Yamaha The Unexpected Journey #3 ทริปพิเศษที่ทางยามาฮ่าจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทริปนี้เรียกว่าทริบต้อนรับลมหนาวกันเลยทีเดียว เป็นทริปขี่มอเตอร์ไซค์ที่ฟินสุดๆ ที่ทาง Yamaha Riders’ club จัดให้กับสาวกที่ชอบขี่รถท่องเที่ยวเพียงแค่ 20 คันเท่านั้น
และครั้งนี้ทริปสุดเซอร์ไพรส์ The Unexpected Journey ครั้งที่ 3 “กินลมชมหมอก ณ เชียงของ 2,000 โค้ง” ซึ่งก่อนหน้านี้มีไปแล้ว 2 ทริป “หนีร้อนไปนอนเย็น” กับ “เลียบโขงเบิ่งดาว” ซึ่งได้จัดขึ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 14-15 ธันวาคมที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่ลมหนาวแรกได้เริ่มพัดมาเยือนประเทศไทย
จุดนัดพบของเราคือโรงแรมชายกว๊านพะเยา (จ.พะเยา) เหล่าสาวก Yamaha Riders’ club ทั้ง 20 คัน ออกเดินทางไปไหว้สักการะ อนุสาวรีย์พญางำเมือง อดีตกษัตริย์ผู้ปกครองเมืองภูกามยาว (พะเยา) ประดิษฐานอยู่ที่สวนสาธารณะ เทศบาลหน้ากว๊านพะเยา ทรงเป็นพระสหายร่วมน้ำสาบานกับพญามังราย อดีตกษัตริย์เมืองเชียงราย และพระร่วงเจ้า แห่งกรุงสุโขทัย ซึ่งทั้งสามกษัตริย์ได้ทรงกระทำสัตย์ต่อกัน ณ บริเวณน้ำแม่อิง ซึ่งปัจจุบันคือบริเวณกว๊านพะเยาแห่งนี้นี่เอง
หลังจากสักการะเอาฤกษ์เอาชัยกันเป็นที่เรียบร้อยก็เตรียมตัวเดินทางไปตามสโลแกน “กินลมชมหมอก ณ เชียงของ 2,000 โค้ง” ท่ามกลางแสงแดดอุ่นๆ กลับมีสายลมหนาวพัดมาให้ได้สัมผัส ขบวนทริปก็มุ่งหน้าวิ่งฝ่าสายหมอกยามเช้าผ่านชุมชนน้อยใหญ่ ท้องนาที่แม้จะเหลือแต่ตอแห้งๆ แต่ก็ให้สีเหลืองอร่ามเต็มทุ่งนาสวยไปอีกแบบ เพลินไปกับวิวงดงามเคล้าไอเย็นที่แทรกเข้ามาปะทะในร่างกาย
ไม่นานนักก็เข้าสู่เส้นทางที่มีโค้งสลับซับซ้อนทั้งซ้ายทั้งขวาทอดตัวยาวไปตามขุนเขาที่รายล้อมรอบตัว ขบวนทริปก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เพราะนอกจากโค้งมากมายข้างหน้า ถนนที่เราใช้ก็แบ่งเป็นสองเลนสวนกัน ลัดเลาะไปตามไหล่เขา หากประมาทก็พร้อมจะเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ
ใครที่ชอบขี่ทางโค้งเพลินๆ ไปเรื่อยๆ แล้วไม่ได้มาทริปนี้ บอกได้เลยว่าพลาดอย่างแรง เพราะตลอดเส้นทางแทบหาทางตรงไม่เจอ มองไปข้างหน้าไม่โค้งซ้ายก็ขวาสลับกันตลอดทาง แถมวิวสองข้างทางก็สวยจนแทบอยากจะมองเหลียวหลัง แต่ก็ทำได้แต่มองทางข้างหน้า ไม่อยากละสายตามามองวิวมากนัก เพราะเดี๋ยวจะได้กินข้าวลิงแทนข้าวกลางวัน
จุดหมายข้างหน้าของเราคือดอยผาตั้ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย ดอยผาตั้งเป็นยอดดอยอยู่ในเทือกเขาหลวงพระบาง สันปันน้ำเป็นจุดแบ่งอาณาเขตระหว่างประเทศไทย-ลาว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้น ทะเลหมอกในตอนเช้าและชมพระอาทิตย์ตกในเวลาเย็น มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,800 เมตร จากยอดดอยสามารถมองเห็นแม่น้ำโขงฝั่งลาวและสามารมองเห็นยอดภูชี้ฟ้าที่อยู่ห่างออกไปกว่า 25 กิโลเมตรได้อย่างชัดเจน
เมื่อถึงจุดหมายแรกที่ดอยผาตั้งแล้ว ก็ถึงเวลาพิชิตยอดดอย ใครที่มาถึงแล้วอยากสุดก็ต้องขึ้นไป ส่วนใครอยากเดินซื้อของฝาก ของกินเล่น ก็เลือกกันตามใจชอบได้เลย สไตล์ใครแบบไหนก็จัดไป ส่วนตัวผมขออยู่ข้างล่างดีกว่า ขาแข้งไม่ค่อยดี
หลังจากเสพธรรมชาติกันจนได้ที่ก็ถึงเวลาทานอาหารนะครับ จากดอยผาตั้งขี่รถลงไปอีกนิดเดียวก็เป็นร้านอาหารที่เราจะรับประทานมื้อกลางวันกัน แต่ต้องจอดรถอีกที่หนึ่ง แล้วก็ต้องออกแรงเดินไป 1 โค้ง เซอร์ไพรส์เลยล่ะครับ ขนาดเดินยังต้องเข้าโค้งเลย (ล้อเล่นนะครับ คือที่ร้านเขาจอดไม่พอเพราะจำนวนรถเยอะ เขาเลยจัดที่จอดให้อีกที่ใกล้ๆ กัน)
ร้านอาหารร้านนี้ฟินมากอยู่ทางโค้งริมหน้าผาเลยครับ มีวิวทิวเขาสวยๆ ให้เพลิดเพลิน กับเมนูอาหารจีนยูนนานขึ้นชื่อ นั่นคือ ขาหมูหมั่นโถวนั่นเอง เห็ดหอมทอด รสชาติดีหลากรส เพราะคั่วกับพริกแห้งและกระเทียมให้กลิ่นที่หอมมากๆ ไก่ดำตุ๋นยาจีน รสขาติคล้ายซุปต้มยำ ไก่ดำตุ๋นจนเปื่อยได้ความเปรี้ยวตามธรรมชาติของสมุนไพรที่ใส่ลงไป และอีกหลายเมนูอร่อยๆ หลังจากอิ่มแล้วก็เดินทางต่อ กับเส้นทางโค้งสวยๆ ลัดเลาะริมแม่น้ำโขงชมวิถีชิวิตผู้คนกับวัฒธรรมพื้นบ้านริมฝั่งแม่น้ำโขง มุ่งหน้าสู่ยอดดอยสะโง้
กับอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ ใน The Unexpected Journey ครั้งที่ 3 นี้คือ ขี่รถขึ้นยอดดอยสะโง้ ด้วยระยะทางประมาณ 600 เมตร กับทางฝุ่นปนหินและดินลูกรัง ใครอยากพิชิตยอดดอยสะโง้กับม้าศึกคู่ใจ ก็ขี่ตามอาจารย์เป็ดได้เลย เรียกได้ว่า “วิถีคนกล้า” กันเลยส่วนผู้ที่ไม่อยากขี่ขึ้นไปก็เอารถจอดไว้ลานจอดรถเชิงทางขึ้นดอยได้เลย ที่นี่มีบริการรถอีแต๊กพาขึ้นไปส่งบนยอดดอย งานนี้มีผู้กล้าอยู่ 7 ท่านทีพร้อมจะตะลุยทางขึ้นยอดดอยสะโง้ ส่วนกระผมขอนั่งรถอีแต๊กดีกว่า 55..ใจตุ๊ดขึ้นมาทันที
ดอยสะโง้ ตั้งอยู่ในอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย อยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงสะโง๊ะ เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่กว้างขวางและตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของหมู่บ้าน บนจุดชมวิวจะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของดินแดนสามประเทศ ทั้งดินแดนไทย ลาว และพม่า พร้อมสายน้ำโขงอย่างชัดเจน และมองเห็นถึงชุมชนของ 3 อำเภอ เชียงแสน แม่จัน และแม่สาย สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา
หลังจากขึ้นมาถึงยอดดอยแล้ว ก็แยกย้ายเข้าที่พักซึ่งเป็นบ้านพักแบบโฮมสเตย์ สร้างเป็นกระท่อมแบบชนเผ่าอาข่าซึ่งเป็นชนเผ่าหลักที่อาศัยอยู่บนยอดดอยแห่งนี้ โดยบ้านพักแต่ละหลังจะมีสะพานไม้เดินเชื่อมต่อกันทุกหลัง จากที่พักก็จะมองเห็นวิวฝั่งประเทศเพื่อนบ้านฝั่งลาวและขุนเขารอบตัวแบบใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมรับลมหนาวอากาศเย็นเฉียบที่เหนือสุดขอบประเทศไทย เสพอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด สร้างความประทับใจและรอยยิ้มกันถ้วนหน้ากับจุดหมายที่ทุกคนตั้งใจมาในทริปนี้ นี้ก็เป็นอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ใน The Unexpected Journey ครั้งที่ 3 นี้
ถึงเวลานัดหมายทานอาหารมื้อเย็น บนยอดดอย สะโง้ ที่ขาดไม่ได้สำหรับทริป “The Unexpected Journey” คือการนั่งทานอาหารรวมกันเป็นโต๊ะยาวแบบ Long table กับอาหารขันโตกแบบชาวเขาในครั้งนี้ ทุกคนในทริปนี้มานั่งรับประทานร่วมกัน พุดคุยกันเหมือนทั้งสองครั้งที่ผ่านมา
แต่สิ่งที่ผมรู้สึกได้ทุกครั้งที่ผมได้มีโอกาสมาร่วมทริป กับ Yamaha The Unexpected Journey คือรอยยิ้มทีมีความสุขของทุกๆ คนที่ได้มาร่วมทริปด้วยกัน ได้ขี่รถไปในทางที่ไม่เคยไป ได้เจอได้สัมผัสอะไรในแบบที่ยังไม่เคยเจอในการขี่ทริป ความคุ้มค่าในการจ่ายเงินไม่เกิน 2,000 บาท + ค่าน้ำมัน ได้ขี่รถคู่ใจไปในเส้นทางสวยๆ ของกินอร่อยๆ มิตรภาพจากเพื่อนใหม่เพื่อนเก่า ที่พักแบบฟินๆ ความเซอร์ไพรส์หลายๆ อย่าง ใน The Unexpected Journey คือทริปที่ทำให้รู้สึกมีความทรงจำ จดจำสิ่งในสิ่งที่ได้เจอ ได้สัมผัสได้เดินทางไปกับเพื่อนๆ ที่ขี่รถร่วมกัน แถมมีรูปถ่ายสวยๆ ของตัวเองกับรถคู่ใจให้เป็นที่ระลึก เก็บกลับบ้าน จากนั้นก็ถึงเวลาแยกย้ายเข้านอนภายใต้แสงดาวและอากาศเย็นๆ ของค่ำคืนนี้
เริ่มต้นเช้าวันใหม่เปิดประตูที่พักมาเจอกับแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่เพิ่งโผล่พ้นทิวเขาที่สลับซับซ้อน กับสายหมอกที่ปกคลุมจางๆ ท่ามกลางอากาศเย็นๆ ชวนให้นอนต่อ ออกมาเดินชมดอกเก๊กฮวย ที่บานสะพรั่งในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ปกติเคยเห็นแต่ดอกเก๊กฮวยอบแห้ง คราวนี้ได้เห็นทั้งต้นแบบสดๆ ต้นเป็นๆ อีกหนึ่งเซอร์ไพรส์เลยนะเนี่ย
9 โมงคือเวลาที่เราพร้อมออกเดินทางกลับ ต่างคนต่างเก็บข้าวของทยอยเดินออกมาทานอาหารเช้า ที่ทางพี่ๆ Yamaha ได้จัดเตรียมไว้ให้ชาวคณะได้อิ่มซักนิดก่อนออกเดินทางต่อ เป็นข้าวเหนียวหมูปิ้งกับโจ๊กชาวดอยอุ่นๆ จัดว่าเด็ดเลยทีเดียว หลังจากอิ่มท้องกันแล้วก็เตรียมตัวออกเดินทาง ใครเป็นผู้กล้าที่ขี่รถขึ้นมาก็มาขี่ลงไป ใครนั่งรถอีแต๊กมาก็มาขึ้นลงไปที่ลานที่จอดรถทางขึ้นเหมือนเดิม
จากนั้นก็ออกเดินทางต่ออีกประมาณเกือบ สามร้อยกว่ากิโลเมตร เพื่อไปให้ถึงไปยังจุดหมายสุดท้ายของทริปนี้ “ไร่ชาฉุยฟง” จำนวนโค้งที่ไม่สามารถนับได้ว่าน้อยกว่าหรือมากกว่าเมื่อวาน เพราะผมมึนไปหมดเสพโค้งจนเมาเลยก็ว่าได้ จนมาถึงเป้าหมายสุดท้าย เพื่อมาจิบชาหอมๆ จากไร่ชาเก่าแก่กว่า 500 ไร่ ไร่ชาฉุยฟงตั้งอยู่บนภูเขาสูงกว่า 1,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติและทิวเขาที่สวยงาม ตั้งอยู่ในอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ทุกคนได้เข้ามาสัมผัสกับธรรมชาติ ไร่ชา มีเมนูชามากมายให้เลือกแล้วแต่ความชอบ ได้นั่งชมวิวจิบชา แบบนี้ ฟินสุดๆ ไปเลย คนที่อยากซื้อชากลับไปเป็นของฝากที่บ้านก็ สามารถเข้าไปดูได้ที่ร้านขายของที่ระลึก เรียกว่าฟินสุดๆ สำหรับทริปนี้
การเดินทางในครั้งนี้ของ The Unexpected Journey#3 กินลมชมหมอก ณ เชียงของ 2,000 โค้ง ในทริปนี้ถือว่าตรงปกแท้จริงตามสโลแกนที่ตั้งไว้เลย มีครบทั้งอากาศเย็นๆ สายหมอกบางๆ ทิวทัศน์สองข้างทางที่สวยงามกับถนนที่ทอดยาวลัดเลาะแนวขุนเขาที่อยู่เบื้องหน้าจนไม่สามารถนับได้ว่าขี่ไปแล้วกี่โค้ง ความยังเป็นธรรมชาติของวิถีชีวิตคนไทยที่หาไม่ได้ในเมืองกรุง ความเซอร์ไพรส์หลายๆ อย่าง ใน The Unexpected Journey ที่ยังเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Yamaha Riders’ club ที่จัดให้กับเหล่าสาวกที่อยากร่วมทริปสุดพิเศษ แบบนี้ ทริปที่ทำให้ผมรู้สึกว่า ตลอดเวลาที่ได้ร่วมทริปนี้มันทำให้ผมได้เห็นรอยยิ้มแห่งความสุข ของทุกคนที่ได้ร่วมในทริปเจ๋งๆ กิจกรรมดีๆ แบบนี้
ทริปหน้าครั้งสุดท้ายของการเดินทาง The Unexpected Journey จะพาไปไหนมีเซอร์ไพรส์อะไรให้กับสาวกสายเที่ยว ก็ต้องรอติดตามกันต่อไป (ใครอยากทริปดีๆ แบบนี้รีบจองนะจ๊ะ จำนวนจำกัด) ต้องขอขอบคุณทาง Yamaha Riders’ club ที่ได้ให้ทาง SuperBike ได้ร่วมเดินทางไปในครั้งนี้ด้วยครับ
ชมภาพเต็มๆ ได้ที่นี่คลิกเลยครับ
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก