BMW S 1000 R โฉมใหม่ เปิดตัวพร้อมราคาสุดเร้าใจ 789,000 บาท

Admin Superbike

BMW S 1000 R โฉมใหม่ เปิดตัวพร้อมราคาสุดเร้าใจ 789,000 บาท

BMW S 1000 R

สด ๆ ร้อน ๆ เลยครับการเปิดตัว BMW S 1000 R บิ๊กไบค์สายพันธุ์โรดสเตอร์ ต่อยอดความสำเร็จของมอเตอร์ไซค์ในตระกูล R สืบต่อยีนสายพันธุ์ของรถรุ่นพี่อย่าง S 1000 RR พร้อมการออกแบบในสไตล์ดุดัน ด้านหน้าที่โดดเด่นและแผงกริลที่มีลักษณะเฉพาะ แผงแฟริ่งข้างลดทอนรูปทรงและสีที่คมชัดขึ้น พร้อมด้วยรูปลักษณ์ของรถโรดสเตอร์ที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ผสมผสานกับไดนามิกในการขับขี่แบบซูเปอร์สปอร์ตอย่างแท้จริง

ในส่วนของเครื่องยนต์และแชสซีก็ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่น S 1000 RR ซูเปอร์ไบค์เรือธงของทางค่าย มาพร้อมกำลังสูงสุดที่ 165 แรงม้า กับน้ำหนักเบาเพียง 199 กก. โดยในเครื่องยนต์ตัวนี้จะได้รับการปรับปรุงให้มีน้ำหนักเบาลงกว่ารุ่น S 1000 RR ถึง 5 กก. พร้อมปรับอัตราทดของเกียร์ให้เหมาะสม เครื่องยนต์ 4 สูบ 4 จังหวะ ขนาด 999 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำและน้ำมัน ให้กำลัง 165 แรงม้า ที่ 11,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 114 นิวตันเมตร ที่ 9,250 รอบต่อนาที โดยที่มีกำลังมากขึ้นในทุกช่วงความเร็วรอบของเครื่องยนต์

นอกจากนั้น ตัวรถยังสามารถปรับปรุงอัตราทดเกียร์ 4, 5 และ 6 ให้ยาวขึ้นเล็กน้อย เพื่อลดระดับเสียงรบกวนและลดการใช้เชื้อเพลิง รวมไปถึงลดรอบของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะในขณะที่ขับขี่ไปตามถนนในชนบท

สำหรับโมเดลนี้เลือกใช้เฟรมตัวถังแบบใหม่ Flex Frame เช่นเดียวกับในรุ่น S 1000 RR มาพร้อมกับสวิงอาร์มแบบกลับด้าน และการออกแบบตามหลักการยศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีการลดน้ำหนักของแชสซีลงอย่างมาก เฟรมใหม่ยังถูกออกแบบให้แคบลง จึงช่วยลดมิติตัวรถในบริเวณผู้ขับขี่สัมผัสกับตัวรถ หรือบริเวณเข่าลงได้มาก ส่งผลต่อการขับขี่ที่ผ่อนคลาย พร้อมอิสระในการเคลื่อนไหวมากยิ่งขึ้น

ตัวรถมาพร้อมเทคโนโลยีแบบจัดเต็ม ได้แก่

  • ระบบเบรก (ABS Pro)
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Dynamic Traction Control (DTC)
  • ระบบไฟ Full LED
  • โหมดการขับขี่ 3 โหมด “Rain” และ “Road” และ Dynamic และ Dynamic Pro ที่สามารถปรับตั้งค่าระบบควบคุมการยกของล้อหน้า
  • ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR)
  • ระบบควบคุมการออกตัว
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะเข้าพิท (Pitlane Limiter)
  • ระบบช่วยหยุดรถและออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Control Pro
  • ระบบ Dynamic Brake Control หรือ DBC ช่วยให้เบรกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการตัดกำลังของเครื่องยนต์เมื่อเบรกในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้รถมีระยะเบรกสั้นลง ในขณะที่ยังสามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นคง
  • แผงหน้าปัดหน้าจอสีขนาด 6.5 นิ้ว TFT
  • ระบบไฟหน้าแบบ adaptive ที่ปรับทิศทางการส่องสว่างบนถนนตามองศาการเข้าโค้ง ช่วยให้การขับขี่ในเวลากลางคืนปลอดภัยยิ่งขึ้น

สุดท้ายนี้ทาง บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย จะจำหน่ายเพียง 1 เฉดสี คือ สีเงินด้าน Hockenheim silver metallic ด้วยสนนราคาค่าตัว 789,000 บาท

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Next Post

Honda NC750X 2022 สเปก ราคา และรายละเอียดต่าง ๆ

Honda NC750X 2022 สเปก ราคา และรายละเอียดต่าง ๆ &n […]

You May Like

Subscribe US Now

Exit mobile version