Scrambler Desert Sled & Scrambler Icon – ลุยก็ดี ซิ่งก็มัน

Admin Superbike

Scrambler Desert Sled & Scrambler Icon – ลุยก็ดี ซิ่งก็มัน

Ducati Scrambler

และนี่คือครั้งแรกของเราที่จะได้ไปทดสอบ Scrambler Ducati โมเดลใหม่ 2019 ถึง 2 โมเดลพร้อมกัน ในฐานะที่ผมเป็น VIP ของ Pirelli Thailand ไม่ใช่สื่อหรือลูกค้าของ Ducati แต่อย่างไร มาทดสอบแบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟกันถึงที่เขาหลัก จังหวัดพังงา ซึ่งก็ไม่ต้องแปลกใจเพราะ Ducati ทุกโมเดลนั้นใช้ยาง Pirelli เพื่อเน้นประสิทธิภาพและชูภาพของความเป็นรถอิตาลีแท้ๆ นั่นเอง โดยแต่ละโมเดลก็จะใช้ยาง Pirelli รุ่นต่างๆ แตกต่างกันออกไปตามแต่ละสไตล์ของรถนั่นเอง นอกจากนี้ผมยังได้มีโอกาสทดสอบร่วมกับชาวต่างชาติจากหลายประเทศ ทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย โดยทุกคนต่างก็มาที่นี่เพื่อลองขับขี่ Scrambler โมเดลใหม่ 2019 ซึ่งได้แก่ Scrambler Desert Sled และ Scrambler icon

 

Ducati Scrambler Desert Sled

Ducati Scrambler Desert Sled
Ducati Scrambler Desert Sled

เรามาพูดถึงคันแรกกันก่อนเลย สำหรับ Ducati Scrambler Desert Sled ก็เป็นโมเดลใหม่ที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงในปี 2019 นี้ มันมีสไตล์ของสแครมเบลอร์สายลุยชัดเจนมากๆ จากล้อซี่และยางแบบบั้งๆ ตัวรถสีหลักเป็นสีขาวตัดด้วยเฟรมที่ใหญ่ขึ้นและเส้นสายสีแดงสดตามแบบของ Ducati ด้านข้างถังน้ำมันเป็นสีบรอนซ์เงินพร้อมโลโก้ Scrambler Ducati และเครื่องหมายกากบาทสีแดงสด เอกลักษณ์เฉพาะของ Desert Sled

Ducati Scrambler Desert Sled
Ducati Scrambler Desert Sled

ไฟหน้ามีตะแกรงกันหินดีดใส่ไฟหน้าให้มาดที่ดูลุยๆ ดิบๆ ด้านในแอบมีไฟเดย์ไลท์ ด้านบนขึ้นมาเป็นเรือนไมล์ดิจิตอลดูเรียบหรูและทันสมัย ตัวรถมีระยะยุบค่อนข้างมาก บังโคลนหน้ายกสูงรองรับกับการยุบตัวของโช้คหน้า ใต้ท้องเครื่องมีการ์ดป้องกัน ท้ายเองก็สูงสังเกตได้จากที่ติดแผ่นทะเบียน บ่งบอกถึงความสามารถในการลุยข้ามผ่านอุปสรรคได้เป็นอย่างดี ท่อไอเสียก็ดีไซน์ได้สวยงามแบบ 2 ออก 2 เก็บปลายเป็นสีดำดูดุดันจากรูปร่างหน้าตานั้นผมให้ 9 เต็ม 10 เลยละกันครับ ดูดีและลงตัวมากๆ และสำหรับการทดสอบเจ้า Desert Sled นั้นจะมีทั้งทดสอบบนถนนและบนทางฝุ่นซึ่งจะเป็นเรื่องดีที่ทีมงานจัดไว้แบบนี้ เพื่อที่เราจะได้รู้ว่ามันลุยได้ดีแค่ไหน

Ducati Scrambler Desert Sled

โดยขุมพลังของ Desert Sled นั้นมาเป็นเครื่อง L-Twin 2 สูบ 4 จังหวะขนาด 803 ซีซีระบายความร้อนด้วยอากาศ ให้กำลังแรงม้า 73 ตัวที่ 8,250 รอบและแรงบิด 67 นิวตันเมตรที่ 5,750 รอบ จากการได้ทดลองขับขี่บนเส้นทางเขาหลักไปยังเสม็ดนางชี ทั้งทางดำทางฝุ่น เรียกได้ว่ามีกำลังใช้ได้ดีทีเดียว ตัวรถเป็นคันเร่งไฟฟ้า ดังนั้นก็เลยจะมีโหมดการขับขี่ให้เลือก 2 โหมดคือ Journey คือโหมดสำหรับเดินทางทั่วไปบนทางดำ และโหมด Off-Road สำหรับบุกตะลุยในทางฝุ่น น่าเสียดายที่สามารถปรับเลือกได้เฉพาะตอนจอดรถเท่านั้น แต่ที่น่าชมคือในโหมด Off-Road นั้นให้ความรู้สึกแตกต่างออกไปมาก ให้กำลังแรงเต็มที่ น่าจะเป็นเพราะมีการปรับลดแทร็คชั่นคอนโทรลออกไป เพื่อให้ล้อหลังสามารถที่จะตะกุยดินทราย หรือหินกรวดต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ เครื่องยนต์มีกำลังเหลือพอที่จะพาทั้งคนและรถ ออกจากหลุมบ่อได้ไม่ยากนัก

Ducati Scrambler Desert Sled

Ducati Scrambler Desert Sled

เรื่องช่วงล่างนั้นถือว่าให้ของมาค่อนข้างดี โช้คอัพหน้าแบบหัวกลับจาก Kayaba ขนาด 46 มม.ให้ระยะยุบมากถึง 200 มม. โช้คหลังเดี่ยวเองก็เช่นกัน ล้อหน้าหลังแบบซี่ลวด ยาง Pirelli Scorpion Rally STR ดิสก์เบรกเดี่ยวและคาลิเปอร์เบรคจาก Brembo พร้อมระบบเบรก ABS จาก Bosch ช่วยให้การขับขี่ได้ดีทั้งทางฝุ่นและทางดำ อีกทั้งยังปลอดภัยจากระบบเบรคที่จัดมาให้ โดยเฉพาะระบบเบรก ABS ที่เปิดปิดได้ เพื่อให้เข้ากับการขับขี่แบบต่างๆ ถือว่าเป็นจุดที่ดีมากๆ โดยรวมๆ แล้วถือว่าเป็นรถสองประสงค์ที่ดีมากๆ ขี่ในเมืองก็หล่อ ขี่ลุยบ่อก็ไหว (อิอิ)

Desert Sled

 Desert Sled

 

Ducati Scrambler Icon

Ducati Scrambler Yellow Icon

เข้าวันที่สองกับการทดสอบรอบนี้สลับรถมาทดสอบเป็นรุ่น Icon คันนี้เป็นรถแนวสตรีทยูสหรือขี่ถนนเป็นหลัก แต่ก็ลุยได้นิดหน่อย ภายนอกก็จะมีส่วนละม้ายคล้ายคลึงกับ Desert Sled อยู่หลายส่วน ทั้งรูปร่างหน้าตา ไฟกลม ทรงสวย เล็กกะทัดรัด แต่ก็จะไม่สูงเท่า และมีอะไรหลายๆ อย่างที่ออกแบบไปให้เหมาะกับการขี่ทางดำซะมากกว่า ทั้งระยะยุบของโช้ค บังโคลน ขนาดล้อ ประเภทของล้อ เป็นต้น โดยรวมๆ แล้ว Icon ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากโมเดลก่อนหน้านี้มากนัก จะมีการเปลี่ยนแปลงโฉมเพียงเล็กน้อยที่ถังน้ำมันด้านข้าง ล้ออลูมิเนียม 10 ก้านใหม่แบบเดียวกับ Scrambler 1100 นอกนั้นจะเป็นการปรับปรุงเรื่องของสมรรถนะ

Ducati Scrambler Icon

เครื่องยนต์ตัวนี้มีพื้นฐานตัวเดียวกับ Ducati Scrambler Desert Sled บล็อกเดียวกัน แต่รู้สึกว่าการขับขี่บนถนนมี Icon มีแรงบิดพอสมควร อาจจะเกิดจากปัจจัยการปรับจูน และจากการขับขี่ก็ทำให้สัมผัสได้ว่ามันทำความเร็วได้ดีกว่าพอสมควร ซึ่งน่าจะมีผลมาจากดอกยางของ Pirelli MT 60 RS ที่สัมผัสพื้นมากกว่าตัว Pirelli Scorpion Rally STR  ท่านั่งการขับขี่ที่ไม่กินลมหรือต้านลมมากเกินไป จึงทำให้รู้สึกว่าตัวรถทำความเร็วได้ดีกว่าตัว Desert sled แต่ก็อย่างว่า นานาจิตตัง ชอบแบบไหนซื้อแบบนั้น ใช้ในเมือง ผมแนะนำตัว Icon ส่วนอยากลุย อยากมันส์แนะนำ Desert Sled

Ducati Scrambler Icon

ถึงแม้เครื่องยนต์พื้นฐานเหมือนกัน แต่ Icon ไม่มีโหมดการขับขี่มาให้ รวมไปถึง ABS ที่ไม่สามารถเปิด-ปิด เหมือนเป็นตัวพื้นฐานแล้ว Desert Sled เป็นตัวแต่งอะไรทำนองนั้น อย่างไรก็ดีเจ้า Icon ค่อนข้างปราดเปรียว เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง หรือ ออกทริปบนถนน ลุยได้นิดหน่อย แต่ก็ยังเป็นลอง Desert sled อยู่ดี

Ducati Scrambler Icon

โช้คหน้าแบบหัวกลับจาก Kayaba ขนาด 41 มม. โช้คหลัง Kayaba ปรับพรีโหลดได้ ส่วนล้อนั้นด้านหน้านาด 18 นิ้ว ดิสก์เบรก Brembo เดี่ยว ล้อหลังขนาด 17 นิ้ว มาพร้อมกับยาง Pirelli MT 60 RS ที่ลุยก็พอได้ ทางเรียบก็โอเค รวมกันแล้วให้มิติท่านั่งที่ต่างจาก Desert Sled คือเตี้ยกว่า ท่านั่งการขับขี่กินลมน้อยกว่า รู้สึกถึงความสบายในการขับขี่ ถนนที่เราจะทดสอบในครั้งนี้ เป็นทางที่ค่อนข้างจะเป็นโค้งความเร็วสูงอยู่มาก ก็ทำความเร็วยืนพื้นที่ 100-120 กม./ชม. แต่ก็มีบางช่วงเราสามารถทำความเร็วได้ถึง 100-120 กม./ชม.กันเลย เรียกได้ว่าช่วงล่างที่ให้มาค่อนข้างจะดีทีเดียว

Ducati Scrambler Icon

สรุปอยากจะเก็บไว้ทั้ง 2 คันเลย ชอบความลุยที่ Desert Sled ทำได้ในป่าและทางขรุขระ แต่ก็ชอบความปราดเปรียวของ Icon ที่ทำได้ดีเวลามุดและขับขี่บนถนน แต่ละคันถูกออกแบบมาในคาแร็คเตอร์ที่ชัดเจน อย่างเห็นได้ชัด ผมอยากจะบอกว่าการทดสอบแต่ละครั้ง อยากจะสื่อให้ออกมาเข้าใจมากที่สุด ครั้งนี้บอกได้เลยว่าสุดจริงทั้งสองวัน

Ducati Scrambler Icon

Ducati Scrambler Icon

ในการทดสอบครั้งนี้ก็ต้องขอขอบคุณ Pirelli Thailand ที่ได้เชิญเราเข้าร่วมทดสอบรถสุดพิเศษครั้งนี้ถึงที่ เขาหลัก จังหวัดพังงา เป็นงานทดสอบรถที่สมบูรณ์แบบมาก….ขอบคุณครับ

Ducati Scrambler Icon

Specifications

รุ่น Desert Sled Icon
เครื่องยนต์ 2 สูบเรียงระบายความร้อนด้วยอากาศ 4 จังหวะ 2 สูบเรียงระบายความร้อนด้วยอากาศ 4 จังหวะ
ปริมาตรกระบอกสูบ 803 ซีซี 803 ซีซี
ระบบวาล์ว 2 วาล์วต่อสูบ 2 วาล์วต่อสูบ
ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก 88.0 X 66.0 มม. 88.0 X 66.0 มม.
อัตราส่วนการอัด 11.0:1 11.0:1
แรงม้า เคลม 73 แรงม้าที่ 8,250 รอบ 73 แรงม้าที่ 8,250 รอบ
แรงบิด เคลม 67 นิวตันเมตรที่5,750 รอบ 67 นิวตันเมตรที่5,750 รอบ
ระบบเกียร์ 6 สปีด 6 สปีด
ระบบจุดระเบิด อิเล็กทรอนิกส์ อิเล็กทรอนิกส์
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีด หัวฉีด
ระบบสตาร์ท สตาร์ทไฟฟ้า สตาร์ทไฟฟ้า
ระบบคลัทช์ คลัทช์เปียกหลายแผ่นซ้อนกันแบบอัตโนมัติ คลัทช์เปียกหลายแผ่นซ้อนกันแบบอัตโนมัติ
ยาว X กว้าง X สูง 2,200 X 940 X 1,213 มม. 2,100 X 855 X 1,150 มม.
ขนาดยางหน้า Pirelli SCORPION™ RALLY STR 120/70 R19 Pirelli MT 60 RS 110/80 R18
ขนาดยางหลัง Pirelli SCORPION™ RALLY STR 170/60 R17 Pirelli MT 60 RS 180/55 R17
ระบบกันสะเทือนหน้า โช้คหัวกลับขนาด 46 มม. ปรับแต่งได้ระยะยุบ 200 มม. โช้คหัวกลับขนาด 41 มม. ปรับพรีโหลดได้ระยะยุบ 150 มม.
ระบบกันสะเทือนหลัง สวิงอาร์มและโช้คเดี่ยวปรับพรีโหลดและรีบาวด์ได้ ระยะยุบ 200 มม. สวิงอาร์มและโช้คเดี่ยวปรับพรีโหลดได้ ระยะยุบ 150 มม.
เบรคหน้า ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 330 มม.คาลิเปอร์เบรกแบบเรเดียลเมาท์ 4 พ็อต พร้อม Cornering ABS เปิดปิดได้ ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 330 มม.คาลิเปอร์เบรกแบบเรเดียลเมาท์ 4 พ็อต พร้อม Cornering ABS
เบรคหลัง ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 245 มม. คาลิเปอร์เบรกแบบ 1 พ็อต พร้อม Cornering ABS เปิดปิดได้ ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 245 มม. คาลิเปอร์เบรกแบบ 1 พ็อต พร้อม Cornering ABS
ระยะฐานล้อ 1,505 มม. 1,445 มม.
ความสูงเบาะ 860 มม. 798 มม.
น้ำหนักรถ 209 กก. 189 กก.
ความจุถังน้ำมัน 13.5 ลิตร 13.5 ลิตร
ราคา 480,000 บาท 389,000 บาท

 

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

ติดตามเราบนแฟนเพจคลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

Suzuki เปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุด Gixxer SF 250 2019 !!

Suzuki เปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุดกันไปเป็นที่เรียบร้อยส […]

You May Like

Subscribe US Now