Aprilia RS 457 ตำนานใหม่สายสปอร์ตของค่ายสามตา

Admin Superbike

Aprilia RS 457 ตำนานใหม่สายสปอร์ตของค่ายสามตา

Aprilia RS 457

เรียกว่าเป็นการเติมเต็มทางเลือกให้กับไบเกอร์ที่ชื่นชอบความเร็ว หรือสายสปอร์ต สำหรับการเปิดตัว Aprilia RS 457 สปอร์ตไบค์ในพิกัดใหม่ของทางค่ายสามตาอะพริเลียซึ่งเคลมมาว่าจัดจ้านน่าสนใจมากที่สุดในคลาสเมื่อเทียบกันที่อัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนัก และแน่นอนว่าทันสมัยด้วยเทคโนโลยีอีกด้วย

สำหรับเจ้าน้องใหม่คันนี้ไซส์กลาง ๆ ออกแบบโดยนำเอา DNA ที่สืบทอดกันเรื่อยมาในตระกูล RS ซูเปอร์สปอร์ตไบค์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ไล่ตั้งแต่แฟริ่งด้านหน้าแบบดับเบิ้ลแฟริ่งไปจนถึงปลายท่อไอเสียใต้ตัวรถแบบ 2 ออก 1 โดยตัวรถให้สไตล์การขับขี่แบบโร้ดสปอร์ตด้วยแฮนด์จับโช้คเหนือแผงคอบน ให้ความซิ่งอยู่แต่ก็ให้ความสบายไม่ปวดหลังจนเกินไปนัก

ไฟหน้า LED แบบฉบับเทพสามตามองผ่าน ๆ นึกว่ารุ่นใหญ่ตัวพัน พร้อมฟังก์ชันไฟเลี้ยวหน้าในโคมเดียวกับไฟหน้า หน้าจอแสดงผลเองก็ให้มาเป็นหน้าจอสี TFT ขนาด 5 นิ้วแถมด้วยสวิตช์คอนโทรลต่าง ๆ ที่มีแบ็กไลต์มาให้อีกด้วย หรูหราจริง ๆ ครับ

ส่วนเครื่องยนต์นั้นจะเป็น สองสูบเรียง 457 ซีซี 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุดที่ 47 แรงม้าที่ 10,500 รอบ เมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวที่รถเปล่าเบาเพียง 159 กก. หรือจะรวมน้ำมันแล้วก็อยู่ที่ 175 กก.เท่านั้นเรียกว่ามีตัวเลขแรงม้าเทียบน้ำหนักมากที่สุดเลยก็ว่าได้ สมกับที่ค่ายรถตั้งเป้าเอาไว้

ตัวเครื่องยนต์วางบนเฟรมอลูมิเนียมที่แข็งแรงทนทานโดยใช้เครื่องยนต์มาเป็นส่วนนึงของการรับโหลดน้ำหนักตัวรถด้วย แบบเดียวกับที่เจ้า 660 ทำ ดังนั้นจึงการันตีเรื่องน้ำหนัก และความลื่นไหลในการขับขี่

ช่วงล่างนั้นจะมีโช้คหน้าหัวกลับขนาด 41 ม.ม.ที่ปรับพรีโหลดได้ ด้านหลังเองก็เป็นโช้คเดี่ยวปรับพรีโหลดได้เช่นกัน ขณะที่ระบบเบรกด้านหน้าจะเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 320 ม.ม. คาลิเปอร์เบรก ByBre แบบเรเดียลเมาท์ 4 ลูกสูบ ด้านหลังจะเป็นดิสก์เบรก 220 ม.ม. คาลิเปอร์เบรก ByBre เช่นกัน และมาพร้อมระบบเบรก ABS แบบ 2 ชาแนล ที่สามารถปรับโหมดได้ว่าจะทำงานทั้งสองล้อ หรือจะปิดเฉพาะล้อหลังก็ได้ ปิดท้ายด้วยเรื่องขนาดล้อ 17 นิ้วและยาง 110/70 และ 150/60 หน้าหลังตามลำดับ

ปิดท้ายเรื่องของเทคโนโลยี นอกจากที่บอกไปแล้วอย่างเรื่องจอสีและระบบเบรก ABS แล้ว ตัวรถยังมาพร้อมระบบคันเร่งไฟฟ้า โหมดการขับขี่ 3 โหมด แทร็คชันคอนโทรล 3 ระดับ ปิดเปิดได้ อย่างไรก็ดีน่าเสียดายที่ควิกชิฟเตอร์ไม่ใช่ของติดรถ แต่ต้องมีการเสียเงินเพิ่มครับ

ส่วนเรื่องของสนนราคานั้นจะยังไม่มีการระบุ แต่จากการคาดเดาส่วนตัวด้วยตัวผมเอง ราคาน่าจะโดดไปได้ถึงหลัก 4 แสนบาทเลยทีเดียวครับ ซึ่งราคาฟังดูอาจจะไม่คุ้มค่าเท่าไหร่สำหรับรถพิกัดนี้ แต่ก็นั่นล่ะครับ ถ้าคุณมีเงินและอยากโดดเด่น บอกได้คำเดียวว่าเด่นแน่นอนครับค่ายนี้ ดีไซน์สวยหรูพรีเมียมไม่เหมือนใครจริง ๆ ครับ

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Next Post

Marc Marquez ย้ายซบ Gresini ในฤดูกาล 2024

Marc Marquez ย้ายซบ Gresini ในฤดูกาล 2024 หลังจากท […]

You May Like

Subscribe US Now

Exit mobile version