Nmax Connected Trip กับ 5 จุดเด่น ลุยทริปสุดแม็กซ์@พัทยา

Joe Superbike

Nmax Connected Trip กับ 5 จุดเด่น ลุยทริปสุดแม็กซ์@พัทยา

พึ่งผ่านพ้นทริปกรุงเทพ-เขาใหญ่ไปหมาด ๆ แบบยังไม่ทันหายหน้าฝน ไทยยามาฮ่า เดินหน้าจัดต่อความมันส์ต่อเนื่องในกิจกรรม Nmax Connect Trip เชื่อมต่อชีวิตให้สุด MAX@PATTAYA กับการพาสื่อมวลชนชั้นนำและอินฟลูเอนเซอร์ร่วมขี่ Yamaha Nmax Connected ลุยเส้นทางกรุงเทพ-พัทยา

โดยครั้งนี้ SuperBike Thailand ก็ไม่พลาดโอกาสดี ๆ ในการร่วมจอยความสนุกในกิจกรรมไปพร้อมกับ 5 จุดเด่นพิเศษ ของเจ้า Nmax Connected กับการพิสูจน์สมรรถนะการขับขี่ เส้นทางกรุงเทพ-พัทยา รวมระยะทางกว่า 300 กม. เดี๋ยวไปดูกันว่ามีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง 

1.ท่านั่งตอบโจทย์ เบาะใหญ่ นั่งสบาย 

ขับขี่สบาย เบาะใหญ่ นิ่มสุด ๆ

หลังจากเช็คอินที่ Yamaha Riding Academy (YRA) เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เริ่มออกเดินทาง โดยวิ่งผ่านเส้นทางถนนเทพรัตน์มุ่งหน้าสู่ชลบุรี ซึ่งหลังที่ได้นั่งขับขี่ไปแล้ว ฟีลลิ่งที่สัมผัสได้อันดับแรกของนั่นก็คือ ตัวรถออกแบบให้มีองศาท่านั่งขับขี่ที่ตอบโจทย์สุด ๆ และด้วยส่วนตัวมีขนาดส่วนสูงที่ 176 ซม. องศาท่านั่งขับขี่โมเดลรุ่นนี้ออกแบบมาได้ดีเลยทีเดียว กับเบาะตอนเดียว 2 ระดับ นั่งสบายและมีพื้นที่เหลือ ๆ สำหรับคนซ้อน ส่วนที่พักเท้าออกแบบให้มีระดับไว้เปลี่ยนฟีลลิ่งขับขี่ได้สนุกมากขึ้น แถมไม่เมื่อยอีกด้วย 

2.แรง และ ประหยัดน้ำมัน ด้วยเครื่องยนต์บลูคอร์

สำหรับหัวใจหลักของโมเดลรุ่นนี้ หากไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ กับขุมพลังบลูคอร์ 4 วาล์ว ขนาด 155 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่ให้อัตราเร่งได้ดี ขี่สนุก บิดติดมือ พร้อมระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VVA ช่วยตอบสนองการขับขี่ได้สนุกมากยิ่งขึ้น ซึ่งขอบอกเลยว่า แม้จะขี่ทางใกล้หรือระยะทางไกลตอบโจทย์แน่นอนในจุดนี้ 

หน้าจอ LCD แสดงผลฟงัก์ชันครบครัน

นอกจากความแรงแล้ว ยังมาพร้อมกับความประหยัดน้ำมัน ด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยที่ 45 กม./ลิตร กับความเร็วที่ใช้ในทริปที่ 80-110 กม./ชม. แต่ถ้าหากขับขี่ใช้งานในเมือง ก็จะประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน และยังมาพร้อมกับระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ หรือ Start & Stop ที่ช่วยให้เครื่องยนต์เดินรอบเบาในช่วงเวลาหยุดหรือจอดรถ ถือเป็นเอกลักษณ์อีกจุดของทางค่ายที่ติดมาให้ใช้งานอีกด้วย

เช็คอินจุดแรกที่ร้าน SEA SALT Bangpra
ต่อด้วยจุดที่สอง ณ ลาน Lighting Art Museum&Balloon Garden

และแล้วก็เดินทางถึงร้าน SEA SALT Bangpra แอดขออนุญาติรับประทานอาหาร เติมพลังงานลงท้องกันซักหน่อย ก่อนที่เดินทางไปยังจุดหมายต่อไปที่ Lighting Art Museum&Balloon Garden พร้อมนำ Nmax Connected จอดถ่ายหล่อ ๆ หน้าลานบอลลูนกันซักเล็กน้อย

3.ช่วงล่างตอบโจทย์ แม้ฝนตก..ก็ไม่หวั่น

ไม่หวั่นแม้ถนนเปียก

ต่อด้วยระบบช่วงล่างของการขับขี่ทริปนี้ ด้วยระบบกันสะเทือนกับโช้คหน้าแบบเทเลสโคปิก โช้คหลังสปริงคู่ปรับพรีโหลดได้ตามการใช้งาน มาพร้อมระบบเบรกด้วยดิสก์เบรก หน้า-หลัง เสริมด้วยระบบ ABS แบบ Dual Channel  ล้อแม็ก 13 นิ้ว ยางหน้า 110/70 ยางหลัง 130/70 ขอบอกเลยว่าตัวรถให้ความนุ่มนวล ซับแรงกระแทกได้ และไม่หวั่นแน่นอนแม้เผชิญกับอุปสรรคกับฝนที่โปรยลงมาเป็นระยะ ๆ และสภาพถนนที่ค่อนข้างลื่น แถมยังอุ่นใจมากขึ้นด้วยระบบแทร็คชันคอนโทรลที่ติดมาให้ในรุ่นนี้อีกด้วย 

เช็คอิน ณ BFA Flying Club

หลังจากเดินทางออกจาก Lighting Art Museum&Balloon Garden เพื่อไปยัง BFA Flying Club เติมความแม็กซ์ต่อเนื่องในกิจกรรมสุดท้าทายกับ Paramotor ผจญภัยบินเหนือน่านฟ้าพัทยา ซึ่งทางผู้จัดบอกว่าผู้ชายแมน ๆ เขาคุยบนที่สูง ผู้ชายอกสามศอกอย่างผมก็คงปฎิเสธไม่ได้ จัดมาเลยครับ ขออนุญาตบินไปสูดอากาศข้างบนกันซักหน่อย ก่อนจะกลับที่พักเพื่อลุยภารกิจในวันถัดไป

ผจญภัยสุดแม็กซ์ ไปกับ Paramotor ชมวิวเมืองพัทยา

4.ฟีเจอร์ครบ สะดวกมากขึ้น

มาต่อที่ฟีเจอร์การใช้งานสำหรับรุ่นนี้ อย่างแรกเลยคือ U-Box ใต้เบาะที่มีขนาดใหญ่ สามารถใส่สัมภาระ อุปกรณ์ หรือหมวกกันน็อกได้เต็มใบอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีหน้าจอดิจิทัล LCD ช่องชาร์จไฟ UBS ด้านหน้า พร้อมทั้งกุญแจ Smart Keyless สะดวกสบายในการสตาร์ทเครื่องยนต์โดยไม่ต้องใช้กุญแจ

ไฟหน้า LED ดีไซน์สปอร์ต

รวมไปถึงระบบเทคโนโลยี Y-Connect ที่เป็นเอกสิทธิ์จากยามาฮ่า สามารถเชื่อมต่อข้อมูลตัวรถผ่านสมาร์ทโฟน แสดงผลการใช้งานได้ทั้ง ดูแผนที่ ดูอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน รับโทรศัพท์ ข้อความ และอื่น ๆ ครบครันในรุ่นนี้  

5.รับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร

จอดหล่อ ๆ ริมชายหาด

ต่อด้วยกับการนำ Nmax Connected จอดถ่ายรูปหล่อ ๆ ริมชายหาด เติมบรรยากาศความแม็กซ์แบบลงตัว ก่อนเดินทางกลับ ก็ขอสรุปนะครับ สำหรับเจ้า Nmax Connected กับทริปขับขี่กรุงเทพ-พัทยา ทั้งรูปลักษณ์ตัวรถที่ตอบโจทย์ท่านั่งขับขี่ เครื่องยนต์ที่แรงและประหยัดน้ำมัน ช่วงล่างนุ่มนวล ระบบเบรกมาพร้อม ABS ฟีเจอร์ใช้งานครบครัน ในราคาค่าตัวที่ 95,000 บาท 

พร้อมรับประกันนานถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร (*เช็ครายละเอียดการรับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กม. ได้ที่นี่: https://bit.ly/Yamaha_5Years-Warranty_) โดยสามารถไปชมคันจริงได้ที่ศูนย์บริการ ยามาฮ่า สแควร์ ทุกสาขาทั่วประเทศ สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณทางไทยยามาฮ่า ที่ให้โอกาสได้ร่วมสนุกสุกแม็กซ์ตลอดทั้งกิจกรรม หากครั้งต่อไปมีกิจกรรมไหนจากไทยยามาฮ่า แอดจะรีบอัปเดตให้ทราบ ยังไงก็อย่าลืมฝากติดตามพวกเรา SuperBike Thailand กันด้วยนะครับ

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Next Post

KX450 50TH Anniversary Edition ลายพิเศษฉลองตำนานทางฝุ่นกว่า 50 ปี

KX450 50TH Anniversary Edition ลายพิเศษฉลองตำนานทา […]

You May Like

Subscribe US Now

Exit mobile version