Fazzio Hybrid 2023 กับ 7 จุดเด่น สุดคุ้มค่า น่าใช้งาน
เข้าสู่ช่วงหยุดยาวสิ้นปีกันแล้ว สำหรับท่านไหนที่กำลังมองหาสกู๊ตเตอร์ออโตเมติกน่ารัก ๆ สีสันสดใส ไว้ใช้งานซักคัน และตอบโจทย์สำหรับคนรุ่นใหม่ เจ็นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น วัยมัธยม มหาลัย วัยทำงานหรือประกอบธุรกิจอะไรก็ตามแต่ ในครั้งนี้แอดมินก็ต้องขออนุญาตหยิบยกโมเดลสีสันสุดฟ๊าซมานำเสนอกับ Yamaha Fazzio 2023 พร้อมกับ 7 จุดเด่นที่น่าสนใจสำหรับคนยุคใหม่ และเพราะอะไรถึงเลือกโมเดลรุ่นนี้ มาดูกัน
1.สีสันสุดฟ๊าซ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
ด้วยความเป็นรถสกู๊ตเตอร์ออโตเมติกแฟชันดีไซน์เทรนดี้ มาพร้อมสีสัน ลวดลายและลูกเล่นครบครัน ตอบรับไลฟ์สไตล์กลุ่มคนยุคใหม่ ให้ภาพลักษณ์ที่สะดุดตา ขับขี่ง่าย คล่องตัวและเอกลักษณ์ทันสมัยด้วย ไฟหน้า-ไฟท้าย ดีไซน์แคปซูล รูปทรงเก๋ ให้ความสว่างชัดทุกมุมมอง สอดรับกับหน้าจอดิจิทัล LCD ดีไซน์แคปซูล บอกครบทุกฟังก์ชัน ความเร็ว นาฬิกา และอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน
ด้านหน้า | ด้านหลัง |
2.เครื่องยนต์บลูคอร์ไฮบริดพิกัด 125 ซีซี ให้อัตราเร่งดี บิดสนุก ตอบโจทย์การใช้งาน
ในด้านขุมพลังเครื่องยนต์บลูคอร์ไฮบริด 125 ซีซี ระบายความร้อนด้วยอากาศ ผสานระบบส่งกำลังแบบไฮบริด ให้อัตราเร่งได้อย่างดีเยี่ยม แถมช่วยลดมลภาวะ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยส่งกำลังขณะออกตัว โดยให้กำลังแรงม้าที่ 8.31 แรงม้าที่ 6,500 รอบ พร้อมแรงบิด 10.6 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด และขับเคลื่อนด้วยระบบสายพาน
3.ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ด้วยระบบ Start Stop System
และมาพร้อมกับระบบ Start Stop System เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น โดยมีหลักมีการทำงานก็คือ เครื่องยนต์จะหยุดการทำงานอัตโนมัติเมื่อรถจอดหยุดนิ่งเป็นเวลา 5 นาที ในช่วงเวลาจอดรถบริเวณแยกไฟแดง ถือเป็นการช่วยลดการเผาพลาญน้ำมันเชื้อเพลิง โดยสามารถเปิด-ปิดฟังก์ชันใช้งานได้ที่สวิตช์คอนโทรลบริเวณแฮนด์ฝั่งขวานั่นเอง
4.ช่วงล่างนุ่มนวล เบรกหนึบ มั่นใจมากขึ้นด้วยระบบ UBS
ด้านหน้า โช้คเทเลสโคปิก พร้อมดิสก์เบรก |
ด้านหลัง โช้คยูนิตสวิง พร้อมดรัมเบรก |
ช่วงล่างกับระบบกันสะเทือนด้วยโช้คหน้าเทเลสโคปิก โช้คหลังยูนิตสวิง ระบบเบรกดิสก์เบรกเดี่ยวด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นดรัมเบรก ที่เสริมด้วยระบบกระจายแรงเบรก UBS หรือ Unified Brake System มาพร้อมขนาดล้อและยางเท่ากันที่ 110/70-12 แบบไม่ใช้ยางใน
5.ฟีเจอร์ใช้งานครบครัน สุดคุ้ม
ช่องชาร์จไฟด้านหน้า | กุญแจคีย์เลท (Smart Key Ver.) |
ที่เก็บของใต้เบาะขนาด 17.8 ลิตร | ที่แขวนของอเนกประสงค์ พร้อมช่องเก็บของด้านหน้า |
นอกจากนี้ โมเดลรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์รองรับการใช้งานที่ครบครัน ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง เริ่มด้วย ระบบกุญแจคีย์เลท สามารถเปิด-ปิด สตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์ ปลดล็อกคอ ปลดล็อกเบาะได้ง่าย พร้อมสัญญาณ ANSWER BACK (เฉพาะรุ่น Smart Key Ver.), ช่องชาร์จแบตเตอรี่มือถือ พร้อมฝาปิดและช่องใส่ของด้านหน้า, กล่องเก็บของใต้เบาะใหญ่ขนาด 17.8 ลิตร และที่แขวนของอเนกประสงค์หน้ารถ 2 จุด
6.มีสีสันให้เลือกมากมาย พร้อมราคาที่เอื้อมถึงง่าย
สีเทา-แดง (Lava Gray) |
|
สีน้ำตาล-เหลือง (Sugar Brown) |
|
สีดำ-ฟ้า (Iced Black) |
สำหรับ ยามาฮ่า ฟาซซิโอ้ ไฮบริด 2023 เปิดจำหน่ายให้เลือกด้วยกัน 2 เวอร์ชัน คือ รุ่น Smart key Ver. กับ 3 สี คือ สีเทา–แดง Lava Gray, สีน้ำตาล–เหลือง Sugar Brown และสีดำ–ฟ้า Iced Black โดยจำหน่ายในราคาแนะนำ 55,000 บาท
สีฟ้า (Candy Blue) |
|
สีชมพู (Milky Pink) |
|
สีเทา (Gummy Gray) |
และรุ่น Stardard มีให้เลือกใช้ 3 สี ได้แก่ สีฟ้า Candy Blue, สีชมพู Milky Pink และ สีเทา Gummy Gray ในราคาแนะนำ 53,800 บาท
7.พิเศษกับการประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กม.
และให้ความมั่นใจในการรับประกันมากกว่า ถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร หากใครสนใจสามารถติดต่อได้ที่ร้านยามาฮ่าสแควร์ และร้านผู้จำหน่ายยามาฮ่าทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Yamaha Call Center โทร. 02-263- 9999 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ได้ที่ www.yamaha-motor.co.th
และนี่ก็คือ 7 จุดเด่นที่น่าสนใจ สำหรับเจ้า Fazzio 2023 ซึ่งขอบอกเลยว่าคุ้มค่าสุด ๆ ทั้งสีสันสุดจ๊าบ เครื่องยนต์บลูคอร์ไฮบริดที่มาพร้อมกับสมาร์ทมอเตอร์ ให้ฟีลการขับขี่ที่สนุก ตอบโจทย์ ช่วงล่างพร้อมใช้งานและฟีเจอร์ครบครัน กับราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้ง่าย เหมาะกับคนเจ็นใหม่ที่อยากมีสกู๊ตเตอร์ออโตเมติก ไว้ใช้งานซักคันพร้อมรับประกันว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก