มีความจุเพิ่มขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ โดยมีการเพิ่มช่วงชักอีก 3 มม.ให้ความจุขนาดซีซีที่มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังใช้ลูกสูบใหม่ที่เบาขึ้น ขนาด 300 กรัม ทำให้ตัวรถนั้นมีกำลังเพิ่มขึ้นอีก 4 แรงม้าเป็น 119 แรงม้าที่ 11,000 รอบ และแรงบิดมากขึ้นเช่นเดียวกัน ที่ 93.0 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบ รวมไปถึงยังมีระบบแอสซิสต์สลิปเปอร์คลัตช์ในคันนี้อีกด้วย
ช่วงล่างนุ่มนวล มาพร้อมกับระบบเซฟตี้เหนือขั้น
 |
 |
| โช้คหัวกลับ ระยะยุบ 130 มม. | โช้คเดี่ยว กระเดื่องและสวิงอาร์ม ระยะยุบ 137 มม. |
สำหรับช่วงล่างเป็นอีกจุดนึงที่น่าสนใจ เริ่มกันด้วยความนุ่มนวลกับระบบกันสะเทือน ด้วยโช้ค KYB ทั้งหน้าและหลัง โดยโช้คหน้าเป็นโช้คหัวกลับปรับแต่งพรีโหลดได้ และโช้คหลังเดี่ยวพร้อมกระเดื่องซับแรงออกแบบมาได้อย่างสวยงาม
 |
 |
| ปั๊มบน Brembo | ปั๊มเบรกแบบเรเดียลเม้าท์ |
พร้อมระบบเบรก ด้านหน้ามีการอัปเกรดระบบเบรก โดยใส่ปั๊มบน Brembo มาจากโรงงาน แบบเรเดียลเม้าท์ ทำงานร่วมกับดิสก์เบรกหน้าคู่ขนาด 298 มม. ให้การเบรกที่ดีขึ้น ส่วนเบรกหลัง มีแป้นเบรกแบบฟอร์จทำงานร่วมกับดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 245 มม. เสริมด้วยล้อสปินฟอร์จขนาด 17 นิ้ว ที่ใช้เทคโนโลยีสปินฟอร์จดีไซน์แบบ 10 ก้าน ที่มีน้ำหนักเบา ส่งผลให้ควบคุมรถได้คล่องตัวและเสถียรมากขึ้น อีกทั้งล้อที่เบาขึ้นยังช่วยลดแรงเฉื่อยที่ล้อหลังได้อีก มาพร้อมขนาดยางหน้า-หลัง ขนาด 120/70 และ 180/55
เทคโนโลยีเพียบ อัดแน่นเต็มพิกัด
 |
 |
| หน้าจอสี TFT ขนาด 3.5 นิ้ว | แสดงผลฟังก์ชันครบครัน ลงตัวสุด ๆ |
สำหรับเทคโนโลยีในโมเดลรุ่นนี้บอกได้เลยว่าแน่น พร้อมที่จะซัพพอร์ททุกการบิดที่ตอบสนองความเร้าใจได้มากยิ่งขึ้น เช่น หน่วยประมวลผลแรงเฉื่อยแบบ 6 แกนหรือ IMU ระบบแทร็คชันคอนโทรล ระบบควบคุมการสไลด์ของล้อ ระบบควบคุมการลอยตัวของล้อ ซึ่งช่วยให้ขับขี่ได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังมีระบบควบคุมเบรก ที่มีลักษณะการทำงานสองโหมดคือ Brake Control 1 คือระบบเบรก ABS ทั่วไป และ Brake Control 2 คือควบคุมเบรกในโค้ง พูดง่าย ๆ คือระบบเบรก Cornering ABS นั่นเอง
นอกจากระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มเข้ามาช่วยในเรื่องของความปลอดภัยแล้ว ยังมีระบบที่ช่วยในเรื่องของความสะดวกสบายหรือในการขับขี่อาทิเช่น ควิกชิฟเตอร์แบบ 2 ทาง คันเร่งไฟฟ้า โหมดการขับขี่ 4 โหมด หน้าจอเรือนไมล์สี TFT ขนาด 3.5 นิ้ว และครูซคอนโทรล
ฟีลลิ่งการขับขี่
มาพูดกันในส่วนของฟีลลิ่งการขับขี่กันบ้าง โดยในครั้งนี้เราได้มารับเจ้า XSR900 กันสด ๆ ร้อน ๆ ที่ศูนย์ Yamaha Rider’s club สาขาเกษตรนวมินทร์ สำหรับโลเคชั่น ในการรีวิวครั้งนี้จะผ่านจุดมาร์คสำคัญต่าง ๆ อาทิ ถนนเส้นเกษตรนวมินทร์ ช็อกโกแลตวิลล์ รวมไปถึงเลียบทางด่วนมอเตอร์เวย์นั่นเอง
หลังจากที่ได้ทดสอบโมเดลนี้มาแล้ว มาดูท่านั่งการขับขี่กันก่อนเลย เพราะว่าเป็นส่วนแรกที่สัมผัสได้ แม้จะไม่ได้บิดเด้งออกไป แต่ด้วยตัวรถที่เป็นแบบเน็กเก็ดไบค์ มีแฮนด์บาร์ ทำให้ตำแหน่งแฮนด์ออกแบบมา ไม่ต้องก้มตัวลงไปแบบรถแนวสปอร์ต ตำแหน่งการวางเท้าที่ให้องศา การงอหัวเข่าเล็กน้อยไม่มาก พอจะรู้สึกถึงความสปอร์ต ทั้งหมดที่บอกไป คือการผสมผสานระหว่างพื้นฐานรถเน็กเก็ตไบค์ และรถสปอร์ตเข้าด้วยกัน ซึ่งขี่ง่าย ในงานได้ในชีวิตประจำวัน และยังให้สรีระท่านั่งที่มั่นคงอีกด้วย
ส่วนเครื่องยนต์ในพิกัดนี้ไม่เป็นรองใครแน่นอน ด้วยความที่เครื่องยนต์ ชุดเกียร์ ที่เป็นพื้นฐานเดียวกับ MT-09 เรื่องความแรงคงไม่ต้องเอ่ย ให้แรงบิดมหาศาลมาตั้งแต่รอบต้นๆ พร้อมกับ ควิกชิฟเตอร์ใส่เกียร์ได้มันส์ๆ ไม่ต้องกำคลัตซ์ แต่ถ้าให้พูดลึกไปอีกก็จัดให้ได้
ส่วนแรกเลยที่ต้องพูดนั้นคือ คันเร่งไฟฟ้า ให้การตอบสนองการบิดทุกย่านความเร็ว แต่ขึ้นอยู่กับโหมดที่เลือกใช้ด้วย สำหรับโหมด 1 เป็นโหมดที่แรงที่สุด มาไว เผลอบิดเต็ม ๆ รถมีอาการหน้าลอยได้เลยทีเดียว ส่วนบางเส้นทางบางจุดที่มีจราจรหนาแน่น การขับขี่ช่วงความเร็วต่ำ ๆ ต้องคอนโทรลคันเร่ง ก็ทำได้ดี ขี่ง่าย สบายๆ เอาเป็นว่า เครื่องยนต์ Cross plane 3 สูบรุ่นนี้ ตอบสนองการขับขี่ได้ทุกสภาวะ จะเน้นความเร็ว เน้นความแรงก็ทำได้ หรือสายใช้งาน สายออกทริป ก็ไม่มีปัญหา ถูกใจแน่นอน
สำหรับช่วงล่าง เฟรมใหม่อลูมิเนียม ให้น้ำหนักที่เบา แข็งแรง ช่วงล่างแน่น พร้อมล้อสปินฟอร์จน้ำหนักเบา เมื่อทดสอบขี่ใช้งานในเมือง รู้สึกได้ถึงความคล่องตัว การพลิกรถ หรือต้องเปลี่ยนเลนส์ด้วยความเร็ว ตอบสนองได้ดี พร้อมตัวโช้คอัพที่ติดรถมา ฟีลลิ่งส่วนนี้รับรู้ได้ช่วงขับขี่ผ่านคอสะพาน ซึ่งซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม รวมไปถึงช่วงจังหวะที่เบรกหนักๆ ระยะยุบของแกน ก็มีให้เผื่อเหลือ เผื่อขาด ส่วนฟีลลิ่งเบรก บอกเลย นุ่มนวล อยู่หมัด มั่นใจได้ มาพร้อมกับระบบ ABS ช่วงลดระยะทางเบรกเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ได้อีกด้วยในส่วนนี้
นอกจากนี้เทคโนโลยีในรถโมเดลนี้ให้มาแบบแน่นๆ โดยโมเดลคันนี้ มีเทคโนโลยี IMU 6 แกน เข้ามาช่วยในการควบคุมเสถียรภาพของตัวรถ ทำงาน เหมือนกับเซนเซอร์จับองศาของตัวรถ จะหน้าลอย ท้ายลอย องศาการเอียงของตัวรถ ที่ผิดปกติ หรือตัวรถไม่ตั้งฉากกับพื้นถนน โดยจะตัดการทำงานของเครื่องยนต์ ซึ่งสั่งการจาก IMU+ECU ระบบที่มีในตัวรถจะทำงานขึ้นอย่างรวดเร็ว
และแน่นอน เราเองก็ได้มีโอกาสทดสอบจริง ๆ ด้วยการพยายามบิดให้ล้อหน้าลอย และเบรกหลังให้ล้อหลังลอย ไม่สามารถทำได้ ตัวระบบตัดกำลังเครื่องยนต์อย่างรวดเร็ว เพื่อรักษาสมดุลของตัวรถ ปลอดภัยขึ้นได้อย่างเห็นได้ชัด แต่ถ้าใครมองว่ากลัวจะขี่ไม่สนุก สามารถปรับตั้งค่า เปิด/ปิด ได้ในเมนูของตัวรถ สำหรับ สายออกทริปเดินทางไกลๆ ก็ยังมีระบบ ครูซคอนโทรล ล็อกความเร็วในการเดินทาง เหมาะสำหรับสายออกทริปเดินทางได้สบายๆ อย่างแน่นอน
สรุปสายหล่อ สปอร์ต เฮอริเทจ
ใครที่ชื่นชอบการดีไซน์ไฟกลม เทคโนโลยีที่มีมาพร้อมให้จากโรงงานแบบเต็มพิกัด เครื่องยนต์กำลังแรงบิดมหาศาล ช่วงล่างมีให้แบบเหลือใช้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่กำลังหารถบิ๊กไบค์ขี่ที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง เด่น สะดุดตา ถ้าจะให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ลองมาทดสอบสอบได้ที่ ยามาฮ่า ไรเดอร์ คลับ ทุกสาขาทั่วประเทศไทย รับรองติดใจแน่นอน..!!
สำหรับโมเดล XSR900 มีหน่าย 2 สีได้แก่ สีน้ำเงิน (Legend Blue) และสีดำ (Midnight Black) ส่วนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 479,000 บาท มาพร้อมโปรโมชั่น ทั้งกิ๊ฟวอชเชอร์มูลค่า 20,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟรีค่าลงทะเบียน พรบ ทั้งนี้ก็ขอฝากติดตามเพจ SuperBike Thailand ได้ทุกช่องทางเลยตามข้างล่างนี้ และครั้งหน้า เราจะรีวิวรถรุ่นอะไร ก็อย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับ
Yamaha XSR900 2023 สเปค และรายละเอียดต่าง ๆ
| เครื่องยนต์ | 3 สูบเรียงระบายความร้อนด้วยน้ำ Euro5 |
| ปริมาตรกระบอกสูบ | 890 ซีซี |
| แรงม้า (เคลม) | 119 แรงม้าที่ 10,000 รอบ |
| แรงบิด (เคลม) | 93 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบ |
| ระบบวาล์ว | DOHC 4 วาล์วต่อสูบ |
| ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก | 78.0 X 62.1 ม.ม. |
| อัตราส่วนการอัด | 11.5:1 |
| ระบบเกียร์ | 6 สปีด |
| ระบบจุดระเบิด | Electronic TCI |
| ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | หัวฉีดไฟฟ้า |
| ระบบสตาร์ท | สตาร์ทไฟฟ้า |
| ระบบคลัตช์ | คลัตช์เปียกแบบหลายแผ่นซ้อนกัน |
| ระบบส่งกำลัง | โซ่ |
| ขนาดยางและล้อหน้า | 120/70 ZR17M/C (58W) แบบไม่ใช้ยางใน |
| ขนาดยางและล้อยางหลัง | 180/55 ZR17M/C (73W) แบบไม่ใช้ยางใน |
| ระบบกันสะเทือนหน้า | โช้คหัวกลับ ระยะยุบ 130 ม.ม. |
| ระบบกันสะเทือนหลัง | โช้คเดี่ยว กระเดื่องและสวิงอาร์ม ปรับแต่งได้ ระยะยุบ 137 ม.ม. |
| เบรกหน้า (เบรค) | ดิสก์เบรกคู่ขนาด 298 ม.ม. |
| เบรกหลัง | ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 245 ม.ม. |
| ยาว X กว้าง X สูง | 2,155 X 860 X 1,155 ม.ม. |
| ระยะฐานล้อ | 1,495 ม.ม. |
| ระยะห่างจากพื้นถึงตัวรถ | 140 ม.ม. |
| ความสูงเบาะ | 810 ม.ม. |
| น้ำหนักรถ | 193 ก.ก. |
| ความจุถังน้ำมัน | 14 ลิตร |
| ประเภทของน้ำมันที่เติมได้ | NA |
| เทคโนโลยี |
|
อ่านข่าวอื่นๆ จาก Yamaha คลิกที่นี่
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก
