BMW C400 GT & C400 X 2025
ปรับใหม่ ผ่าน Euro5+
BMW Motorrad เปิดโฉมพรีเมียมสกู๊ตเตอร์ขนาดกลางสองรุ่น อย่าง BMW C400 GT & C400 X 2025 โดดเด่นด้วยคุณสมบัติที่เน้นความคล่องตัวเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง ส่วน BMW C400 GT ซึ่งเป็นเวอร์ชัน Gran Turismo เหมาะสำหรับการออกทริป เดินทางไกล โดดเด่นด้วยความสะดวกสบายที่มากยิ่งขึ้น โดย ทาง BMW Motorrad ได้มีการปรับปรุงใหม่ นอกจากด้านเทคนิคแล้ว ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ สีสันใหม่ และอุปกรณ์เสริมใหม่ให้ด้วย
BMW C400 X ออกแบบใหม่ พร้อมรุ่นย่อย
นอกจากรุ่นพื้นฐาน Blackstorm metallic ที่มาพร้อมเบาะสีดำ/เทา ล้อสีดำ และคาลิปเปอร์เบรกด้านหน้าสีดำแล้ว
BMW C 400 X ยังมีรุ่น “Rugged” ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ที่ออกแบบด้านหน้าให้ดูโฉบเฉี่ยวและมีความสปอร์ตมากขึ้น
มาพร้อมสีตัวถัง Kalamata metallic matt ซึ่งให้ความรู้สึกตื่นเต้นและมีความสปอร์ต ล้อสีแดง แถบสีแดง และยางลายออฟโรด เสริมความดุดัน ผสมผสานกับคาลิปเปอร์เบรกสีทองด้านหน้า มีกระจกบังลมสีเข้ม เบาะนั่งสีแดง-ดำ
แผ่นเหยียบสแตนเลส และการ์ดกันมือที่เป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยเติมเต็มลุคที่แข็งแกร่ง สำหรับแผ่นเหยียบ รวมถึงตุ้มปลายแฮนด์แบบอโนไดซ์
BMW C400 GT ปรับปรุงใหม่ ถูกใจสายเดินทาง
BMW C 400 GT ได้รับการปรับปรุงให้เข้าถึงการขับขี่ง่ายขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและปรับปรุงสรีรศาสตร์ในการขับขี่ นอกจากรุ่นพื้นฐาน Blackstorm metallic ที่มาพร้อมเบาะสีดำ ล้อสีดำ และคาลิปเปอร์เบรกสีดำด้านหน้าแล้ว BMW C 400 GT ยังมีรุ่นใหม่ “Exclusive” ให้เลือกเป็นอุปกรณ์เสริม
BMW C 400 GT มาพร้อมสีตัวถัง Diamondwhite metallic ซึ่งให้ความรู้สึกหรูหรา ล้อสีทอง แถบสีทอง และเบาะนั่งสีดำที่ปักโลโก้เข้ากับสีล้อ ผสมผสานกับคาลิปเปอร์เบรกสีทองด้านหน้าและกระจกบังลมที่มีสีเข้มเล็กน้อย
นอกจากนี้ยังมีไฟส่องพื้นพร้อมการฉายโลโก้ BMW และแผ่นเหยียบสแตนเลส ซึ่งช่วยเสริมให้ตัวรถดูสมบูรณ์แบบมากขึ้น
BMW C 400 X และ BMW C 400 GT ใหม่ มีพื้นที่เก็บของใต้เบาะมากขึ้น ทำให้สามารถเก็บสัมภาระได้มากขึ้น โดย BMW C 400 X มีพื้นที่เก็บของเพิ่มขึ้น 3 ลิตร ส่วน BMW C 400 GT รวมกับช่องเก็บของด้านหน้าเพิ่มขึ้นถึง 12 ลิตร นอกจากนี้ BMW C400 GT ยังมาพร้อมชิลด์บังลมด้านหน้าที่ปรับได้ด้วยมือเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และสามารถติดตั้งแร็คสำหรับบรรทุกสัมภาระเป็นอุปกรณ์เสริมได้
ด้วยพื้นที่เก็บของ 43.5 ลิตร กล่องท้ายรถใหม่ไม่เพียงแต่มีปริมาตรมากขึ้น 13.5 ลิตรเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน แต่ยังรองรับน้ำหนักบรรทุกได้ 10 กิโลกรัม จากเดิม 5 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังมีระบบไฟส่องสว่างภายใน และพอร์ตชาร์จ USB เป็นฟังก์ชันเสริม ติดมาให้พร้อมกับเเร็คท้ายจากโรงงาน
เครื่องยนต์ ทรงพลัง พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย
ยังคงเป็นเครื่องยนต์หนึ่งสูบแบบเดิมขนาด 350 cc โดยมีกำลัง 34 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 35 นิวตันเมตร ที่ 5,750 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังแบบเกียร์ CVT แบบเเปรผันต่อเนื่องเเละสวิงอาร์มพาวเวอร์เซ็ตที่มีความแข็งแรงต่อแรงบิดสูง พร้อมรับรองมาตรฐาน Euro5+ รุ่นล่าสุด ทำให้ BMW C 400 X และ BMW C 400 GT ใหม่ยังคงเป็นคู่หูที่เหมาะสำหรับความสนุกในการขับขี่สกู๊ตเตอร์แบบคล่องตัวและไร้กังวล
มาพร้อมกับระบบ BMW Motorrad ABS Pro เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบเบรกที่มีการช่วยเหลือจาก ABS เมื่อรถเอียง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นแม้ในขณะที่เบรกตอนเข้าโค้ง ABS Pro จะป้องกันไม่ให้ล้อล็อก และลดการเปลี่ยนแปลงแรงในการเลี้ยวอย่างฉับพลัน จึงป้องกันไม่ให้รถยกตัวขึ้นอย่างไม่พึงประสงค์แม้ในขณะเบรกกระทันหัน
นอกจากนี้ ฟังก์ชัน Dynamic Brake Control (DBC) ที่เชื่อมต่อกับ ABS Pro ให้การตอบสนองที่แม่นยำสูงและความเสถียรในการเบรกและการขับขี่ที่ดีเยี่ยม สามารถชลอความเร็วได้อย่างดีที่เยี่ยมแม้ในขณะเข้าโค้ง รถจะคงความเสถียรและระยะเบรกจะสั้นลง พร้อมไฟฉุกเฉินจะเปิดขึ้นโดยอัตโนมัติ
Dynamic Traction Control (DTC) และ Engine Drag Torque Control (MSR) ยังติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานด้วยเช่นกัน DTC ช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นในขณะเร่งความเร็ว แม้ในขณะที่รถเอียงและโดยเฉพาะอย่างยิ่งบนพื้นถนนที่ลื่น ส่วน MSR จะช่วยป้องกันสภาพการขับขี่ที่ไม่เสถียรที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการปล่อยคันเร่งหรือการลดคันเร่งอย่างกระทันหัน
ช่วงล่างดีเยี่ยม นุ่มนวลทุกเส้นทาง
ระบบกันสะเทือน BMW C 400 X และ BMW C 400 GT ถูกออกแบบมาเพื่อให้ทั้งความสบายและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมืองและการเดินทางไกล
โดยระบบกันสะเทือนหน้าทั้งสองรุ่น เป็นโช้คอัพเทเลสโคปิก ขนาด 35 mm. ซึ่งเป็นระบบกันสะเทือนหน้าแบบเดิมไม่ได้ปรับใหม่ ระยะการยุบตัวอยู่ที่ 110 มม. ซึ่งเพียงพอสำหรับการขับขี่ในเมืองที่ต้องเจอกับถนนที่เป็นหลุมบ่อหรือขรุขระ ช่วยเพิ่มความมั่นคงเมื่อขับขี่ผ่านสิ่งกีดขวาง
ส่วนด้านหลังเป็น สวิงอาร์มคู่ (Double Swing Arm) ที่มาพร้อม โช้คอัพคู่ (Twin Spring Struts) ที่สามารถปรับพรีโหลดได้ เพื่อปรับให้เหมาะสมกับน้ำหนักบรรทุกหรือสไตล์การขับขี่ ระยะการยืดยุบโช้คอัพหลังอยู่ที่ 112 มม. ซึ่งช่วยเพิ่มความสบายในการขับขี่ระยะไกลและรองรับการขับขี่บนพื้นผิวถนนที่แตกต่างกัน
ทั้งสองรุ่นติดตั้งระบบเบรกที่ทรงพลัง โดยมี ดิสก์เบรกคู่ด้านหน้า (Dual Disc Brakes) ขนาด 265 มม. พร้อมคาลิปเปอร์ลูกสูบคู่ เพื่อการเบรกที่มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพสูง ดิสก์เบรกเดี่ยวด้านหลัง (Single Disc Brake) ขนาด 265 มม. ซึ่งช่วยให้การเบรกเป็นไปอย่างนุ่มนวลและมั่นคงในทุกสภาพการขับขี่
BMW C 400 X มาพร้อมกับล้อหน้าขนาด 15 นิ้วและล้อหลังขนาด 14 นิ้ว ยางล้อหน้ามีขนาด 120/70 และล้อหลังขนาด 150/70 ซึ่งออกแบบมาเพื่อการยึดเกาะที่ดีบนถนนในเมืองและถนนที่ลื่น ส่วน BMW C 400 GT มีขนาดล้อเหมือนกับ C 400 X แต่จะเน้นไปที่ความสบายในการขับขี่ทางไกลมากขึ้น
จอแสดงผล TFT ขนาด 6.5 นิ้ว
BMW C 400 X และ BMW C 400 GT มาพร้อมกับหน้าจอ TFT ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยมีข้อมูลที่หลากหลาย คุณภาพการแสดงผล และความสะดวกในการใช้งานที่โดดเด่นเหนือกว่า เมื่อใช้งานร่วมกับแอป BMW Motorrad Connected หน้าจอจะแสดงผลเชื่อมต่อกับคอนโทรลเลอร์หลายฟังก์ชันที่ติดตั้งบนแฮนด์ด้านซ้าย ซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และสะดวกสบาย นอกจากนี้ ในส่วนของอุปกรณ์เสริม Connectivity Pro, BMW C 400 GT ยังสามารถติดตั้งหน้าจอขนาดใหญ่ 10.25 นิ้วได้อีกด้วย
การโทรที่สะดวกสบาย ฟังเพลง และการนำทางในขณะขับขี่ก็เป็นไปได้เช่นกัน หากเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนและหมวกกันน็อคเข้ากับระบบสื่อสารของ BMW Motorrad ผ่าน Bluetooth การเล่นสื่อและฟังก์ชันโทรศัพท์สามารถเข้าถึงได้ง่ายผ่านหน้าจอ TFT โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งแอป และชาร์จสมาร์ทโฟนในช่องเก็บของที่มีระบบทำความเย็น ในขณะเดียวกัน แอป BMW Motorrad Connected ที่ให้ดาวน์โหลดฟรี ยังมอบการนำทางด้วยลูกศรที่ใช้งานง่ายผ่านหน้าจอ TFT ได้โดยตรง
ระบบนำทางพื้นฐานนี้น่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการจัดการกับการจราจรในชีวิตประจำวันหรือการเดินทางระยะสั้นได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เตรียมระบบนำทางพร้อมที่ยึดสำหรับ BMW Motorrad Connected Ride Navigator หรือ BMW Motorrad Connected Ride Cradle ซึ่งสามารถติดตั้งเป็นอุปกรณ์จากโรงงานได้ (ไม่สามารถใช้ร่วมกับหน้าจอขนาด 10.25 นิ้ว)
ราคาจำหน่าย C 400 GT เริ่มต้นที่ 8,210 ปอนด์ (UK) ตีเป็นเงินไทย 357,370 บาท ยังไม่รวมภาษี สำหรับรุ่น C 400 GT รุ่น “Exclusive” เพิ่มเงินอีก 220 ปอนด์ (UK) รวมตีเป็นเงินไทยอยู่ที่ 366,945 บาท ยังไม่รวมภาษี
ส่วน C 400 X เริ่มต้นที่ 7,240 ปอนด์ (UK) ตีเป็นเงินไทย 315,146 บาท ยังไม่รวมภาษี เเละ BMW C 400 X รุ่น “Rugged” เพิ่มเงินอีก 300 ปอนด์ (UK) รวมตีเป็นเงินไทยอยู่ที่ 328,205 บาท ยังไม่รวมภาษี
ราคาเข้าไทยอาจะมีการบวกภาษี เพิ่มเติม จากราคาต่างประเทศ เอาเป็นว่ารู้ ๆ กันว่า ค่ายนี้ให้เทคโนโลยี เเละออฟชั่นจัดเต็ม ทั้งความปลอดภัย เเละความสะดวกสบาย กับราคาที่อาจจะสูงสำหรับคนไทย แต่คิดว่าสาวก ใบพัดสีฟ้าคงไม่ติดปัญหานี้ คุณภาพระดับนี้ กับแบรนด์พรีเมียม มันเป็นตัวเลือกที่น่าลงทุนจริง ๆ
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก