Katsuaki Fujiwara คีย์แมน ผู้อยู่เบื้องหลังทีมแข่งอันดับ 1 ในไทย

Admin Superbike

Katsuaki Fujiwara คีย์แมน ผู้อยู่เบื้องหลังทีมแข่งอันดับ 1 ในไทย

Katsuaki Fujiwara คีย์แมน

ผมเชื่อว่าแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตไทยหลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกับนักแข่งแถวหน้าของไทย น่าจะรู้จักนักแข่งชื่อดังหลายๆ คน และน่าจะรู้จักทีมชั้นนำที่ได้แชมป์ประเทศไทยมาแล้วสมัยอย่าง Kawasaki Thailand Racing Team น่าจะรู้จักติ๊งโน๊ต ฐิติพงศ์ วโรกร, ซีเค ชัยวิชิต นิสสกุล, บอย จิรายุ สายยนต์ และคนอื่นๆ อีกหลายคน

แต่ผมเชื่อว่ามีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้จัก Katsuaki Fujiwara คีย์แมน หรือคุณฟูจิวาระ คัทซึอะกิ ชายชาวญี่ปุ่นที่มีสีหน้ายิ้มแย้มเสมอ ผู้ไหนมาไหนกับทีมแข่งของคาวาซากิตลอดแทบทุกสนาม เขาคือชายคนสำคัญหรือคีย์แมนที่ทำให้ทีมคาวาซากิประสบความสำเร็จมากมาย แต่เขาเป็นใคร เขาทำอะไรบ้าง และเขาเคยทำอะไรมา วันนี้เราจะมาพูดคุยกับเขากันครับ

 

SB: แนะนำตัวเองหน่อยครับ

Fujiwara: สวัสดีทุกคนครับ ผมฟูจิวาระ คัทซึอะกิ ตอนนี้เป็นผู้จัดการทีมแข่งและผู้จัดการแผนกการตลาดบริษัท Kawasaki Motor Enterprise ประเทศไทย

 

SB: ก่อนมาเป็นโค้ชหรือผู้จัดการทีมแข่งเนี่ย ทำอะไรมาครับ?

Fujiwara: ก่อนที่จะมาเป็นผู้จัดการทีมแข่ง ผมแข่งรถมาทั้งหมด 22 ปีครับ และแข่งในระดับโลกทั้งหมด 13 ปีครับ ผมเคยลงแข่ง MotoGP ในยุคที่ยังเป็น 500GP แล้วก็เคยแข่ง WordSBK และ WorldSSP ด้วย หลังจากเลิกเป็นนักแข่งในปี 2014 ก็มาเป็นโค้ชให้กับทีมแข่งตั้งแต่ปี 2015 เป็นเวลาทั้งหมด 4 ปีครับ

 

SB: โค้ชทีมแข่งเนี่ย เขาต้องทำอะไรบ้างครับ?

Fujiwara: ก็นำเอาประสบการณ์ที่เคยเป็นนักแข่งมาสอน ไม่ว่าจะเป็น เทคนิกการขับขี่ การแข่งขัน การเซ็ตอัพ การจูนรถ การเซ็ตติ้งต่างๆ มาแนะนำให้กับทีมแข่ง เพื่อยกระดับทีมแข่งของเอเชียให้ทัดเทียมกับระดับโลก เพราะว่าการทำทีมแข่ง เนื่องจากเขาก็เป็นทีมแข่งของโรงงาน วัตถุประสงค์ของการทำทีมแข่งอย่างหนึ่งก็คือการ PR หรือว่าการโปรโมทสินค้าให้กับทางแบรนด์ ซึ่งการยกระดับให้กับทีมแข่งได้ก็เท่ากับว่าเราช่วยยกระดับให้กับแบรนด์

SB: ที่สถิติเวลาของทีมแข่งของ Kawasaki ดีขึ้นเนี่ย เป็นเพราะอะไร?

Fujiwara: ส่วนนึงก็คือปีนี้เราได้เปลี่ยนยางมาใช้ Pirelli เป็นเหตุผลนึงที่ทำให้เวลาดีขึ้น อีกส่วนนึงก็คือในทีมแข่งเองก็มีการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานด้วยเช่นกัน ซึ่งในปีนี้เราก็ต้องยอมรับว่า เรามีคู่แข่งลดลง ซึ่งนี่ก็อาจจะเป็นสาเหตุนึงที่เราสามารถแข่งขันได้ง่ายขึ้น เราก็เลยได้มีการปรับเปลี่ยนและได้ลองเซ็ตอัพรถหลายๆ แบบมากขึ้นด้วย ซึ่งการเซ็ตทัพเนี่ยเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เพราะว่าในการแข่งขันส่วนใหญ่เนี่ยคือต้องแข่งในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์

โดยปกติแล้วช่วงเช้าก็จะเป็นช่วงของการซ้อมอิสระ ซึ่งถ้ามีการปรับเปลี่ยนการเซ็ตอัพใดๆ จะส่งผลต่อการทำงานต่อยางโดยตรง ดังนั้นถ้าเราเปลี่ยนเซ็ตอัพบ่อยๆ แล้ว จะไม่สามารถหาเซ็ตอัพที่เหมาะสมได้ทันก่อนแข่ง จากการปรับเปลี่ยนการทำงานแล้ว ยังได้มีการประชุมภายในทีมว่าเราจะทำทุกอย่างเพื่อการแข่งขันในช่วง 4 โมงเย็นวันอาทิตย์ เราจะต้องหาเซ็ตอัพที่โอเคให้ได้

การซ้อมอิสระในช่วงเช้าเนี่ยเราจะไม่ปรับเปลี่ยนอะไรเยอะแล้ว เพราะการซ้อมอิสระเนี่ยเป็นเหมือนการฝึกในสนาม ถ้าทุกคนในทีมเข้าใจการทำงานตรงนี้ร่วมกัน เราจะสามารถหาเซ็ตอัพที่ดีได้ง่ายและเร็วมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้ก็เช่น CK ก่อนหน้านี้อาจจะทำเวลาได้ไม่ดีมากนัก แต่จากการปรับเปลี่ยนการทำงานแล้วทั้งทีมเข้าใจตรงกัน มันทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีอย่างที่เห็น ซึ่งตัวผมเองก็อยากให้ทั้งติ๊งโน้ตและ CK ได้พัฒนาไปจนถึงระดับโลกจากการที่มาทำงานตรงนี้

SB: แล้วปีหน้าตั้งเป้าหมายในด้านมอเตอร์สปอร์ตเป็นอย่างไรบ้างครับ

Fujiwara: เป้าหมายปีหน้าก็มีแค่อย่างเดียวคือการคว้าแชมป์ต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ได้แชมป์ประเทศไทย ปีนี้ก็น่าจะได้เป็นปีที่ 4 เพราะงั้นปีหน้าก็คือคว้าแชมป์ต่อไป แม้ว่าการคว้าแชมป์ปีหน้าจะไม่ใช่เรื่องง่าย เราก็ต้องนำจุดที่ผิดพลาดในปีนี้มามองย้อนกลับแล้วพัฒนาต่อไป รวมถึงการวางแผนการทำทีมใหม่ๆ การฝึกซ้อมนักแข่งต่างๆ เพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จในปีหน้า

SB: อยากให้อธิบายความพิเศษของโมเดล Ninja ZX-10RR ที่ถูกใช้ทำเป็นรถแข่งใน World Superbike

Fujiwara: ตอบในฐานะคนคาวาซากินะครับ มันเป็นรถที่ดีมาก ผมต้องบอกก่อนว่าโมเดลนี้พัฒนามาจากฟีดแบ็กจากการแข่งขันทั้ง WorldSBK และ Asia Championship โดยปกติแล้วรถแข่งจะมีภาพว่าหรูหรา และคนมักมองว่ารถแข่งนั้นขี่ยาก แต่จริงๆ แล้วรถในระดับ WorldSBK หรือ MotoGP นั้นขี่ง่ายกว่าที่คุณคิด

ถามว่าทำไมเป็นรถที่ขี่ง่าย ก็เพราะว่าการที่ได้รับฟี้ดแบ็กจากการแข่งขัน รถที่ใช้ในการแข่งขันมีกำลังมากดังนั้นจะต้องเปิดคันเร่งได้อย่างสมู้ทและเบรกได้อย่างมั่นใจ อยากให้คนที่ไม่เคยขับขี่ ได้ลองขับขี่ ZX-10RR คันนี้ดูแล้วจะเข้าใจถึงความแตกต่าง เพราะไม่ว่าจะเป็นการเปิดคันเร่ง การเบรก การเปลี่ยนเกียร์ การปล่อยคลัตช์ใดๆ ก็ตาม ต่อให้ขับขี่ในเมืองก็จะรับรู้ได้ว่ามันเป็นรถที่ได้ง่ายมากจริงๆ

SB: แล้ว Z H2 มันพิเศษยังไงบ้างครับ?

Fujiwara: ก่อนที่จะมาเป็น Z H2 ผมเคยเป็นคนแรกที่ได้ลองขับขี่ H2R มาก่อน ได้ลองเทสต์ระบบซูเปอร์ชาร์จในช่วงระหว่างขั้นตอนกำลังพัฒนาอยู่ที่ญี่ปุ่น ซึ่งหลายๆ คนมักเข้าใจผิดคิดว่าซูเปอร์ชาร์จเจอร์ว่า จะต้องมีพละกำลังที่เยอะ เร่งความเร็วได้อย่างรวดเร็ว แต่จริงๆ มันคือเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังเยอะมากๆ แตกต่างจากเครื่องยนต์ทั่วไป

ถ้าถามว่าตัวเครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จเจอร์แตกต่างจากเครื่องยนต์ทั่วไปอย่างไร คือ มีการไต่ระดับความเร็วที่สมู้ท มีอัตราที่คงที่กว่าเครื่องยนต์ทั่วไป ซึ่งถ้าได้ลองขับขี่ในสนามแข่งจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของความเร็วได้

และสำหรับรถที่ใช้เครื่องซูเปอร์ชาร์จเจอร์นั้นผลิตได้แต่ที่ Kawasaki เท่านั้น เพราะ Kawasaki ไม่ได้ผลิตแค่มอเตอร์ไซค์ ซึ่งหลายๆ คนน่าจะทราบอยู่แล้ว เรามีทั้งเครื่องยนต์เทอร์ไบน์ มีเรือ และอื่นๆ เรานำเทคโนโลยีจากหลายๆ ส่วนมาประกอบเข้ามาอยู่ในเครื่องยนต์ตัวนี้ ดังนั้นก็เลยอยากลองสัมผัสเครื่องยนต์ของเจ้า Z H2 ด้วยครับ

SB: แล้วน้องเล็กคันใหม่ล่าสุดอย่าง Ninja ZX-25R ล่ะครับ?

Fujiwara: เป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 250 ซีซี 4 สูบตัวแรกของโลก ที่ถึงแม้จะใช้เครื่องยนต์ขนาด 250 ซีซี แต่ยังมีภาพลักษณ์ของซูเปอร์สปอร์ตอยู่อย่างเต็มที่ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ของรถ ไม่ว่าจะเป็นแทร็คชั่นคอนโทรล ควิกชิฟเตอร์แบบ 2 ทาง เรเดียลเมาท์เบรก โช้คหน้าอัพไซด์ดาวน์

แม้ว่าจะมีเครื่องยนต์แค่ 250 ซีซี แต่ถ้าได้รองขับขี่แล้วจะแปลกใจกับพละกำลังของตัวรถ และคิดว่านี่แค่ 250 ซีซีจริงๆ หรอ ไม่ใช่ 400 หรอ แน่นอนว่าโมเดลนี้ผมเองก็ได้ลองขี่ตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นแล้ว อย่างที่หลายๆ ท่านน่าจะได้เห็นวิดีโอโฆษณาแล้วว่า Jonathan Rea เองก็ได้ลองขับขี่ที่ยุโรปแล้วเช่นกัน เขาเองก็รับรู้ได้ถึงสมรรถนะของรถได้ดี ทุกคนก็พูดได้แค่คำเดียวว่าสุดยอดและน่าทึ่งมากๆ

ไม่ว่าจะเป็น เรเดียลเมาท์เบรก โช้คหน้าอัพไซด์ดาวน์ ก็มีประสิทธิภาพสูงมาก ถ้าดูในวิดีโอโฆษณาจะเห็นว่า Jonathan Rea ใช้นิ้วชี้นิ้วเดียวในการควบคุมเบรกหน้าแม้ในสนามแข่ง หรือการขับขี่ในเมืองก็สามารถใช้นิ้วเดียวในการคอนโทรลเบรกหน้าได้เลย

รถเดิมๆ ก็สามารถทำรอบได้สูงถึง 18000 รอบ ซึ่งถ้าโมดิฟายดีๆ หรือเปลี่ยนท่อหรืออะไรอื่นๆ ก็สามารถทำรอบได้มากขึ้นไปอีก ทั้งยังเป็นรถสี่สูบที่ยิ่งทำเสียงยิ่งเพราะขึ้นไปอีก และจากการที่ทีมช่างได้ลองเปลี่ยนท่อเป็นของ Yoshimura แล้วลองขับขี่ในสนามแข่งดู ฟังแค่เสียงนี่ไม่รู้เลยว่าเป็นรถ 250 ซีซี หรือรถซูเปอร์สปอร์ตกันแน่ และแน่นอนว่าผมเองก็อยากให้ทุกคนได้ลองขับขี่กันดู เพราะนี่คือรถที่ค่ายอื่นไม่มีมาก่อน

 

SB: คิดเห็นยังไงกับกิจกรรมต่างๆ ที่ Kawasaki จัดให้กับลูกค้า เทียบกับที่ญี่ปุ่นแล้ว แตกต่างกันมั้ย ชอบกิจกรรมไหนบ้างที่ทาง Kawasaki จัดขึ้น

Fujiwara: ตั้งแต่ที่เข้ามาทำงานที่ไทย ก็ได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของ Kawasaki ไม่ว่าจะเป็น KRRC หรือ Kawasaki Enduro ผมรู้สึกว่าลูกค้าได้รับความสนุกสนานมากมายจากกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นจริง แม้จะเคยเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ญี่ปุ่นมา แต่ก็มองว่ากิจกรรมที่ไทยก็สนุกไม่แพ้กัน

โดยเฉพาะที่ไทยเนี่ยก็เพิ่งจะมีบิ๊กไบค์มาได้ไม่นาน บนท้องถนนก็อาจจะมีข่าวว่ารถบิ๊กไบค์ประสบอุบัติเหตุบ่อยๆ จึงรู้สึกว่าการที่คาวาซากิมีกิจกรรม Safety Riding School ก็เป็นเรื่องดีที่จะช่วยรณรงค์ส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยบนท้องถนนมากขึ้น ถือเป็นกิจกรรมที่ผมประทับใจครับ

SB: เกี่ยวกับจักรยานมีแนวทางการตลาดอย่างไรบ้าง?

Fujiwara: สำหรับโปรเจ็กต์จักรยานนี้ ไม่ว่าจะเป็นจักรยานขี่ถนนหรือว่าเสือภูเขาแบบไฟฟ้า เป็นการร่วมมือกันระหว่าง Kawasaki กับบริษัทรถจักรยาน ผลิตขึ้นมาเป็นรถจักรยานของ Kawasaki แม้ว่าตัวรถจักรยานจะผลิตขึ้นในประเทศไทยก็ตาม แต่ในอนาคตก็มีแผนที่จะจำหน่ายไปทั่วโลก

สำหรับประเทศไทยนั้นแม้ว่าจะเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา ที่จะก้าวไปสู่ระดับเดียวกับประเทศอย่างอเมริกา ยุโรปหรือออสเตรเลียเองก็ดี ซึ่งประเทศเหล่านี้จะมีวิวัฒนาการของการใช้ยานพาหนะ เริ่มที่จักรยาน ไปขับรถ และสุดท้ายก็จะกลับมาที่จักรยาน ดังนั้นทาง Kawasaki ก็เลยอยากจะขยายธุรกิจไปยังธุรกิจจักรยานด้วย

SB: อยากฝากอะไรให้กับแฟนๆ SuperBike บ้าง

Fujiwara: สุดท้ายผมอยากฝากถึงแฟนๆ ว่า ขอบคุณที่ติดตามเชียร์ทีมแข่งของ Kawasaki รวมถึงรอชมการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของ Kawasaki แลชะธุรกิจใหม่ของ Kawasaki อย่างรถจักรยานด้วย และติดตามผลงานของคาวาซากิต่อไปด้วยว่าจะมีอะไรใหม่ๆ บ้าง

ตัวผมเองในฐานะนักแข่งเก่า ก็อยากฝากให้ทุกคนได้ลองเข้าร่วมกิจกรรมของ Kawasaki ไม่ว่าจะเป็น KRRC หรือ Kawasaki Enduro หรือกิจกรรมใหม่ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ก็อยากให้ทุกคนลองเข้าร่วมด้วยกันนะครับ

 

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Next Post

YAMAHA WAVERUNNER และ “Outboard Motor” เสริมแกร่งตลาดทางน้ำ

YAMAHA WAVERUNNER และ “Outboard Motor” เสริมแกร่งต […]

You May Like

Subscribe US Now

Exit mobile version