5 เรื่องต้องรู้ เกี่ยวกับระบบเบรกของรถแข่ง MotoGP

Admin Superbike

5 เรื่องต้องรู้ เกี่ยวกับระบบเบรกของรถแข่ง MotoGP

ผมเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยสงสัยเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรถแข่ง ซึ่งก็มักจะมีเทคโนโลยีอะไรแปลกๆ และล้ำกว่ารถโปรดักชั่นผลิตขายจริงจำนวนมาก วันนี้เราขอนำเสนอเรื่องที่หลายคนสงสัย บางข้อคุณอาจจะรู้แล้ว แต่บางข้อคุณอาจจะยังไม่รู้ก็ได้ ลองไปอ่านกันดูครับ

 

  1. ทำไมดิสก์เบรกต้องเป็นคาร์บอน?

 

แน่นอนล่ะครับว่าดิสก์เบรกก็เป็นชิ้น5 เรื่องต้องรู้ส่วนที่สำคัญมากส่วนนึงของรถ และก็เช่นเดียวกับชิ้นส่วนอื่นๆ ในรถแข่ง MotoGP ที่มุ่งมั่นหาทางพัฒนาให้ถึงขีดสุด โดยเฉพาะในเรื่องของน้ำหนักเบาซึ่งเป็นจุดหมายหลักอย่างนึงในการวิจัยและพัฒนา นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมจะต้องมีดิสก์เบรกคาร์บอน (ชื่อเต็มๆ คือคาร์บอนเซรามิก) ซึ่งก็มีมาตั้งแต่ช่วงปี 1980 แล้ว

คาร์บอนนั้นมีความหนาแน่นน้อยมาก มีเพียง 1.8 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตรเท่านั้น คิดเป็น 1 ใน 4 ของเหล็กหล่อ และ 1 ใน 5 ของเหล็กกล้า ซึ่งน้ำหนักที่เบานี้มีผลดีต่อการลดมวลในช่วงล่างของรถ ซึ่งมีผลดีมากๆ กับรถ แต่นอกจากเรื่องของน้ำหนักเบาแล้ว จานเบรกคาร์บอนของ Brembo ยังมีดีเรื่องที่อุณหภูมิสูงๆ กลับมีการขยายตัวที่น้อย ค่าสัมประสิทธิ์การขยายตัวเนื่องจากความร้อนน้อยมากๆ คิดเป็น 1 ใน 20 ของเหล็กกล้า และ 1 ใน 15 ของเหล็กหล่อ นอกจากนี้ยังมีจุดหลอมเหลวสูงมากๆ คือที่ 3000 องศาเซลเซียน ขณะที่เหล็กหล่ออยู่ที่ 1200 องศา และเหล็กกล้าที่ 1800 องศา

 

  1. ฝนตกใช้จานเบรกคาร์บอนได้มั้ย?

 

หากเป็นแต่ก่อนเราคงบอกคุณทันทีตรงนี้เลยว่าไม่ได้ แต่ในตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว 3 ปีล่าสุด Brembo ได้ทำการไล่คำสาปนี้เกี่ยวกับเรื่องนี้สำเร็จแล้ว ที่ดำเนินยาวนานมานับตั้งแต่เริ่มต้นการแข่งขันในคลาส 500GP เลยล่ะครับ แต่เดิมนั้นพอมีฝน เจ้าจานเบรกคาร์บอนนี้ก็จะต้องถูกเก็บไว้บนชั้น และใช้จานเหล็กกล้าแทน แต่ก่อนเพื่อที่จะให้ได้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ดี จานเบรกคาร์บอนจะต้องมีอุณหภูมิขึ้นไปสูงอย่างน้อย 250 องศาเซลเซียสเสียก่อน ซึ่งแต่ก่อนเป็นไปได้ยากหากว่ามีฝนตก แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว

ตอนนี้ Brembo ได้พัฒนาให้จานคาร์บอนมีช่วงที่ให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานในระดับดีที่กว้างมากขึ้น และเมื่อรวมกันกับสมรรถนะของเครื่องยนต์และยาง ส่งผลให้อุณหภูมิบนจานเบรกนั้นเพิ่มขึ้นมาก กระทั่งฝนตกก็ยังสามารถใช้ได้ ซึ่งมีการสาธิตการใช้งานครั้งแรกของจานคาร์บอนเทียบกับจานเบรกเหล็กกล้าในสายฝนนั้นเริ่มต้นในรอบการแข่งขัน GP ที่ San Marino ในปี 2015

แต่ความทุ่มเทของ Brembo กับจานเบรกคาร์บอนนั้นได้ผลจริงๆ ในการแข่งขัน MotoGP ในวันที่ 15 ตุลาคม 2017 ระหว่างการแข่งขันรอบ Motegi ที่ Andrea Dovizioso ชนะไป เป็นการแข่งขันที่น่าทึ่งเต็มไปด้วยการแซงการเอาคืน การผลัดกันขึ้นนำ ตลอดทั้งเรซ ทั้งๆ ที่มีฝนตกลงมาแบบไม่เปิดให้นักแข่งได้หายใจหายคอตลอด 24 แล็ป จนทำให้อุณหภูมิอากาศไม่เกิน 14 องศาเลย และพื้นแทร็กนั้นก็อยู่ที่ 15 องศาเท่านั้น ซึ่งเป็นสภาพอากาศที่ในอดีตนั้นจะต้องใช้จานเบรกแบบเหล็กกล้าแล้ว แต่ในการแข่งครั้งนี้ ถึง 13 คนจาก 15 คน ซึ่งในนั้นรวมไปถึง Andrea Dovizioso, Andrea Iannone, Alex Rins, Jorge Lorenzo, Aleix Espargaro, Johann Zarco และ Maverick Vinales

 

  1. ปัญหาเรื่องเบรกหลังในโค้งขวาแก้ยังไง?

 

เรื่องของเบรกหลังนั้นต่างจากเบรกหน้าไปอย่างสิ้นเชิง นักแข่ง MotoGP หลายคนพยายามแก้ปัญหาเกี่ยวกับเบรกหลังด้วยวิธีต่างๆ กันออกไป หลายวิธีด้วยกัน แต่ก็ยังคงใช้ Brembo อยู่ดี ปั๊มเบรกหลังที่ใช้นิ้วโป้งกดที่แฮนด์บาร์ด้านซ้ายคือวิธีการแก้ปัญหาอย่างนึงของนักแข่ง MotoGP และตอนนี้กลายเป็นวิถีธรรมดาอย่างนึงในการแข่งขัน MotoGP ไปซะแล้ว เพราะมันการันตีเรื่องข้อดี โดยเฉพาะเวลาเข้าโค้งขวาที่นักแข่งหลายคนจะต้องย้ายเท้าของตัวเอง และแทนที่จะต้องใช้แป้นเบรก เขาก็สามารถที่จะใช้นิ้วโป้งกดเบรกแทนได้ นอกจากนี้ยังใช้มันเพื่อชะลอความเร็วรถ ใช้รักษาบาลานซ์ของรถเวลาเร่งความเร็วอีกด้วย มันช่วยป้องกันการลื่นไถลที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้

วิศวกรของ Brembo ได้ออกแบบปั๊มเบรกหลังที่ใช้งานด้วยนิ้วโป้งครั้งแรกให้กับ Mick Doohan ที่มีปัญหาทางกายภาพจากการที่ไม่สามารถออกแรงที่ขาขวาได้หลังจากประสบอุบัติเหตุในปี 1992 ในรอบ Dutch GP และจากนั้นเขาก็สามารถคว้าแชมป์โลก 5 สมัยติดต่อกันตั้งแต่ปี 1994 – 1998 และทุกวันนี้เบรกหลังแบบนี้ก็มีนักแข่ง MotoGP ใช้มากกว่า 1 ใน 3 ของนักแข่งทั้งหมดแล้ว นั่นรวมไปถึง Valentino Rossi และ Andrea Dovizioso

 

  1. เบรกหลังแบบใช้นิ้วโป้งกดนี่มีกี่แบบ?

5 เรื่องต้องรู้

หลายๆ คนอาจจะรู้ว่ามีหรือเคยเห็น แต่อาจจะไม่รู้ว่ามันมีแบบให้เลือกใชได้ ซึ่งทาง Brembo นั้นเตรียมเบรกหลังแบบใช้นิ้วโป้งไว้ให้นักแข่ง MotoGP 2 แบบ ด้วยกัน แบบแรกคือแบบมาตรฐานที่จะเชื่อมต่อเบรกหลังด้วยนิ้วโป้งเข้ากับแป้นเบรกหลัง เพื่อส่งแรงเบรกไปยังคาลิเปอร์เบรกหลังตัวเดียวกัน โดยใช้คาลิเปอร์เบรกหลังแบบ 2 ลูกสูบ โดยมีระบบที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาใหม่คือแยกวงจรเบรกออกจากกันเป็น 2 วงจร ซึ่งก่อนหน้านี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเบรกหลังด้วยเบรกนิ้วโป้งและแป้นเบรก คุณทำได้เพียงเลือกจะเบรกจากจุดใดจุดนึงเท่านั้น แต่ในแบบวงจรแยกกันนั้น คุณสามารถทำทั้งสองจุดพร้อมกันด้วย คาลิเปอร์เบรกหลังที่มี 4 ลูกสูบ ซึ่งเอื้อให้คุณทำได้

อีกแบบคือปั๊มเบรกหลังที่มือแบบกดและดึงซึ่งเริ่มเปิดตัวในปี 2019 โดยมันถูกออกแบบมาให้มั่นใจว่าจะใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงมีการทำงาน 2 แบบและสามารถใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ควบคุมได้ขึ้นอยู่กับความถนัดของนักแข่ง การใช้ปั๊มเบรกแบบนี้จะต้องติดตั้งก้านเบรกต่างจากแบบใช้นิ้วโป้งแบบเดิม 180 องศา ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นคงและความกระชับขณะเบรกได้

 

  1. ใครชนะการแข่งขัน MotoGP ด้วยระบบเบรก Brembo มากที่สุด?

นับตั้งแต่การแข่งขันในคลาส MotoGP เริ่มต้นขึ้นในปี 2002 มีการแข่งขัน 315 ครั้งและผู้ชนะทุกคันติดตั้งระบบเบรก Brembo อย่างไรก็ตาม ชัยชนะแบบติดต่อกันของ Brembo ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกก่อนจะกลายเป็นการแข่งขัน MotoGP ยาวนานกว่านั้นโดยเริ่มตั้งแต่ปี 1995 เลย โดยตั้งแต่ปี 1978กระทั่งถึงปี 2001 มีการแข่งขันในคลาส 500 กว่า 185 ครั้งที่รถของผู้ชนะใช้ Brembo นับเป็นการชัยชนะรวมกันทั้งหมด 500 ครั้งตลอดช่วงเวลา 40 ปีที่มีส่วนในการแข่งขัน Brembo ยังสามารถคุยโวได้อีกว่าประสบความสำเร็จในฐานะช่วยให้นักแข่งคว้าแชมป์โลกได้มากถึง 31 ครั้ง

ในช่วงเวลาอันยาวนานนี้ผู้ที่ชนะการแข่งขันระดับโลกมากที่สุดด้วยระบบเบรก Brembo นี้คือ Valentino Rossi โดยชนะไปทั้งหมด 89 ครั้ง ที่ 2 ตกเป็นของ Marc Marquez แชมป์โลกคนปัจจุบันและเป็นเจ้าของแชมป์โลก 8 สมัย ที่ใช้ชนะไปทั้งหมด 56 ครั้ง ขณะที่ Michael Doohan รั้งอันดับ 3 ชนะไปทั้งหมด 54 ครั้ง

หากพูดถึงในมุมของค่ายรถจะเป็น honda ที่ได้อันดับ 1 มากที่สุด ทั้งหมด 252 ครั้ง และที่สองตกเป็นของ Yamaha ทั้งหมด 179 ครั้ง และที่สามเป็นของ Ducati ทั้งหมด 49 ครั้ง ส่วนแชมป์โลกที่ใช้เบรก Brembo ช่วยคว้าแชมป์โลกได้จำนวนสมัยมากที่สุดตกเป็นของพ่อหมอที่ 7 สมัย เป็นของเจ้าหนู Marquez ไปทั้งหมด 6 สมัย และเป็นของตำนานอย่าง Doohan อีก 5 สมัย ตามลำดับครับ

และทั้งหมดนี้คือ 5 เรื่องต้องรู้ เกี่ยวกับระบบเบรกของรถแข่ง MotoGP ที่เรานำมาเสนอครับ ใครมีข้อสงสัยอะไรอีกลองทิ้งประเด็นกันไว้นะครับ เผื่อจะได้หาข้อมูลมานำเสนอกันต่อๆ ไปครับผม

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

ติดตามเราบนแฟนเพจคลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก 

Next Post

4 สูบวี หรือ 4 สูบเรียง แบบไหนดีกว่าจากปาก Bautista

4 สูบวี หรือ 4 สูบเรียง แบบไหนดีกว่าจากปาก Bautist […]
V4-Bautista

You May Like

Subscribe US Now