YAMAHA แถลงนโยบายมอเตอร์สปอร์ตแบบใหม่
โดย มีการยกระดับ ทีมแข่งขันและนักแข่งที่ร่วมรายการแข่งขันภายในประเทศไทย ที่ใช้รถจักรยานยนต์ YAMAHA R-Seriess ซึ่งมี ทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง เซอร์วิส มาซัพพอร์ต อย่างเต็มที่ แบบไม่มีกั๊ก
โดยการแถลงข่าวครั้ง นี้ นายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายกีฬายานยนต์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้กล่าวว่า ถือว่าเป็น มุมมองแบบไหม่ ของวงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศไทยซึ่งที่ผ่านมาได้เล็งเห็นว่าวงการมอเตอร์สปอร์ตในไทยควรมีการพัฒนาและการสนับสนุนที่ดีกว่านี้จึงได้จัดทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง เซอร์วิส ได้มาทำการซัพพอร์ตเรื่องปรับจูนรถและการแก้ปัญหาอาการของรถทุกรูปแบบอีกทั้งเรื่อง Engine ครั้งแรกของไทย ที่ได้ซัพพอร์ต ทีมแข่งขันและนักแข่งที่ร่วมรายการแข่งขันภายในประเทศไทย อย่างเต็มที่ ด้วยประสบการณ์ของ ช่างเครื่อง(Race Engineer) และทีมโคช มืออาชีพ ผู้มากประสบการณ์ได้ทำการสอนตั้งแต่ความรู้และความเข้าใจของตัวรถที่นักแข่งนำมาใช้ในการแข่งขันให้ได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นอีกทั้งเข้าใจของเป้าหมายในการแข่งขัน มาสนับสนุนและให้ความรู้แก่นักแข่งและทีมเซอร์วิสภายในทีมให้มีการพัฒนาไปถึงแถวหน้าของเอเชีย ในอนาคต ต่อไป และได้เริ่มต้น ในรายการ การแข่งขัน OR BRIC Superbikechampionship 2020 ในครั้งนี้ และ R2M Thailand Superbike Championship ที่ผ่านมา
ซึ่งแต่ละทีมพื้นฐานความรู้ไม่เท่ากันให้มีมาตรฐานเดียวกันกับทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง เซอร์วิส เพื่อพัฒนาทีมให้ดีขึ้นสร้างมาตรฐานให้ดียิ่งขึ้นจากที่มีอยู่แล้วเพื่อให้ก้าวไปถึงระดับเอเชียและในระดับโลกโดยต้องเข้าใจตัวรถเข้าใจระบบเพื่อพาทีมให้ก้าวไปด้วยกัน มีเป้าหมายเดียวกันและพาทีมไปคว้าชัยชนะในการแข่งขันให้ได้
โดย ทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง เซอร์วิส ประกอบด้วย อาทิ เช่น นายภากร โรจนรุ่งทวี ผู้จัดการส่วนกีฬายานยนต์ นายวิชัย ไชยประภา ผู้เชี่ยวชาญพิเศษแผนกกีฬาแข่งรถ, นายพัฒนสิษฐ์ ทัพวงศ์ Race Engineer Yamaha Thailand Racing Team, นายวรรณศักดิ์ ทรัพย์คงดี Race Engineer Yamaha Thailand Racing Team และ นายพัชรกร วัฒนพนม Race Engineer Yamaha Thailand Racing Team
ในเรื่องของการซัพพอร์ด ของ ทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง เซอร์วิส จะเข้ามาเป็น Center พร้อมมอบความรู้มากมายให้นักแข่งขันที่ขับรถจักรยานยนต์ YAMAHA R-Seriess พร้อมอุปกรณ์ เครื่องมือในการซัพพอร์ต ทั้งหมด ในระดับมาตรฐานการชิงแชมป์เอเชียเลยทีดียว ทำให้การ Setting รถมีความแม่นยำมากขึ้น และประหยัดเวลาเป็นอย่างมากจากเดิมใช้เวลาในการปรับจูนรถอาจใช้เวลาถึง1-2วันแต่ภายหลังจากที่ ทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง เซอร์วิส เข้ามาใช้ Data logger ในการคำนวนรถและนักแข่งซึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็ในเรื่องของเวลาการแข่งขัน ในรายการที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่านักแข่งสามารถทำเวลาได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม ตลอดการแข่งขัน
พร้อมด้วย นายธานี ทองมนต์ Mechanic Yamaha Thailand Racing Team, นายศุภกิจ แก้วน้อย Mechanic Yamaha Thailand Racing Team, นายภูวดล เลิศบุญมี Mechanic Yamaha Thailand Racing Team, นายจุฑาวุฒิ แย้มทรัพย์ Mechanic Yamaha Thailand Racing Team ซึ่งถือได้ว่าเป็นการยกทัพ สำหรับงานนี้ได้อย่าง
นายเดชา ไกรศาสตร์ ในบทบาทของ Coach Yamaha Thailand Racing Team ได้ให้คำแนะนำ ทัศนคติและมุมมองแบบไหม่ ของนักแข่งที่ร่วมรายการ OR BRIC Superbikechampionship 2020 ในครั้งนี้ ให้สนใจหลักการปรับจูนรถโดยอิงจากหลักในการจูนแบบใช้วิทยาศาสตร์ในการปรับจูนรถให้มากขึ้น หรือผลของData loggerที่บันทึกข้อมูลของนักแข่งในขณะขับขี่ เพื่อให้ได้การวิเคราะห์ ที่แม่นยำ มากกว่าการคำนวนไปเอง ประหยัดเวลา อีกทั้งยังเซฟตัวของนักแข่งได้เนื่องจากมีเวลาพักซ้อมมากขึ้นด้วย รู้และเข้าใจเป้าหมายในการแข่งขันมากขึ้น ทั้งรถจักรยายนต์ที่นักแข้งใช้ในการแข่งขันและทีมของนักแข่งเองเช่นกันที่ต้องเข้าใจในการทำงานทั้งหมด
เพื่อสิ่งที่ได้ประโยชน์ที่สุดทำให้ทีมเซอร์วิตและนักแข่งเข้าใจในการทำงานมากขึ้นซึ่ง ทีม ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง เซอร์วิส จะเซอร์วิสได้ซัพพอร์ดอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานและให้ความรู้ในการปรับจูนรถทั้งเรื่องของเครื่องยนต์เอง ปรับจูนช่วงล่าง ตั้งแต่จุดเล็กจนถึงจุดใหญ่ๆ ในรถทุกรุ่นที่ได้ทำการแข่งขัน ที่ใช้รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า R-Seriess ในรายการแข่งขัน OR BRIC Superbikechampionship 2020 ในครั้งนี้ด้วยเรียกได้ว่ายกระดับกันตั้งแต่รุ่นเล็กถึงรุ่นใหญ่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับนักแข่งหน้าใหม่ที่ใช้รถจักรยานยนต์ ใน ยามาฮ่า R-Seriess
ส่วนในเรื่องแนวทาง การพัฒนานักบิดดาวรุ่งเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ให้ความสำคัญและเดินหน้าสานต่อมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้เป็นโอกาสของ 2 นักบิดดาวรุ่งอย่าง นายนิติพงษ์ แสงสว่าง อายุ 18 ปี หมายเลข 33 ในรุ่น SuperSport 600 cc. (SS1)และนายกฤตภัทร เขื่อนคำ อายุ 15 ปี หมายเลข 32 ลงแข่งขันในรุ่น SuperSport 600 cc. (SS2) ในรายการแข่งขัน OR BRIC Superbikechampionship 2020 และเชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้ จะทำเวลาได้ดีตามติดหัวแถวได้อย่างแน่นอน
ตามรอยนักบิดรุ่นพี่อย่าง เขมินท์ คูโบะ และ พีรพงศ์ บุญเลิศ ที่ไปโลดแล่นอยู่บนเวทีเอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโตทู ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาลนี้ ภายใต้สังกัดวีอาร์โฟร์ตี้ซิกซ์ มาสเตอร์ แคมป์ ทีม ทั้งยังสามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่น บิดคว้าอันดับท็อปไฟว์ได้จากการชิงชัยในสนามล่าสุดที่ สเปน ตอกย้ำแนวทางที่ชัดเจนของ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ที่พร้อมให้การสนับสนุนและพัฒนาบุคลากรด้านความเร็วในทุกระดับและทุกบทบาท
YAMAHA แถลงนโยบายมอเตอร์สปอร์ตแบบใหม่ ก็ถือว่าเป็นนิมิตรหมายอันดีของของวงการมอเตอร์สปอร์ตที่สามารถยกระดับทีมแข่งขันและนักแข่งที่ร่วมรายการแข่งขันภายในประเทศไทยให้มีความก้าวหน้าได้อย่างดี อนาคตอาจจะมีนักแข่งฝือมือดีอีกมากมายที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยอีกอย่างแน่นอน และทุกรายการของการแข่งขันจะดุเดือดแค่ไหนในสนามหน้าและการแข่งขันต่อไปจะเป็นอย่างไรมารอลุ้นกันครับ
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก