ทดสอบยางซูเปอร์สปอร์ตปี 2022 จากนิตยสารเยอรมัน ตัวไหนดีมีคำตอบ

ทดสอบยางซูเปอร์สปอร์ตปี 2022 จากนิตยสารเยอรมัน ตัวไหนดีมีคำตอบ

เมื่อไม่นานมานี้ทางนิตยสาร Motorrad ก็ได้ทำการทดสอบยางซูเปอร์สปอร์ตตัวท็อปจาก 6 แบรนด์ยางชั้นนำ เพื่อให้รู้กันไปว่า ทดสอบยางซูเปอร์สปอร์ตปี 2022 แล้วผลที่ออกมานั้นใครจะได้เป็นยางซูเปอร์สปอร์ตที่ดีที่สุด

สำหรับการทดสอบนั้นมีการทดสอบกับรถ Yamaha YZF-R1 6 คัน โดยมีนักทดสอบ 6 คน โดยยางทั้งหมดจะเป็นไซส์เดียวกัน เติมลมยางมาตรฐานตามคู่มือรถเท่ากันทุกคัน และจะทดสอบทั้งบนถนนจริงและในสนามแข่ง ทั้งทางเปียกและทางแห้ง โดยกินระยะทางการทดสอบกว่า 2,000 กม. และให้คะแนนในแต่ละการทดสอบ โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนดังนี้ ทดสอบบนถนน, ทดสอบในสนาม, ทดสอบทางเปียก และความทนทาน ด้านละ 100 คะแนน รวมคะแนนเต็ม 400 คะแนน

โดยยางที่นำมาร่วมทดสอบจะมี 6 รุ่นจาก 6 แบรนด์ดังนี้

• Bridgestone Battlax Hypersport S22
• Continental ContiSportAttack 4
• Dunlop SportSmart MK3
• Metzeler Sportec M9 RR
• Michelin Power 5
• Pirelli Diablo Rosso IV

*ยางที่ทดสอบจะเป็นยางขนาด 120/70 ZR17 และ 190/55 ZR17

ทดสอบบนถนน

เคยเห็นนักวิ่งที่ก้าวออกมาจากห้องแต่งตัวแล้วก็วิ่ง 100 เมตรแล้วสามารถทำสถิติที่ดีได้ทันทีเลยมั้ยครับ แน่นอนว่ายางมอเตอร์ไซค์เองก็เป็นเช่นเดียวกัน ยางนั้นก็ต้องการการวอร์มอัพที่เหมาะสมไม่ต่างอะไรกันนักวิ่ง ดังนั้นในการทดสอบบนถนนนั้นก็จะต้องทำการทดสอบกันยาวนานสักหน่อย เพื่อให้หน้ายางนั้นเริ่มเข้าที่และเราจะได้สมรรถนะยางที่แท้จริง โดยเราขี่ทดสอบออกทริปเดินทางกันไปไกลกว่า 2,000 กิโลเมตร บนถนนจริง ๆ ที่มีสภาพอากาศหลากหลาย มีทั้งทางตรง ทางโค้ง ทางลาดชันขึ้นลงเขา หลากหลายสภาพถนนที่รวมไปถึงหลุมบ่อและอื่น ๆ สุดท้ายก็จะสลับกันขี่รถจนครบทุกคัน

คะแนนการทดสอบบนถนนจริง

สำหรับการทดสอบบนถนนจริงนั้นยางที่ได้คะแนนสูงที่สุดคือ Michelin Power 5 ตามมาด้วย Dunlop SportSmart MK3 ในขณะที่ Bridgestone Battlax Hypersport S22, Metzeler Sportec M9 RR, Pirelli Diablo Rosso IV ได้คะแนนรวมเท่ากัน และอันดับสุดท้ายเป็นของ Continental ContiSportAttack 4 ดังนั้น Michelin Power 5 จึงถูกแนะนำให้เลือกซื้อในหมวดยางถนนที่ดีที่สุดในกลุ่มนี้ไป

การทบสอบในสนามแข่ง

แวบแรกคุณอาจจะคิดว่าการทดสอบในสนามแข่งอาจจะไม่ต้องใส่ใจมันมากนักก็ได้ เพราะยังไงเสียก็เน้นขี่ในชีวิตประจำวันมากกว่าอยู่แล้ว ทดสอบถนนจริงมีประโยชน์กว่า ซึ่งมันก็จริงส่วนนึง แต่จริง ๆ แล้วเมื่อเรานำยางสปอร์ตในระดับท็อปมาทดสอบในสนามแล้วเนี่ยเราจะได้ทดสอบสมรรถนะของยางได้ว่าจะสามารถรองรับความร้อนสูง ๆ จากการขับขี่อย่างหนักหน่วงในสนามได้มั้ย ไม่ว่าจะตอนเปิดคันเร่งออกจากโค้งทันทีทันใด เบรกหนัก ๆ หรือว่าจะเข้าโค้งองศาเยอะ ๆ

และเพื่อความเท่าเทียมยางทุกคู่จะถูกเติมลมเท่ากัน คือหน้า 2.5 บาร์ (36 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) และ หลัง 2.9 บาร์ (42 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) หรือตามค่ามาตรฐานโรงงานแนะนำให้เติมในการขับขี่ปกติ และนี่คือผู้ผลิตต้องคำนึงเพราะยางตัวนี้ไม่ใช่ที่ออกแบบให้ดีที่สุดเวลาขับขี่ในสนาม แต่ต้องออกแบบยางให้สามารถขับขี่ได้ในดีและปลอดภัยเวลาขับขี่ในสนามวันแทร็กเดย์หรือฝึกซ้อม โดยที่ไม่ทิ้งคุณสมบัติยางที่เหมาะกับการใช้งานในทุก ๆ วัน

คะแนนการทดสอบในสนาม

ผลการทดสอบนั้นอันดับหนึ่งและสองเฉือนกันเพียงแค่ 1 แต้ม แต่ได้รับป้าย “แนะนำให้ซื้อ” ในหมวดนี้ไปคือ Bridgestone S22 และ Pirelli Diablo Rosso IV ตามลำดับ เหตุผลคือ ถึงแม้ว่า Pirelli จะได้คะแนนน้อยกว่า ในบางหัวข้อ แต่กลับทำเวลาต่อรอบได้เร็วกว่านั่นเอง ส่วนอันดับสามคะแนนไล่เลี่ยนกันตกเป็นของ Metzeler Sportec M9 RR ส่วนอันดับ 4-6 ที่คะแนนจะห่างจากกลุ่มนำอยู่พอสมควร คือ Dunlop SportSmart MK3, Michelin Power 5 และ Continental ContiSportAttack 4 ตามลำดับ

ทดสอบทางเปียก

เมื่อเราพิจารณาดี ๆ แล้วยางสปอร์ตที่เรามาทดสอบทุกตัวนั้นล้วนแล้วแต่เคลมสมรรถนะเรื่องทางเปียกไว้เด่นชัด แน่นอนว่าโดยปกติแล้วยางถูกออกแบบมาให้หวดบนถนนแห้งได้อย่างสบายใจ แต่กลับกันเวลาฝนตกไม่มีใครอยากจะออกมาขี่ตากฝนกันหรอก แต่นั้นไม่ได้แปลว่าเราจะมองข้ามเรื่องการยึดเกาะเวลาทางเปียกไปได้ และยางที่ยึดเกาะได้ดีก็ต้องมีซิลิก้าที่มากพอ เพื่อให้ยางสามารถอ่อนตัวได้แม้ในอากาศเย็นเวลาฝนตกหรือทางเปียกนั่นเอง

แน่นอนว่าการทดสอบบนทางเปียกนั้น ฝนไม่อาจจะตกได้ตามที่เราต้องการ แต่ก็มีที่ ๆ สามารถทำให้เส้นทางนั้นเปียกได้อย่างทั่วถึงได้ดั่งใจแบบกดปุ่มสั่งได้ ช่วยให้เราทดสอบทางเปียกได้ดั่งใจและเท่าเทียมกัน โดยเราเลือกสนามทดสอบของ Goodyear Dunlop ซึ่งอยู่ใกล้เมือง Montpellier ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีความยาวประมาณ 1.7 กม. ในการจำลองสถานะการน้ำฝนนองๆบนพื้นถนน ที่ใกล้เคียงกับถนนจริงมากที่ สุด โดยสนามทดสอบมีความยาวถึง 1.7 กม.

คะแนนการทดสอบทางเปียก

*ระยะเบรกที่ความเร็ว 100 กม./ชม.ถึงหยุดสนิท

ผลการทดสอบจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ คะแนนรวม ดีมาก กับ ดี จากอันดับสุดท้าย Continental ContiSportAttack 4 เป็นยางที่ได้คะแนนน้อยสุด คืออยูในกลุ่มของยางที่สามารถรับมือกับพื้นเปียกได้ “ดี” แต่ไม่ดีเท่ากลุ่มดีมาก ที่คะแนนสูงกว่า 90 คะแนน

ถ้าให้พูดถึงในแง่ของยางที่ “เอาอยู่” ที่สุดของทางเปียก แบบที่ว่าฝนตกหนักๆ น้ำนอง ๆ แล้วจำเป็นต้องขี่ฝ่าไป ยางที่ขี่แล้วมั่นใจที่สุด อันดับ 1 มี 2 ตำแหน่งเพราะคะแนนเท่ากันซึ่งก็คือเป็น Metzeler M9 RR และ Michelin Power 5 ที่ถือว่าเป็นยางที่จบที่สุด ในทางเปียก รับป้าย “แนะนำให้ซื้อ” ในหมวดนี้ไปครองทั้งคู่

บททดสอบความทนทาน

นี่คือบททดสอบแตกต่างไม่เหมือนใคร เพราะไม่มีใครทดสอบแบบนี้เหมือนนิตยสาร Motorrad บททดสอบที่เป็นตัวชี้วัดแบบที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรู้สึก เพราะยางที่ใช้ทดสอบนี้ผ่านถนนเส้นเดียวกัน และใช้ขับขี่ในสนามเหมือนกัน รวมระยะทางกว่า 2,000 กิโลเมตร เท่ากัน แต่ต้องบอกก่อนว่า การสึกหรอของยางที่ทดสอบในครั้งนี้ คือการขี่แบบ เร่งแรง เบรกแรง เข้าโค้งแรง ยางจึงสึกหรอมากกว่าการใช้งานแบบปกติ การให้คะแนนจะวัดความลึกของดอกยางก่อนและหลังใช้ และกำหนดว่าความลึกของดอกยางที่ 1.6 ม.ม.ถือว่ายางหมด จากนั้นนำมาคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์และให้คะแนน

คะแนนการทดสอบความทนทาน

ผลสรุปเรื่องความทนทาน ได้อันดับหนึ่ง 2 แบรนด์เนื่องจากคะแนนรวมเท่ากันคือ Michelin Power 5 และ Pirelli Diablo Rosso IV

สรุปคะแนนรวมจากผลการทดสอบทั้งหมด

หลังจาก ทดสอบยางซูเปอร์สปอร์ตปี 2022 และสรุปคะแนนรวมทั้งหมดกลับพบว่า Pirelli Diablo Rosso IV ได้คะแนนรวม สูงสุด แม้ว่าจะไม่ได้เป็นยางที่โดดเด่นรอบด้าน แต่ประสิทธิภาพโดยรวมกลับเฉือนยางคู่แข่งอย่าง Michelin Power 5 เป็นยางซูเปอร์สปอร์ตที่ดีที่สุดของ ปี 2022 นี้

เครดิตจาก https://www.motorradonline.de/zubehoer/motorradreifen-test-aktuelle-sportreifen/