Speed Triple 1200 RS ใหม่ทุกมิติ แรงขึ้น 30 ม้า เบาลง 10 โล เทคจัดเต็ม
เปิดตัวแล้วกับเจ้า Triumph Speed Triple 1200 RS หลังจากยั่วน้ำลายมาทั้งในแบบของคลิปทีเซอร์และภาพตัวอย่างที่เผยให้เห็นสัดส่วน หน้าอก หน้าใจ และบั้นท้าย เอ้ย ถังน้ำมัน ไฟหน้าและไฟท้าย วันนี้ก็ได้ฤกษ์ประกาศกันอย่างเป็นทางการแล้วครับ มีอะไรน่าสนใจในโมเดลใหม่นี้กันบ้าง ไปดูกันครับ
เรียกว่าหลังเป็นโมเดลเกือบจะเป็นลูกเมียน้อยอยู่แล้วกับโมเดลระดับซูเปอร์เน็กเก็ดที่ไม่ได้รับการอัปเกรดปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเป็นเวลานาน จนนึกว่าจะไม่สนใจกันแล้วซะอีก มาคราวนี้จัดใหญ่ใหม่ทุกมิติ ทั้งดีไซน์ ขุมพลัง แชสซี ช่วงล่าง ตลอดไปจนถึงเทคโนโลยี ซึ่งทางค่ายหวังว่าจะส่งมอบสุดยอดเน็กเก็ดสปอร์ตที่มีสุดยอดสมรรถนะให้กับไบเกอร์
เริ่มกันที่หน้าตานั้นมีการออกแบบเส้นสายลายมัดกล้ามให้ดูคลีนๆ และเฉียบคมยิ่งขึ้น แต่ยังคงไม่ทิ้ง DNA ของสตรีททริปเปิลแต่อย่างใด จุดเด่นของดีไซน์ใหม่นี้จะอยู่ที่ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่ที่สวยงามหรูหราจัดๆ
เครื่องยนต์นั้นยังคงเป็นเครื่องยนต์ 3 สูบเรียงเสียงกระเส่าเช่นเคย แต่มีขนาดความจุที่เพิ่มมากขึ้นเป็น 1,160 ซีซี ให้แรงม้าเพิ่มมากขึ้น 30 ตัวกลายเป็น 180 แรงม้า และแรงบิดเพิ่มขึ้น 8 นิวตันเมตรเป็น 125 นิวตันเมตร นอกจากซีซีจะเพิ่มขึ้น รอบเองก็สูงขึ้นอีก 650 รอบ จากการมีแรงเฉื่อยในระบบน้อยลง 12% เรียกได้ว่าเป็นแรงที่สุดของตระกูล Speed Triple เลย
นอกจากเรื่องของความแรง ไทรอัมพ์ยังใส่ใจในเรื่องของการควบคุมที่ดี ซึ่งจะต้องมีความคล่องตัวและแม่นยำสั่งได้ดั่งใจอีกด้วย ทางค่ายจึงทำการรีดน้ำหนักของรถลง 10 กก. ทำให้น้ำหนักรถรวมของเหลวเหลือเพียง 198 กิโลกรัมเท่านั้น แชสซีมีการออกแบบใหม่ปรับศูนย์ถ่วงใหม่ ตัวรถมีมิติที่เพรียวบางมากกว่าเดิม แต่ในขณะเดียวกันมีแฮนด์บาร์ที่กว้างขึ้น ช่วยให้ขี่ได้ง่ายและคล่องตัวมากกว่าเดิม
ช่วงล่างทั้งโช้คและเบรกก็จัดเต็มมาแบบซิ่งในสนามได้เลย โช้คแน่นอนว่าเป็นของ Ohlins และเบรกก็เป็นตัวท็อปอย่าง Brembo Stylema ก็การันตีเรื่องสมรรถนะช่วงล่างว่าต้องดีเยี่ยมแน่นอน
และอย่างที่บอกไปข้างต้นเลยว่าไฮเทคจัดเต็ม ซึ่งยังถือว่าสุดในตระกูลอีกด้วย จัดมาให้ทั้ง เซ็นเซอร์วัดและประมวลผลแรงเฉื่อย ระบบเบรกแบบ Cornering ABS ครูซคอนโทรล แทร็คชันคอนโทรล ระบบกันล้อหน้าลอยตัว คันเร่งไฟฟ้า โหมดการขับขี่ 5 โหมด ควิกชิฟเตอร์แบบ 2 ทาง ระบบสมาร์ทคีย์แบบใหม่ หน้าจอเรือนไมล์สี TFT 5 นิ้วแสดงผลได้หลากหลาย และสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเพื่อใช้งานฟังก์ชั่นอัจฉริยะต่างๆ เสริมได้อีก
เรียกได้ว่า แรง เบา ไฮเทค และสะดวกสบายครบถ้วนกระบวนความ งานนี้ต้องมารอลุ้นกันว่าราคาในไทยจะเร้าใจเหมือนตัวรถหรือไม่กันครับ คาดว่าไม่เกินปีนี้แน่นอนครับ
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก