HONDA CBR250RR ตัวซิ่งค่ายปีกนก
ครั้งนี้เรามาทดสอบรถ Sport Racing Replica ขนาด 250 ซีซี เปิดตัวยิ่งใหญ่อลังการในงานมอเตอร์โชว์และพร้อมให้ทดสอบครั้งแรกในประเทศไทยกันที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต บุรีรัมย์ และแน่นอน SuperBike Thailand ติดโผชื่อสื่อมวลชนกลุ่มแรกที่ได้ลงสนามขับขี่และทดสอบในครั้งนี้ด้วย คันนี้ที่ผมกำลังจะพูดถึงก็คือ All New Honda CBR250RR ที่สุดของรถสปอร์ตสายพันธุ์แข่ง ที่มีความจุขนาด 250 ซีซี สามารถทำความเร็วและแรงมากกว่ารถ 250 ซีซีทั่วๆ ไป ทั้งยังมีช่วงระดับเทพที่ติดมาจากโรงงานอีกด้วย
รูปโฉม
Honda CBR250RR นั้นมีความโดดเด่นในแบบของเรซซิ่งอย่างมาก ด้วยรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว มีความเป็นสปอร์ตสูง เส้นสายเฉียบคม ไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่ไม่เหมือนใคร แยกชั้นไฟหน้าเป็นสองตอนดูเด่นสะดุดตา ส่วนไฟท้ายก็ LED ดีไซน์ออกมาให้โฉบเฉี่ยว โดยมีไฟเลี้ยวแยกออกมาจากไฟท้าย แฟริ่งออกแบบให้มีเส้นสายเฉียบคมและตรงตามหลักแอโรไดนามิกส์ ล้อเป็นล้ออลูมิเนียมแบบ 7 ก้านดีไซน์สปอร์ตเข้าคู่กับโช้คหน้าแบบหัวกลับกระบอกโช้คสีทองได้เป็นอย่างดี ถังน้ำมันเพรียวรับสรีระ ให้ท่านั่งขับขี่ในแบบเรซซิ่งเต็มพิกัด อกล่างมีครีบที่ออกแบบมาให้ดักลมมาระบายความร้อน ท่อไอเสียแบบ 2 ออก 2 หรือปลายคู่แบบติดกัน ก็ดีไซน์ใหม่ไม่เหมือนโมเดลอื่นๆ ของทางค่าย ตัวรถใช้เฟรมถักน้ำหนักเบา ดีไซน์ออกมาได้ลงตัว
ตัวรถมีหน้าจอเรือนไมล์แบบ LED สีทั้งระบบ คล้ายๆ กับของพี่ใหญ่อย่าง CBR1000R แสดงผลเห็นชัดเจนแม้ในสนามที่แดดจ้า ข้อมูลได้ครบถ้วน รวมไปถึงสถานะการเปลี่ยนโหมดการขับขี่ เลขบอกตำแหน่งเกียร์ทั้งหมด ไปตลอดจนถึงไฟเตือนเปลี่ยนเกียร์หรือว่าชิฟต์ไลท์ เรียกได้ว่าไม่หลงเกียร์ ไม่อั้นไม่อื้อแน่นอน นอกจากนี้ยังมีอีกฟังก์ชั่นนึงที่สมกับที่เป็นสปอร์ตไบค์สายพันธุ์แข่งก็คือ ตัว Lap Timer ซึ่งใช้จับเวลาแล็ปในตอนที่เราขี่รถในสนามนั่นเอง โดยสามารถกดปุ่มที่ประกับซ้ายมือที่เขียนว่า LAP เพื่อดูเวลาแล็ปที่ดีที่สุดที่เราทำได้
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ 2 สูบเรียงขนาด 250 ซีซี นั้นมีขนาดเล็กกะทัดรัดและน้ำหนักเบา ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีเสื้อสูบเป็นอลูมิเนียมน้ำหนักเบา ลูกสูบที่ให้มาเคลือบด้วยโมลิบดินัม ที่ช่วยลดแรงเสียดทานระหว่างเสื้อสูบขณะเครื่องยนต์ทำงาน ปั๊มน้ำที่ต่อตรงกลับเพลาลูกเบี้ยวระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญอีกอย่างก็คืออ่างน้ำมันเครื่องมีครีบระบายความร้อนอีกด้วย
จุดเด่นของตัวรถที่แตกต่างจากตัวปกติก็คือ คันนี้มีแรมแอร์ที่รับอากาศเข้าจากทางด้านหน้าเพื่อให้ได้รับอากาศเข้าไอดีได้มากขึ้นทำให้ การจุดระเบิดมีกำลังมากขึ้นไปอีกด้วย ยังไม่พอยังมีระบบคันเร่งไฟฟ้าที่ถูกถ่ายทอดมากจากรถแข่งอย่าง RC213V หรือรถโปรดักชั่นอย่าง CBR1000RR โดยการทำงานของคันเร่งจะมีการควบคุมด้วยกล่อง ECU และทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ APS ที่ฝั่งอยู่ที่คันเร่ง
เมื่อมีคันเร่งไฟฟ้าแน่นอนว่าย่อมต้องมีโหมดการขับขี่ตามมาด้วย มีโหมดการขับขี่ให้เลือกได้ 3 โหมด ได้แก่ Comfort สำหรับโหมดนี้ รอบเครื่องจะไม่สูงมากนัก ขับขี่บนถนนในเมือง สบายๆ ขี่ได้สนุกแล้ว แต่เบามือไปสำหรับสายสนาม ต่อมาเป็นโหมด Sport โหมดนี้แรงขึ้นมาอีก อาจจะยังไม่ค่อยชัด แต่ก็ถือว่า รอบไวขึ้น เครื่องมีกำลังมากขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังไม่พอสำหรับผม มันต้องให้สุด แต่แค่นี้ก็เหมาะสำหรับการขับขี่สนุกๆ ในเมือง เร่งแซงได้มั่นใจ และสุดท้าย Sport+ นี่แหล่ะที่จะขอเสนอเลย สุดจริงๆ ครับ ช่วยให้ขับขี่ได้สนุกขึ้นมาก รอบเครื่องขึ้นตอนเปลี่ยนเกียร์ รอบเครื่อง 13,000 กว่าๆ ชิฟต์ไลท์กระพริบแล้วสับได้เลย มันสุดๆ
ช่วงล่าง
เด่นด้วยเฟรมถักน้ำหนักเบาร่วมกับสวิงอาร์มอลูมิเนียมที่ใช้เทคโนโลยีหล่อขึ้นรูปแบบ GDC (Gravitu Die Casting) ให้ความแข็งแรง แต่คงไว้ซึ่งน้ำหนักเบาและความสวยงาม ส่วนโช้คนั้นด้านหน้าเป็นแบบอัพไซด์ดาวน์หรือหัวกลับของ Showa ขนาดแกนน 37 มม. ด้านหลังเป็นโช้คเดี่ยวทำงานร่วมกับสวิงอาร์มแบบ Pro-Link ปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ
ระบบเบรคด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวพร้อมคาลิเปอร์เบรกจาก Nissin พร้อมจานแบบลอยตัว ด้านหลังก็เป็นดิสก์เบรกเดี่ยวเช่นกัน
ลองซิ่ง
เนื่องจากการทดสอบครั้งนี้เป็นการทดสอบในสนาม ดังนั้นการขับขี่จึงเป็นไปในแบบของเรซซิ่งทั้งหมด การขับขี่ส่วนใหญ่จึงเลือกทดสอบไปในโหมดการขับขี่โหมด Sport+ เพื่อที่จะได้รับความแรงแบบเต็มที่
ผมลองหวดดูก็พบว่าเครื่องยนต์ของ CBR250RR นั้นจัดเป็นเครื่องขนาดเล็กที่มีรอบจัดมากๆ ระดับแถวหน้าของคลาส 250 ซีซีเลย รอบนั้นขึ้นไปสูงถึงเกือบๆ 13,500 รอบเลยทีเดียว ความเร็วสูงสุดที่ผมทำได้อยู่ที่ 175 กม./ชม. จริงๆ แล้วน่าจะไปได้มากกว่านี้ ติดว่าผมตัวใหญ่หลักร้อยไปหน่อย คันเร่งไฟฟ้าที่ให้มานั้นมีความเสถียร ทำงานได้ละเอียด สั่งงานเรียกใช้กำลังเครื่องยนต์ได้ดั่งใจ แม้ว่าจะต้องมีการปรับตัวกันสักหน่อย แต่ก็ถือว่าเร้าใจดีทีเดียว
ช่วงล่างที่ให้มาจากโรงงานถือว่าทำได้ดี ผมขี่แบบไม่ได้ปรับแต่งค่าอะไรก็พบว่าเพียงพอต่อการซิ่งแล้ว สามารถเข้าโค้งที่ความเร็วสูงๆ ได้อย่างมั่นใจ ไม่มีอาการให้อกสั่นขวัญแขวน แต่ถ้าจะเน้นความจริงจังแข่งขันชิงถ้วยกันจริงๆ อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม
สรุป
โดยรวมๆ แล้วถือว่า Honda CBR250RR คันนี้แรงคุ้มค่ากับการรอคอยทีเดียว แม้ว่าราคาจะสูงไปหน่อย (ราคา 249,000 บาท) แต่หากพิจารณาดีๆ แล้วจะพบว่าอ็อพชั่นที่ให้มานั้นถือว่าสุดในคลาสนี้แล้ว โดยเฉพาะเรื่องของคันเร่งไฟฟ้า ดังนั้นหากคุณอยากแรงทั้งบนถนนและในสนาม แต่ไม่อยากได้รถที่ใหญ่และหนักเกินไปนั้น ถือว่าคันนี้ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียวเลยล่ะครับ
Specifications
เครื่องยนต์ | 2 สูบเรียงระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 จังหวะ |
ปริมาตรกระบอกสูบ | 249 ซีซี |
ระบบวาล์ว | 4 วาล์วต่อสูบ |
ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก | 62.0 X 41.3 มม. |
อัตราส่วนการอัด | 11.5:1 |
แรงม้า เคลม | |
แรงบิด เคลม | |
ระบบเกียร์ | 6 สปีด |
ระบบจุดระเบิด | อิเล็กทรอนิกส์ |
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | หัวฉีด PGM-FI |
ระบบสตาร์ท | สตาร์ทไฟฟ้า |
ระบบคลัทช์ | คลัทช์เปียกแบบหลายแผ่นซ้อนกัน |
ยาว X กว้าง X สูง | 2,060 X 724X 1,098 มม. |
ขนาดยางหน้า | 110/70 – R17 M/C (54S) |
ขนาดยางหลัง | 140/70 – R17 M/C (66S) |
ระบบกันสะเทือนหน้า | โช้คหัวกลับ Showa ขนาด 37 มม. |
ระบบกันสะเทือนหลัง | สวิงอาร์มและโช้คเดี่ยวปรับพรีโหลดได้ |
เบรคหน้า | ดิสก์เบรกเดี่ยวแบบลอยตัว คาลิเปอร์เบรกแบบ 2 พ็อต พร้อม ABS |
เบรคหลัง | ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด คาลิเปอร์เบรกแบบ 1 พ็อต พร้อม ABS |
ระยะฐานล้อ | 1,398 มม. |
ความสูงเบาะ | 790 มม. |
น้ำหนักรถ | 168 กก. |
ความจุถังน้ำมัน | 14.5 ลิตร |
ราคา | 249,000 บาท |
ติดต่อ | Facebook: https://www.facebook.com/hondamotorcyclethailand/ |
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก