Honda Collection Hall คือพิพิธภัณฑ์รวบรวมเอารถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ตลอดไปจนถึงสิ่งของต่างๆ ที่ช่วยเรียงร้อยเรื่องราวประวัติศาสตร์ของฮอนด้าเอาไว้เข้าด้วยกัน มีตั้งแต่รถในช่วงสมัยยุคเริ่มต้นมาจนถึงยุคปัจจุบัน มีทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยี ไปจนถึงประวัติศาสตร์การแข่งขันรายการต่างๆ ถูกรวมเอาไว้ ณ ที่แห่งนี้ ซึ่งผู้ที่เข้าชมจะสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวที่ Honda มุ่งหวังจะเล่าให้คนรุ่นใหม่ได้ศึกษาความเป็นมาของ Honda ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
สำหรับในครั้งนี้ทางเรา SuperBikemag.com ได้รับเกียรติร่วมทริป Japan Passion year2 กับทางฮอนด้า ที่ให้เราได้ร่วมเก็บภาพเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ได้มาประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับตามหา Passion ไปด้วยกัน
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ใกล้กับสนามแข่ง Twin Ring Motegi ที่ปัจจุบันยังคงเอาไว้ใช้แข่งขันกี่ฬาการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ MotoGP ในวันนั้นเราจึงได้มีโอกาสชมทั้งพิพิธภัณฑ์ และMotoGP เลยทีเดียว แค่คนจะเยอะหน่อยเท่านั้นเอง
Honda Collection Hall จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ชั้นจะแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ไว้ให้เดินดูได้อย่างสะดวก ชัดเจน และน่าสนใจมากๆเลยครับ ถือว่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่เข้ามาเลยก็ว่าได้ เพราะในนี้ คือความฝันของใครหลายๆคน ที่ทุกคนอยากสะสม และครอบครองรถที่อยู่ในนี้ตามยุคตามสมัยของตนเอง
เข้าประตูมาเจอก่อนเลยคันแรก Honda RC143 ปี 1960 คันนี้เป็นรถแข่งคันแรกของทางฮอนด้า เครื่องยนต์ 125 ซีซี 22 แรงม้า ที่ลงแข่งในรายการ WGP ปัจจุบันถ้าเทียบเท่ารายการนี้ก็ MotoGP นั้นเอง คันนี้มีอายุรวมๆเกือบ 60 ปี
ใครที่ชื่นชอบ 2 ล้อเป็นพิเศษผมแนะนำให้ขึ้นมาที่ชั้น 2 อย่างโดยด่วนเพราะว่าเป็นชั้นที่จัดแสดงโชว์รถที่สะสมโมเดลหายากรุ่นแรก ปีลึก สภาพดี หาชมได้ยากที่สุดแล้ว บางรุ่นผมเองก็ยังไม่เคยเห็น (เกิดไม่ทัน) แต่ก็พอที่จะได้ยินมาบ้าง ทาง APHonda เราเองก็เอามาโชว์บางเป็นงานๆ คงจะทำเรื่องกันยกใหญ่ ถ้าจะเอาออกมานอกประเทศล่าสุด ก็คันด้านบนละครับ (RC143) ที่เอามาจอดโชว์ในงาน ThaiGP เรามาดูต่อในชั้น 2 กันว่ามีอะไรโชว์บ้าง
เริ่มที่คันนี้เป็น Honda CB1100R ปี 1981 เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 4 สูบเรียง 105 แรงม้าที่ 9000 รอบ/นาที น้ำหนักคันนี้อยู่ที่ 235 กิโลกรัม ถ้าเทียบกับรถรุ่นใหม่ๆตอนนี้ก็ถือว่าหนักพอสมควร แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ไม่เคยหยุด คันนี้คือต้นแบบของหลายๆรุ่นในปัจจุบัน
คันนี้ใหม่ขึ้นมาอีกหน่อย สำหรับ Honda CB1100R ปี 1983 เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 4 สูบเรียง 120 แรงม้า ที่ 9000 รอบ/นาที น้ำหนักคันนี้อยู่ที่ 233 กิโลกรัม ในส่วนของมุมนี้จะมีแต่ CB ล้วนๆเลย ใครที่ชื่นชอบ จะหยุดอยู่ที่มุมนี้นานเป็นพิเศษ
เดินมาต่อกันอีก 1 มุมสำหรับขาสะสมเลยก็ว่าได้ สำหรับคนไทยบางคน สายสะสมจริงๆอาจจะมีจอดประดับหิ้งไว้ที่บ้านแบบเงียบๆก็เป็นได้ มีทั้ง Honda DAX, Honda Gorila,Honda MOTRA
ถัดไปอีก 1 มุมสำหรับ Honda Super Cup ที่ถูกจัดเก็บไว้มีสภาพที่สมบูรณ์ ต้องบอกเลยว่าทุกรุ่น ทุกโมเดลที่จอดอยู่สมบูรณ์ 100%
Honda Dream CL72 Scrambler ปี1962 มอเตอร์ไซค์ตระกูล CL Scrambler คันแรกของฮอนด้า โดยมอเตอร์ไซค์คันนี้จะถูกส่งออกไปขายในประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว ในรูปเล็กอาจจะมีการบ่งบอกได้ว่า ถูกนำไปใส่ในสงคราม (เป็นเพียงการคาดเดา)
เดินมาต่อกันอีกมุม ที่เป็นมุมที่ได้รับความสนใจเลยทีเดียวสำหรับชายหนุ่มที่ชื่นชอบและรักในความเร็วแรงของรถฮอนด้า สำหรับมุม Racing เป็นโมเดลที่ถูกจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ อาทิเช่น NSR20 คันเล็ก และคันใหญ่ อย่าง NSR250R ที่ตอนนี้มูลค่าคงไม่ต้องพูดถึง ในไทยเรายังเห็นอยู่บ้าง แต่ก็คงจะไม่ปล่อยต่อมือกันง่ายๆอย่างแน่นอน
เยอะจริงๆสำหรับมุมนี้ ที่ได้รับความสนใจ ส่วนตัวผมเองจะหยุดดูและเสียเวลากับเจ้า Honda NR750 เป็นพิเศษ ด้วยเอกลักษณ์ต่างๆที่ค่อนข้างจะดูเด่นกว่าชาวบ้าน ทั้งเครื่องยนต์สูบวีที่มีลูกสูบ 4 สูบแบบ วงรี ที่ วาล์ว 8 วาล์ว/ลูกสูบ รวมกันก็ 4 สูบ 32 วาล์ว
สวิงอาร์บแบบโปรอาร์ม ท่อถูกดีไซน์แบบบิ้วอิน ออกท้ายได้อย่างลงตัว ดิสหน้าคู่ ชุดแฟริ่งด้านหน้ามีการออกแบบช่องดักอากาศ Ram air ขนาดใหญ่ ทุกส่วนดูลงตัวเหมาะสมอย่างยิ่ง
ผมได้คุยกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นได้ถามถึงว่าเจ้า Honda NR750 คันนี้ยังมีขายอยู่ไหมในประเทศญี่ปุ่น เขาบอกว่ายังมีอยู่ ต้องบอกเลยว่าเป็นคำตอบที่สดชื่นจริงๆ เพราะว่า ความฝันมันต้องเป็นจริงสักวัน เขาพูดต่อว่า แต่ราคาอยู่ที่ 5,000,000 เยน นะคุณว่าไง ต้องเรียนตอบตามตรง ถ้าเงินเหลือๆ ผมสอยมาจอดที่บ้านแน่นอนครับ กับคิดเป็นราคาไทย 1,500,000 บาท
เราต้องเดินต่อเพราะว่าเวลาเรามีจำกัด MotoGP เตรียมที่จะแข่งในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า แต่เราต้องเข้าไปเชียร์คนไทยที่ทำการแข่งขันในรุ่น Moto2 ก้อง สมเกียรติ จันทรา เราต้องรีบเดินอีกเพราะยังไม่ครบเลย
อีก 1 คันที่ใครก็ตามที่เป็นสาวกฮอนด้าต้องรู้!! รถคันนี้คือ Honda NSR500 ปี 1997 เป็นรถแข่งเครื่องยนต์ 2 จังหวะที่มีความจุ 499 ซีซี 185 แรงม้า น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 131 กิโลกรัม สำหรับรถคันนี้จะเป็นแชมป์ไม่ได้เลยถ้าไม่มีผู้ขับอย่าง Michael Doohan สำหรับตอนนี้ต้องบอกว่า เขาคือ ตำนานทางเรียบของฮอนด้า
รถแข่ง Nicky Hayden เบอร์ 69 แชมป์โลก MotoGP 2006 และรถแข่งของ Valentino Rossi สมัยเมื่อขี่ให้กับ Honda เมื่อปี 2003 โดยใช้เบอร์ 46
มาต่อกันอีก 1 มุมสำหรับรถแข่ง Honda ที่ลงแข่งในศึก Endurance RoadRacing ที่เป็นรถ Honda ที่ลงแข่งในรายการสุดโหด สำหรับการแข่งขันที่ไม่มีการหยุดพักและดับเครื่องยนต์ ทดสอบความอึดของตัวรถ ทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง และผู้ขับ นับว่าเป็นการร่วมลงแข่งที่ไม่น้อยเลย เมื่อดูจากจำนวนรถ ที่จอดเรียงในภาพ
มุมตำนานรถแข่งรายการ World Grand prix 250 CC เป็นรถแข่งโมเดลแรกของทางฮอนด้า ที่เริ่มใช้รหัส RC แต่ละปีจะมีรหัสที่ไม่เหมือนกัน เพราะจะมีการพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันรุ่นล่าสุดที่เป็นรถแข่งใช้รหัส RC213 กันแล้ว
มุมสำหรับสายลุย ถือว่าเป็นต้นแบบของ Africa twin ก็ว่าได้ สายลุยตัวจริงขี่ข้ามน้ำข้ามทะทราย ลงแข่ง Dakar Rally ต้องมุมนี้เลย แต่งได้สุดจริงๆ สมแล้วที่เป็นสายลุย
มีโอกาสก็ถ่ายเจาะมาให้ดู สำหรับ Honda EXP-2 ปี 1995 ที่เป็นเครื่องยนต์ 2 จังหวะ 402 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีกำลังที่ 54 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที น้ำหนักแบบแห้งที่ 155 กิโลกรัม
ทั้งคันถูกตกแต่งเสริมด้วยถังน้ำมันขนาดใหญ่ แผนที่การเดินทาง ไฟส่องนำทาง การ์ดกันกระแทกใต้ท้องเครื่องยนต์ ชิวบังลมขนาดใหญ่ พร้อมกับล้อหนามที่พร้อมตะลุย
มาต่อที่ชั้นที่ 3 เวลาก็หมดลงเรื่อยๆชั้นนี้จะเป็นการจัดโชว์รถยนต์ ที่มีทั้งรถแข่งแรลลี่ รถสูตรแข่งทางเรียบ รถต้นแบบในแต่ละรุ่น ร่วมไปถึงรถแข่ง Formula 1 ใครที่ชื่นชอบรถ 4 ล้อ ต้องตอบแทนเลยว่า น่าสนใจและได้ความรู้อย่างมากเลยละครับ
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ AP Honda ที่ได้พาเรามาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Honda ที่เรียกได้ว่ารวมรถหายากที่สุด มารวมไว้อยู่ในที่เดียวกัน ให้ได้ชมกันแบบจุใจ สำหรับใครที่มีความชอบในเรื่องนี้ ถ้ามีเวลา 1 วันที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คงไม่เบื่อ เลยแม้แต่นิดเดียว ผมเองยังรู้สึกเวลาที่มีมันน้อยนิดเสียเหลือเกิน เก็บภาพและข้อมูลมาเล่าได้เพียงเท่านี้ พอทีจะทำให้เป็นแรงบันดาลใจ ให้ใครหลายๆคนอยากจะมาที่นี้ และได้เห็นกับตาตัวเองสักครั้งในชีวิตแบบผม แล้วจะรู้ว่าคุ้มค่าอย่างมาก ถ้าได้มา…
ใครจะไปรู้ละครับ คนมันจะได้เจอมันก็ต้องเจอ Honda NR750 วิ่งอยู่บนถนน อย่างกับหลุดมาจากพิพิธภัณฑ์ เสียงมันเหมือนรถยนต์เครื่อง V8 หวานๆ ทุกคนแถวนั้นบอกว่าเป็นรถที่สมบูรณ์มากๆ สภาพเดิมๆไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ MotoGP ที่ญี่ปุ่นถือว่าเป็นวันปล่อยของ ของชาวไบค์เกอร์ที่นี้ ใครมีอะไรก็เอามาโชว์ ส่วนราคาคันนี้ย้ำอีกที 1,500,000 บาท ไม่รวมภาษี จัดได้เลยครับผม
อ่านข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี้
ติดตามเพจ Facebook คลิกทีนี้
