Ninja 650 2025 สปอร์ตทัวเรอร์สองสูบ กับสีใหม่ที่สะดุดตา

Joe Superbike

Ninja 650 2025 สปอร์ตทัวเรอร์สองสูบ กับสีใหม่ที่สะดุดตา

Ninja 650 2025
สีใหม่ แสบ สะดุดตา

หลังจากเปิดตัวโฉม 2024 ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้ ทางคาวาซากิก็พร้อมเดินหน้าออกโฉมใหม่ปล่อยสู่ตลาดต่อเนื่องกับ Kawasaki Ninja 650 2025 สปอร์ตทัวเรอร์พิกัดไซส์กลาง โดยคราวนี้เจ้าตัวก็มาพร้อมกับลวดลายและชุดสีที่สะดุดตามากขึ้นเป็นพิเศษ รวมถึงอีก 2 สีใหม่ดูสปอร์ตและคมเข้มมากยิ่งขึ้น ทิ้งคาแรคเตอร์จากโฉมคอลเลคชันฉลอง 40 ปีไปอย่างสิ้นเชิง 

สีใหม่ ลายใหม่ สะดุดตา

แอบถ่ายก็ยังหล่อ

ด้วยการออกแบบให้ดูมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ทั้งไฟ Head Light LED ขนาดใหญ่ ตัวชิลด์ตัวถังงานแฟริ่งดูโฉบเฉี่ยว และมีมิติที่ดูบึกบึน ดูมีกำลัง กล้ามใหญ่ และเพิ่มลวดลายบริเวณที่ล้อ ประกอบกับคาแรคเตอร์ของความเป็นรถสปอร์ตที่เข้าถึงง่าย ท่านั่งสบาย ไม่ต้องก้มกดแขนลงไปมาก มันจึงเป็นรถที่ต้องตาหมายปองของเหล่าไบค์เกอร์โดยเฉพาะสาวกแฟน ๆ ค่ายเขียวเลยไม่น้อย ถ้าเอาไปขี่รับสาว ๆ แล้วหล่ะก็..คุณอาจได้ควง 2 เลยหล่ะ

ขุมพลัง Parallel Twin 649 ซีซี 

พร้อมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 2 สูบเรียงขนาด 649 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ใช้ระบบ DOHC 8 วาล์ว มีขนาดกระบอกสูบและช่วงชัก 83.0 x 60.0 มม. อัตราส่วนอัด 10.8:1 และมีขนาดเรือนลิ้นเร่ง 36 มม. รวมถึงชุดเกียร์ 6 สปีดติดคู่มากับแอสซิสต์สลิปเปอร์คลัตช์ โดยให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 68 แรงม้าที่ 8,000 รอบ และแรงบิด 64 นิวตันเมตรที่ 6,700 รอบ พร้อมถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 15 ลิตร 

เมื่อไหร่จะให้โช้ค Up Side Down

ยังคงดั้งเดิมด้วยระบบช่วงล่างกับโช้คเทเลสโคปิกด้านหน้าที่มีขนาดแกน 41 มม. ส่วนโช้คหลังเป็นโช้คเดี่ยว สามารถปรับค่าพรีโหลดตัวสปริงได้ ขณะที่ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกคู่ด้านหน้าขนาด 300 มม. ใช้คาลิเปอร์เบรก 2 ลูกสูบ ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 220 มม.ใช้คาลิเปอร์ลูกสูบเดียว พ่วงด้วยระบบความปลอดภัย ABS Dual Channel และระบบแทร็คชันคอนโทรล ปิดท้ายด้วยขนาดล้อและยาง 120/70-17 และ 160/60-17 

หน้าจอสี TFT ล้ำสมัย

แถมยังล้ำสมัยด้วยหน้าจอสี TFT รองรับความสะดวกในการใช้งาน สามารถเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างตัวรถและสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชัน “Rideology The App” และโหมด ECO เมื่อขับขี่ในความรอบความเร็วต่ำ ถือเป็นมาตรฐานสำหรับรถสปอร์ตทัวริ่งในคลาสไซส์กลางรุ่นนี้ 

สีส้ม-ม่วง-ดำ (รุ่น ABS)
สีเขียวเมทัลลิค-ดำ (รุ่น ABS)
สีดำ-เขียว (รุ่น Non ABS)

ในเรื่องของสีสีที่จำหน่าย มีทั้งหมด 2 สีในรุ่น ABS ประกอบไปด้วย สีส้ม-ม่วง-ดำ และสีเขียวเมทัลลิค-ดำ เปิดราคาขายที่ 8,899 เหรียญหรือราว ๆ 3.17 แสนบาท ส่วนรุ่น Non ABS มีสีจำหน่ายสีเดียวได้แก่ สีดำ-เขียว เปิดราคาขายที่ 8,299 เหรียญ หรือ 2.95 แสนบาท

ถือว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมาก จากครั้งแรกที่ได้เห็นก็แอบคิดว่า เอ้ย..สีสะดุดตาขนาดนี้ ต้องมีอะไรอัปเดตใหม่แน่นอน อย่างน้อยให้โช้คหัวกลับก็ยังดี (ฮ่าๆ) แต่ก็ยังดีที่ทางค่ายยังคงปล่อยรุ่นเจ็นใหม่มาให้เหล่าสาวกได้หายคิดถึงและยังไม่ทิ้งกันไปไหน สำหรับในเรื่องของการจัดจำหน่ายในไทยคาดการณ์ว่าไม่น่าเข้า และคิดว่ารุ่นเจ็นเก่าในลวดลายสีเขียวดำยังคงเป็นเอกลักษณ์คลาสสิคที่ครองใจไบคเกอร์อยู่ไม่น้อย ซึ่งเปิดราคาจำหน่ายที่ 318,900 บาท ลองไปทดลองขับขี่กันได้นะจ๊ะ

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

Indian Grand Prix 2025 จะกลับมาอีกครั้ง!!

Indian Grand Prix 2025 จะกลับมาอีกครั้ง.!! ในฤดูกา […]

You May Like

Subscribe US Now

Exit mobile version