Honda Africa Twin Adventure Sports (CRF1000L2 DCT) @จันทบุรี
ขี่รถทดสอบทางเรียบมาก็เยอะ ถึงเวลาของการทดสอบลุยๆ กันบ้าง โดยการลุยในครั้งนี้จะเป็นการทดสอบ รีวิว Honda Africa Twin Adventure Sports ขาลุยรุ่นใหญ่พิกัด 1,000 ซีซี ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำของ Honda อย่างระบบเกียร์ DCT (Dual Clutch Transmission) ที่เราบุกเข้าตีเมืองจันท์ เอ๊ย ไปบุกตะลุยกับที่จันทบุรี โดยมีโค้ชระดับอาจารย์อย่างพี่เล่ Bike Lane เป็นผู้จัดการเส้นทางและสถานที่ต่างๆ มาให้เราได้ทดลองและทดสอบรถได้อย่างเต็มที่ ในรูปแบบสถานการณ์จริง เส้นทางจริง โหดจริง ล้มจริง เหนื่อยจริงๆ ให้รู้กันไปเลยว่าเจ้า Adventure Sports คันนี้มันเจ๋ง มันลุยได้ขนาดไหน
เส้นทาง
เราเริ่มออกเดินทางเพื่อที่จะไปทดสอบกันที่ Honda Bigwing กรุงเทพ เลียบทางด่วนรามอินทรา เราออกสตาร์ทกันตั้งแต่ 07.30 น. มุ่งหน้าไปตีเมืองจันท์ฯ เอ้ยไปตะลุยเมืองจันทบุรี ไปในเส้นทางที่คนทั่วไปไม่ไปกัน โดยจะลัดเลาะไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึง โดยพี่เล่ของเราบอกว่า “งานนี้มีลุยแน่นอน”
เราเดินทางวิ่งผ่านทางแปดริ้วไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ รถไม่ติด เพราะเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยใช้อยู่แล้ว เพราะส่วนมากโดยปกติเราก็มักจะเดินทางไปด้วยถนนเส้นบางนา-ตราด หรือถ้ารถยนต์ก็มอเตอร์เวย์ แบบทีเดียวยิงยาว 2 ถึง 2 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว ทว่าคราวนี้คุยๆ กันตอนพักระหว่างทาง อาจารย์เล่ของเราบอกว่าต้องมี 6 ชั่วโมง ห้ะ อะไรนะอะไรจะนานขนาดนั้น แต่เอาเป็นว่ายังไงก็ถึงแน่นอน ผมก็ไม่แปลกใจอะไรเพราะติดตรงช่วงถนนสุวินทวงศ์ก็เกือบชั่วโมงแล้ว
เส้นทางที่เราเดินทางจะเป็นเส้นทางสายรองที่จะวิ่งผ่านชลบุรี ระยอง จันทบุรี วิ่งไปวิ่งมา มาโผล่อีกทีเขาคิชฌกูฏแบบงงๆ แต่ยังไม่เข้าที่พัก โค้ชพี่เล่กลับพาเราเข้าไปวิ่งในป่ายูคาลิปตัส ผ่านสวนทุเรียน และอื่นๆ แบบพูดง่ายๆ ว่าถ้าเราไม่ขี่ตามกันเป็นกลุ่มมีหลงแน่นอน นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ขับรถแอดแจนเจอร์คันใหญ่ๆ เข้าป่าลึกแบบนี้ ลึกมากรึเปล่า ผมไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ ถ้าหลงทางกลับบ้านลำบากชัวร์
ลองหวด
เพราะติดอยู่ตรงช่วงถนนสุวินทวงศ์ก็เกือบชั่วโมงแล้ว แต่ก็นะรถมันขี่ง่าย ขาก็ถึง คันเร่งไฟฟ้าก็ทำงานเสถียรดี จึงไม่ได้ดีเลย์อะไรมากมาย ขี่ง่ายแถมขาถึงอีกด้วย ปกติแล้วต้องเขย่งๆ ตอบโจทย์สำหรับคนใช้ในเมือง รถติดๆ ไม่ต้องมากังวลกับเกียร์ DCT ไม่มีดับเพราะรถไม่มีคลัทช์ ขี่ง่ายมากๆ ข้อสำคัญของเกียร์ DCT สามารถเพิ่มลดเกียร์ได้จากประกับฝั่งซ้าย
โดยส่วนตัวครั้งนี้สำหรับ Adventure Sports นั้นเป็นรถทัวริ่งแอดเวนเจอร์ขนาด 1,000 ซีซี 2 สูบเรียงที่เคลมมา 94 แรงม้าที่ 7,500 รอบ และแรงบิด 99 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบ พร้อมติดตั้งระบบเกียร์ DCT และยังมีโหมดช่วยเหลือการขับขี่ที่สามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบใจซึ่งแสดงผลอยู่บนเรือนไมล์ดิจิทัลขนาดใหญ่อีกหลากหลาย อาทิ คันเร่งไฟฟ้า ทำให้มีโหมดการขับขี่ โหมด Power [P] 3 ระดับ ระบบควบคุมเอ็นจิ้นเบรก Engine Break [EB] 3 ระดับ ซึ่งสำคัญมากๆ ที่จะช่วยให้ลดความเร็วรถได้ดีขึ้นโดยมีกำลังจากเครื่องมาช่วยเบรก มี HSTC หรือ Honda Selectable Torque Control หรือง่ายๆ ว่าแทร็คชั่นคอนโทรล Traction [T] มีทั้งหมด 7 ระดับ เรียกได้ว่าปรับกันได้แบบละเอียดเลย และยังสามารถเปิด-ปิดได้ถ้าเราไม่ต้องการใช้ เพื่อที่จะป้องกันรถเสียอาการเมื่อขับขี่บนเส้นทางที่มีการยึดเกาะน้อย พื้นลื่นๆ หรือถนนเปียก เอาจริงๆ ในป่าบ้างทีก็ไม่จำเป็นเท่าไร ปิดไปครับ โค้ชพี่เล่สอนทั้งทีเอาให้สุดไปเลยครับ
คันเร่งไฟฟ้านั้นจะช่วยสั่งการให้เครื่องยนต์เร่งและถ่ายทอดกำลังออกมาได้อย่างแนบเนียบมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงระบบเบรกที่ปิด ABS เฉพาะล้อหลังได้ นับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ สำหรับคนที่ชอบลุยทางวิบาก เพราะจะช่วยให้สามารถเบรกสไลด์เข้าโค้งได้ดี รวมไปถึงตัวนี้เป็นตัวที่เพิ่มความสามารถในการเดินทางเป็นพิเศษด้วยการอัพเกรดถังน้ำมันให้มีขนาดใหญ่ถึง 24 ลิตร มาพร้อมกับเบาะนั่งปรับความสูงได้แบบเรียบสไตล์เอ็นดูโร่ นั่งสบายเดินทางไกลๆ ได้ไม่มีปัญหา ช่วงล่างที่ให้มาล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว มาพร้อมกับโช้คหน้า Showa 45 มิลลิเมตร ระยะยุบมากถึง 252 มม. จานเบรกแบบดิสก์คู่ ล้อหลังขนาด 18 นิ้ว โช้คเดี่ยวสามารถปรับได้ นุ่มนวลขี่ง่ายคล่องตัว
เรามาพูดถึงระบบเกียร์ DCT ที่ติดมากับรถ Africa Twin ที่ต่างคนก็ต่างเอะใจ มาหลายต่อหลายครั้งว่า รถที่ไม่มีคลัทช์จะขับขี่ในป่าในเขาได้หรอ ตอบก่อนเลยคันไหนก็ขี่ได้ครับ แต่คราวนี้เราเอารถแอดเวนเจอร์เกียร์ออโต้เข้าป่า ขึ้นแนวกันช้างสูงชันเป็นสิบเมตร ดินร่วนๆ เนินดิน ทางลูกรัง บางคนก็บอกว่าบิดไปสิบิดไปอย่างเดียวยังไงก็ไปได้ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นน่ะสิครับ
รถคันนี้มันถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ เกียร์ DCT ฉลาดขึ้น สามารถที่จะคำนวณการเปิดปิดคันเร่งไฟฟ้าให้ใช้เกียร์อย่างเหมาะสมตามรอบเครื่องยนต์ แต่ถ้าเราต้องการความแรงที่มากขึ้นให้ปรับเป็นโหมด Sports ที่รู้สึกได้ว่าแรงขึ้นบิดมาไวขึ้น ทำให้รถมีกำลังที่จะส่งขึ้นเนินเหลือรับประทาน แต่ก็มีบางจุดที่เราต้องปรับโหมดเป็นโหมด MT หรือแมนวล ซึ่งก็คือโหมดเปลี่ยนเกียร์เอง ขึ้นลงได้ตามต้องการ เป็นอะไรที่สนุกมากๆ ถือว่าเป็นเกียร์ออโต้ที่มีลูกเล่นเยอะ และสั่งได้ตามต้องการ
ครั้งนี้เราลองเล่นกันบนเนินสูงที่ครั้งแรกเราขึ้นโดยใช้กำลังจากการเปิดคันเร่งเต็มที่แต่รอบเครื่องยังไม่สะใจเท่าไร เพราะเวลาถึงรอบเครื่องที่ต้องเปลี่ยนเกียร์ เกียร์จะเปลี่ยนทันทีตามที่ถูกกำหนดไว้จากโรงงาน แต่ถ้าเราปรับมาเป็นโหมด MT เราสามารถเดินกำลังเครื่องยนต์ในเกียร์ 1 ได้ตลอดช่วง และเดินเครื่องในรอบคงที่จนพ้นเนิน ถือว่าตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการเข้าป่าโดยเกียร์ DCT แต่ไม่ใช่แค่เพียงสำหรับขึ้นเนินลงเนินเท่านั้น เวลาเราเร่งความเร็วแซงแล้วต้องการชิฟต์เกียร์ลง ก็สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เลย ไม่ต้องปรับโหมดเป็น MT ก็เปลี่ยนได้ถึงบอกว่า เกียร์ DCT ตัวนี้ที่ทาง Honda ได้ผลิตและพัฒนาขึ้นมานั้นตอบโจทย์คนใช้งานได้อย่างดี รวมไปถึงเรื่องการประหยัดน้ำมัน 1 ถัง ไปถึงจันทบุรีวิ่งเกิน 300 กิโลเมตรอย่างแน่นอน (ผมพักก่อนนะไม่ไหว 555+)
คุ้มค่า
เอาเป็นว่าผมสรุปให้โดยรวมสำหรับเจ้า AFRICA TWIN ADVENTURE SPORTS (DCT) รถบิ๊กไบค์สไตล์ทัวริ่งแอดเวนเจอร์ขนาด 1,000 ซีซี ที่มีเกียร์ DCT 6 เกียร์ ที่สามารถขับได้ทั้งแบบออโตเมติกหรือแบบแมนวล มีโหมดขับขี่หลากหลาย และโหมด Custom ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความชอบของผู้ใช้ได้ คันเร่งไฟฟ้าที่เสถียรพอสมควร ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ต่างๆ ค่อนข้างครบครัน ไฟหน้าส่องสว่างดี ถังน้ำมันใหญ่24 ลิตร รูปทรงที่ไม่สูงมากนัก ขี่ง่าย คล่องตัว ใช้งานได้อเนกประสงค์ ในป่าก็ได้ บนถนนก็ดี เรียกว่า ดีมากเลยล่ะครับ ส่วนเรื่องหน้าตานั้นผมพูดคร่าวๆ ว่าหล่อมีเอกลักษณ์ในแบบของ Honda มีความเพรียวบางโฉบเฉี่ยวแบบสปอร์ต หล่อแบบแอดเวนเจอร์ร่างโย่ง แต่บางคนอาจจะไม่ชอบก็ได้ เป็นเรื่องของจริตส่วนตัว แต่ผมว่ามันหล่อดีนะครับ เรื่องสุดท้ายแล้วก็เป็นเรื่องราคาค่าตัว 625,000บาท ผมคิดว่ายังไงก็คุ้มสำหรับรถทัวริ่งแอดเวนเจอร์พิกัดนี้แน่นอนครับ
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ A.P.Honda ที่ให้รถเรามาขับขี่ทดสอบได้อย่างสะใจตลอดทาง ขอบคุณโค้ชพี่เล่ Bike lane – Dirt Track Control ที่คอยสอนทริก เทคนิคต่างๆ ในการใช้ DCT ในทางลุย และเทคนิคการขับขี่ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง ครั้งต่อไปจะมาซ้ำที่เก่าในฤดูฝนหรือที่ใหม่ต้องคอยติดตามกันนะครับ…
Rating
Engine | 8 |
Handling | 8 |
Brake | 9 |
Track | 5 |
Cruise | 7 |
Urban | 8 |
Newbies | 8 |
Advance | 9 |
Appearance | 8 |
Value | 9 |
Total | 79 |
Specifications
เครื่องยนต์ | 2 สูบเรียงระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 จังหวะ |
ปริมาตรกระบอกสูบ | 998 ซีซี |
ระบบวาล์ว | 4 วาล์วต่อสูบ |
ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก | 92.0 X 75.1 มม. |
อัตราส่วนการอัด | 10.0:1 |
แรงม้า เคลม | 94 แรงม้าที่ 7,500 รอบ |
แรงบิด เคลม | แรงบิด 99 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบ |
ระบบเกียร์ | DCT 6 สปีด |
ระบบจุดระเบิด | อิเล็กทรอนิกส์ |
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | หัวฉีด |
ระบบสตาร์ท | สตาร์ทไฟฟ้า |
ระบบคลัทช์ | คลัทช์เปียกหลายแผ่นซ้อนกันแบบอัตโนมัติ |
ยาว X กว้าง X สูง | 2,310 X 930 X 1,510 มม. |
ขนาดยางหน้า | 90/90 – R21M/C 54H |
ขนาดยางหลัง | 150/70 – R18M/C 70H |
ระบบกันสะเทือนหน้า | โช้คหัวกลับขนาด 45 มม. ระยะยุบ 252 มม. |
ระบบกันสะเทือนหลัง | สวิงอาร์มและโช้คเดี่ยวปรับพรีโหลดได้ ระยะยุบ 240 มม. |
เบรคหน้า | ดิสก์เบรกคู่ขนาด 310 มม.คาลิเปอร์เบรกแบบเรเดียลเมาท์ 4 พ็อต พร้อม ABS ปิดเฉพาะล้อหลังได้ |
เบรคหลัง | ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 256 มม. คาลิเปอร์เบรกแบบ 1 พ็อต พร้อม ABS ปิดเฉพาะล้อหลังได้ |
ระยะฐานล้อ | 1,560 มม. |
ความสูงเบาะ | 860 มม. |
น้ำหนักรถ | 243 กก. |
ความจุถังน้ำมัน | 24.2 ลิตร |
ราคา | 625,000 บาท |
ติดต่อ | Facebook: https://www.facebook.com/HondaBigBikeTH/ |
จุดเด่น
– ระบบเกียร์ DCT อัจฉริยะ
จุดสังเกต
– ยังไม่มีครูซคอนโทรล
ความแตกต่างระหว่างโมเดลธรรมดาและ Adventure Sports
– ระยะยุบของระบบกันสะเทือนเพิ่มมากขึ้น ทำให้ระยะห่างระหว่างตัวรถถึงพื้นมากขึ้น
– คันเร่งไฟฟ้าและโหมดการขับขี่
– ระบบแทร็คชั่นคอนโทรลที่ปรับได้ละเอียดมากขึ้น
– ระบบ DCT เวอร์ชั่นใหม่ทำงานได้ดียิ่งขึ้น
– ชิลด์หน้าสูงขึ้น
– ถังน้ำมันจุมากขึ้น
– น้ำหนักมากขึ้นเล็กน้อย (2 กก.)
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก