Aprilia SR GT แอดเวนเจอร์สกู๊ตเตอร์จากค่ายสามตา
Aprilia SR GT ก็เป็นโมเดลใหม่ล่าสุดโมเดลนึงจากทางค่ายรถสามตา ที่เปิดตัวในงาน EICMA 2021 ที่จัดขึ้นไปช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และที่สำคัญเจ้าโมเดลใหม่นี้ก็ดันเป็นโมเดลแอดเวนเจอร์สกู๊ตเตอร์คันแรกของทางค่ายอีกด้วย เรียกว่ากระแสตอนนี้มาทางนี้ก็ว่าได้ หลาย ๆ ค่ายต่างก็เริ่มหันมาทำรถในสไตล์นี้กันหลายค่ายแล้วด้วยเช่นกัน
เจ้า SR GT ทางค่ายเรียกมันว่าเออร์บันแอดเวนเจอร์สกู๊ตเตอร์ ที่มีการออกแบบโดยใช้แนวคิดเติมความสนุกเข้าไปในการขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการเดินทางไกลและการผจญภัยไปในเส้นทางใหม่ ๆ อีกด้วย โดยมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโลกของเอ็นดูโร ที่ทำให้มันเป็นเพื่อนคู่ใจไปในทุก ๆ สถานการณ์
ตัวรถมีตำแหน่งท่านั่งในแบบที่แอ็กทีฟคือพร้อมจะให้คนขับขี่ลุกขึ้นยืนควบคุมรถที่ใช้แฮนด์บาร์แบบกว้างได้สะดวก โดยจะมีฟุตบอร์ดแบบ 2 ตอน คือวางยืดขาไปด้านหน้าได้เพื่อความสบาย และวางแบบท่านั่งปกติเพื่อการควบคุมถ่ายน้ำหนักที่ดี
มีระบบกันสะเทือนจาก Showaทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยด้านหน้าจะเป็นโช้คแบบเทเลสโคปิกขนาด 33 ม.ม. และด้านหลังเป็นโช้คคู่ที่สามารถปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ โดยที่มีระยะยุบมากเป็นพิเศษ และตัวรถเองก็มีระยะห่างจากตัวรถถึงพื้นมากเพื่อให้สามารถข้ามผ่านอุปสรรคได้ง่าย
แน่นอนว่าตัวยางเป็นก็เป็นยางแบบออลเทอร์เรนที่ให้ขับขี่ได้ในหลาย ๆ สภาพพื้นผิว ไล่ไปตั้งแต่ถนนดำ หินคอบเบิลสโตน หรือทางฝุ่น ส่วนล้อจะมีขนาด 14 และ 13 นิ้วตามลำดับ ซึ่งก็มีขนาดล้อที่เล็กต่างจากคู่แข่ง โดยทางค่ายเคลมว่าจะมีความคล่องตัวสูง ส่วนระบบเบรกจะเป็นดิสก์เบรกหน้าเดี่ยวแบบคลื่น ขนาด 260 ม.ม. ขณะที่ด้านหลังจะเป็น 220 ม.ม. (ถ้าเป็นรุ่น 125 ซีซีจะมีขนาดดิสก์เบรกเป็น 200 ม.ม.แทน)
ขณะเดียวกันแม้จะช่วงล่างแบบลุย ๆ แต่ดีไซน์ตัวรถก็ยังมีกลิ่นอายในแบบของสปอร์ตตามแบบฉบับของทางค่าย โดยสังเกตเอกลักษณ์เด่นไฟหน้าแบบ 3 โคม ซึ่งภายในก็มีไฟเดย์ไทม์รันนิงไลท์ในตัว และแน่นอนว่าเป็นแบบ LED หมดแล้ว
ถัดขึ้นมาก็จะมีชิลด์หน้าที่กว้างใหญ่ช่วยกันลมได้ดี ส่วนหน้าจอเรือนไมล์เป็นหน้าจอแสดงผลแบบดิจิทัล LCD ซึ่งสามารถเพิ่มอ็อปชันเสริมให้สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ จุดเด่นอีกจุดก็จะเป็นด้านท้ายของรถที่มีดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใคร ทั้งในตัวไฟท้ายที่เป็นไฟเลี้ยวในตัวเอง และบังโคลนท้ายแบบกันดีดที่ใช้จุดนี้เป็นที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนไปในตัว
มาถึงส่วนของขุมพลังกันบ้าง ทางค่ายจะเลือกใช้เครื่องยนต์ที่มา จากทาง Vespa ที่เป็นเครือเดียวกัน ซึ่งก็คือเครื่อง i-get ซึ่งจะมีให้เลือก 2 พิกัดขุมพลังกัน คือ 125 ซีซีในรุ่น SR GT 125 และ 175 ซีซีใน SR GT 200 ที่มาพร้อมระบบสตาร์ทแอนด์สต็อป
โดยรุ่น 125 ซีซีจะมีแรงม้าที่ 14.75 แรงม้าที่ 8,750 รอบและแรงบิดที่ 12 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบ ส่วนรุ่น 175 ซีซีจะมีแรงม้าที่ 17.43 แรงม้าที่ 8,500 รอบแรละแรงบิดที่ 16.5 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบ
ซึ่งทางค่ายเคลมว่าจะให้กำลังที่นุ่มนวลแต่ขณะเดียวกันก็เพียงพอที่จะขับขี่ผ่านข้ามอุปสรรค์ได้ไม่ยากเย็น รวมถึงประหยัดน้ำมัน โดยให้สามารถทำได้มากถึง 40 กม./ลิตรในรุ่น 125 และ 38.5 กม./ลิตรในรุ่น 200 ทำให้ถังน้ำมันขนาด 9 ลิตร ที่ให้มาสามารถขับขี่เดินทางได้ไกลถึง 350 กม.เลยทีเดียว
นอกจากนี้ตัวรถยังมีฟังก์ชันอำนวยความสะดวกอย่างช่องเก็บของด้านหน้าซึ่งเหมาะกับการใส่ถุงมือและสมาร์ทโฟน โดยมีช่องจ่ายไฟแบบ USB ให้ด้วย ช่องเก็บของใต้เบาะขนาด 25 ลิตร แม้จะไม่ได้ใหญ่มากอะไรแต่ก็เพียงพอที่จะใส่หมวกเต็มใบได้ 1 ใบ เลย
สุดท้ายนี้จะมีจำหน่ายด้วยกัน 3 เฉดสีด้วยกัน ได้แก่ สีดำ Aprilia Black สีเทา Street Grey และสีน้ำเงิน Infinity Blue โดยทุกสีจะมาพร้อมแฟริ่งด้านใต้ฟุตบอร์ดพักเท้า และมือจับคนซ้อนในเฉดสีเทาเงิน ล้อสีดำ เบาะนั่งสีเดินด้ายสีเทา
ขณะที่รุ่น Sport จะมีนำเฉดสีของสปอร์ตไบค์มาใช้ โดยจะในสีเหลือง Street Gold สีเทา Iridium Grey และสีแดง Red Raceway ซึ่งจะแตกต่างจากโมเดลพื้นฐาน ด้วยการมีลายกราฟิกเพิ่มเติมที่แฟริ่งชิ้นข้างเป็นตัว a ขนาดใหญ่ ซึ่งก็คือชื่อแบรนด์ และมีคำว่า Aprilia ที่ด้านล่างอีกด้วย นอกจากนี้จะมาพร้อมล้อสีแดง เบาะนั่งสีเดาและทำเดินด้ายสีแดง เพิ่มความโดดเด่นแบบสปอร์ต ปิดท้ายด้วยมือจับสีเดียวกับสีแฟริ่งอีกด้วยครับ
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก