Shoei X-Fifteen หมวกสายซิ่งตัวท็อปรุ่นใหม่ ดีขึ้นรอบด้าน
หลาย ๆ คนก็น่าจะรู้ว่าหมวกกันน็อกแบรนด์นี้มีนักแข่งระดับโลกใส่กันอยู่หลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Marc Marquez แชมป์โลกทุกรายการรวมกัน 8 สมัยและ Alex Marquez น้องชายของเขา ซึ่งเป็นเสมือนเครื่องการันตีคุณภาพของหมวกได้เป็นอย่างดี
สำหรับสิ่งที่ปรับปรุงมาใหม่ในโมเดลนี้จุดเด่นเห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องของแอโรไดนามิกส์ ที่ทางค่ายทดสอบกันในอุโมงค์ลมและเคลมมาว่าจะลดการยกตัวของหมวกได้ 1.6% และลดแรงฉุดของหมวกได้ 6.1% ด้วยการออกแบบเชลล์หมวกใหม่ให้มีส่วนคางที่แคบบวกกับปรับปรุงตัวปีกที่ด้านหลังซึ่งทำหน้าที่เพิ่มความนิ่งให้กับตัวหมวก ทำให้หมวกนิ่งขึ้นเมื่อขับขี่ที่ความเร็วสูง ๆ (ทดสอบที่ความเร็ว 348.8 กม./ชม.)
ต่อมาเป็นเรื่องของช่องลมระบายความร้อนซึ่งปรับปรุงมาโดยอาศัยการทดสอบในอุโมงค์ลมเช่นกัน โดยออกแบบมาให้มีการถ่ายเทอากาศร้อนที่ดีในทุก ๆ ท่าทางการขับขี่ โดยมีช่องลมเข้าที่เปิดปิดได้ถึง 7 ช่อง ช่องลมออกอีก 6 ช่องซึ่งจัดวางตำแหน่งไว้อย่างดี รวมไปถึงการระบบระบายอากาศโดยการเจาะรูที่นวมชิ้นแก้ม จึงช่วยการันตีได้ว่าใส่แล้วจะเย็นกว่าหมวกรุ่นเก่าแน่นอน
ตลอดไปจนถึงความสบายขั้นสุดด้วยเทคโนโลยี 3D Max-Dry Interior System II ซึ่งก็คือนวัตกรรมที่ทำให้วัสดุที่ใช้ทำซับในนวมหมวกด้านในนั้นดูดซับเหงื่อและความชื้นได้ดี และระบายออกได้เร็วกว่าวัสดุปกติ 2 เท่า และยังสามารถปรับขนาดนวมหมวกในชิ้นต่าง ๆ เพื่อให้ใส่กระชับได้มากที่สุด
วิสัยทัศน์กว้างขึ้นก็เป็นส่วนสำคัญของหมวกกันน็อกรุ่นนี้ โดยกว้างขึ้นทั้งมุมมองมองด้านบน และด้านข้าง รวมถึงขนาดพินล็อกกันฝ้าที่มีให้ก็มีขนาดใหญ่ขึ้นอีก 10% ช่วยให้ทัศนวิสัยดีขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ระบบชิลด์ก็ปรับปรุงใหม่ กัน UV 99% และขึ้นรูปด้วยวิธีการล้ำสมัยอย่างการฉีดพิมพ์ขึ้นรูปแบบ 3 มิติสุดล้ำ ทำให้ภาพที่ได้ไม่หลอกตา ไม่บิดเบือน พร้อมระบบล็อกชิลด์ 2 ชั้น การันตีชิลด์ไม่เปิดเองแม้ขณะล้ม
และที่สำคัญก็คือเรื่องของความปลอดภัย ตัวหมวกนั้นใช้โครงสร้างเชลล์หมวกแบบ Multi-Ply Matrix AIM+ ซึ่งนำเอาไฟเบอร์กลาสน้ำหนักเบามาเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ถึง 6 ชั้นด้วยกัน เพื่อให้ความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และการดูดซับแรงกระแทกที่เหมาะสม อีกทั้งยังมีโฟมหมวกที่มีความหนาแน่นในแต่ละจุดแตกต่างกันตามความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ รวม ๆ กันแล้วก็ทำให้สามารถทดสอบผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ ๆ อย่าง Snell M2020R และ ECE22.06
ก็เรียกได้ว่ามีคุณสมบัติที่ดีขึ้นรอบด้านจริง ๆ งานนี้ใครอยากเป็นเจ้าของก็คงต้องอดใจรอว่าทางผู้นำเข้าในประเทศไทยจะนำเข้ามาจำหน่ายเมื่อไหร่กันนะครับ แต่ราคาบอกเลยว่าสูงแน่นอนเพราะนี่คือตัวท็อปของทางแบรนด์แล้ว
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก