เจาะลึก Pirelli Diablo Rosso IV ดียังไง ใหม่ตรงไหน เรามีคำตอบ

Admin Superbike

เจาะลึก Pirelli Diablo Rosso IV ดียังไง ใหม่ตรงไหน เรามีคำตอบ

เจาะลึก Pirelli Diablo Rosso IV

เจาะลึก Pirelli Diablo Rosso IV
เมื่อตอนต้นเดือนมกราคม Pirelli เป็นข่าวใหญ่ในวงการมอเตอร์ไซค์อีกครั้งหลังจากประกาศความสำเร็จของยอดขายยางในตระกูล Diablo Rosso ที่ทำยอดขายรวมไปแล้วเกินกว่า 5 ล้านเส้น และยังตอกย้ำความสำเร็จรวมถึงแสดงศักยภาพรวมถึงความตั้งใจที่จะไม่หยุดพัฒนา เปิดตัวยางเจเนอเรชันที่ 4 ของตระกูลนี้อีกด้วย ซึ่งทางเราก็ได้นำเสนอไปแล้ว และในครั้งนี้เราจะมาเจาะลึก Pirelli Diablo Rosso IV ถึงรายละเอียดต่างๆ ของเจ้ายางซูเปอร์สปอร์ตเจเนอเรชันใหม่นี้กันครับ

ออกแบบมาเพื่อใคร

เจาะลึก Pirelli Diablo Rosso IV เจาะลึก Pirelli Diablo Rosso IV แน่นอนว่ารอสโซ่ 4 ถูกวางให้เป็นยางซูเปอร์สปอร์ตถนนสมรรถนะสูง จึงเป็นยางที่เหมาะกับการใช้งานบนถนนเป็นหลัก แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถขับขี่ในสนามหรือในแทร็กได้เช่นเดียวกัน ลายดอกยางที่ให้มาก็สามารถรีดน้ำได้ดี จึงช่วยให้ขับขี่ได้ดีแม้กระทั่งถนนที่เปียกชื้น

ดังนั้นยางตัวนี้จึงเหมาะกับการใส่รถประเภทซูเปอร์สปอร์ต สปอร์ตไบค์ เน็กเก็ดไบค์ รวมไปถึงรถสไตล์อื่นๆ ที่เจ้าของรถมีสไตล์หรือชื่นชอบการขับขี่ในแบบสปอร์ต ชอบซิ่งบนถนนตลอดไปจนถึงเล่นโค้งไปตามถนนที่คดเคี้ยวหรือบนเทือกเขา หรือผู้ชื่นชอบขับขี่ในสนามในแบบเป็นครั้งคราวไป ไม่บ่อยนัก

ดีอย่างไร


ยางใหม่นี้ให้การยึดเกาะยอดเยี่ยมในทุกสภาวะจากการเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ได้รับมาจากสนามแข่งและถูกถ่ายทอดเข้ามาในตัวยางรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในเรื่องของโครงสร้างและโปรไฟล์แบบใหม่ ที่เพิ่มความแข็งแรงและลดการบิดตัวหรือเสียรูปของยาง ทำให้ยางยังคงให้การยึดเกาะได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเบรก การเร่งความเร็ว หรือแม้แต่ในตอนเข้าโค้ง อีกทั้งยังทนทานมากพอที่จะรองรับแรงเครียดที่เกิดจากเครื่องยนต์ที่มีแรงม้าเกินกว่า 200 ตัวได้อีกด้วย

เจาะลึก Pirelli Diablo Rosso IV

นอกจากเรื่องการยึดเกาะที่ยอดเยี่ยม ตัวยางยังให้การตอบสนองที่ดี ให้ผู้ขับขี่สามารถจับอาการต่างๆ ของรถและถนนได้ดี ฉับไวและแม่นยำ ทุกสถานการณ์ รวมไปถึงสมรรถนะที่ดีแบบไม่เกี่ยงว่าจะเป็นถนนแห้งหรือถนนเปียก ด้วยเนื้อยางแบบฟูลซิลิก้าทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมด้วยเทคโนโลยีการซ้อนทับของเนื้อยางแบบ Cap&Base ที่คอมปาวด์ของยางตรงกลางที่สัมผัสถนนเวลาขับขี่ทางตรงจะมีส่วนเนื้อยางที่อยู่ด้านล่างซึ่งจะขยายออกไปด้านข้าง ทำหน้าที่ช่วยกระจายความร้อนไปยังเนื้อยางด้านข้างหรือไหล่ยางซึ่งช่วยเพิ่มการยึดเกาะเวลาเข้าโค้งได้ดีขึ้นอีกด้วย บวกกับลายดอกยางพิเศษช่วยให้สามารถรีดน้ำได้เป็นอย่างดี

ยางน่ะรู้แล้วว่าใหม่ แต่มีอะไรใหม่บ้าง?

คอมปาวด์ใหม่


ในส่วนของยางหน้านั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน มีเนื้อยาง 2 คอมปาวด์ด้วยกัน โดยส่วนตรงกลางของยางจะใช้คอมปาวด์ที่แข็งกว่าโดยจะมีส่วนผสมของซิลิก้าอยู่มาก ซึ่งส่วนนี้จะกินพื้นที่ยางกว่า 50% และเป็นส่วนที่ทำหน้าที่สัมผัสกับพื้นถนนจนถึงมุม 35 องศา จึงช่วยลดการสึกหรอที่ไม่สม่ำเสมอของหน้ายาง ลดอาการเหวอขณะกำลังจะเข้าโค้งได้

ส่วนด้านข้างของยางทั้งสองข้างก็จะมีคอมปาวด์ที่นุ่มลงมา แต่ก็ยังมีส่วนผสมของซิลิก้าอยู่มาก ช่วยให้ได้การยึดเกาะที่ดีแม้ในยามที่พื้นผิวถนนหรือยางอุณหภูมิต่ำ

ในส่วนของยางหลังนั้นจะต่างออกไป โดยจะมียางสองสูตรด้วยกัน ซึ่งแต่ละสูตรจะพัฒนามาเพื่อให้เหมาะกับลักษณะของมอเตอร์ไซค์แต่ละคัน อันมีผลมาจากน้ำหนักและกำลังแรงม้าของตัวรถนั่นเอง

เจาะลึก Pirelli Diablo Rosso IV

สำหรับยางหลังไซส์ที่ไม่ใหญ่เกินไปกว่า 190/50 ZR 17” ซึ่งเป็นยางสำหรับมอเตอร์ไซค์ขนาดความจุต่ำจนถึงระดับกลาง จะเป็นยางแบบ 2 คอมปาวด์ 3 โซน แต่มีโครงสร้างยางแบบ Cap&Base โดยตรงกลางจะมีคอมปาวด์ที่แข็งที่สุดพร้อมซิลิก้าจำนวนมากเพื่อให้ร้อนเร็วและอายุการใช้งานยาวนาน และด้วยโครงสร้างใหม่นี้ทำให้กระจายความร้อนไปยังด้านข้างได้อีกด้วย

ส่วนคอมปาวด์ด้านข้างก็จะนุ่มลง แต่ยังมีซิลิก้าอยู่มากเช่นกัน ซึ่งออกแบบมาสำหรับยางรุ่นใหม่นี้โดยเฉพาะ ทำให้วอร์มอัพยางได้เร็วและเข้าโค้งได้หนึบแบบยางแข่ง

สำหรับยางหลังไซส์ใหญ่ตั้งแต่ 190/55 ZR 17” ขึ้นไป จะเป็นยาง 3 คอมปาวด์ 5 โซน โดยคอมปาวด์ตรงกลางจะแข็งที่สุดสำหรับรองรับความเร็วสูงๆ ให้การสึกหรอที่สม่ำเสมอ และอายุการใช้งานยาวนาน แต่ก็ไม่ทิ้งคุณสมบัติร้อนเร็ว ยึดเกาะได้ดีแม้ถนนเปียก ด้วยการมีส่วนผสมซิลิก้าจำนวนมาก
คอมปาวด์ด้านในถัดออกมาจากตรงกลาง จะมีเนื้อนุ่มกว่าตรงกลาง รองรับการเข้าโค้งทั่วๆ ไป องศาไม่มาก มีการยึดเกาะที่ดีจากซิลิก้าจำนวนมากเช่นกัน

และสุดท้ายคอมปาวด์ที่ 3 ด้านนอกบริเวณไหล่ยาง จะเป็นคอมปาวด์แบบคาร์บอนแบล็ก เป็นคอมปาวด์ที่นำมาจาก Supercorsa SC ที่ใช้ในการแข่งขันเอ็นดูรานซ์ ช่วยรองรับการแบนเข้าโค้งจนหมดขอบ รวมถึงการยึดเกาะที่ดีเวลาเร่งออกตัวจากโค้ง

โปรไฟล์ใหม่


รอสโซ่ 4 นั่นมาพร้อมกับโปรไฟล์ใหม่ที่ได้รับมาจากสนามแข่ง โดยดีไซน์มาเพื่อเพิ่มการควบคุมให้ดียิ่งขึ้น ตรงกลางนั้นออกแบบมาให้มีโปรไฟล์โค้งมนมากขึ้นพร้อมที่จะเปลี่ยนทิศทางหรือเข้าโค้งได้อย่างรวดเร็ว ด้านข้างของยางมีความโค้งมนน้อยลง เพื่อให้มีหน้าสัมผัสมากขึ้นเวลาเข้าโค้ง ช่วยให้ยึดเกาะในโค้งได้ดีมากยิ่งขึ้น

ลายดอกยางใหม่


ลายดอกยางใหม่ยังคงมีเอกลักษณ์ลายสายฟ้า หรือที่ฝรั่งเขาเรียกว่า Flash อยู่ในตัวยางด้วย เพียงแต่ว่าจะมีพื้นที่ของหน้าสัมผัสแบบไม่มีร่องดอกยางหรือที่เรียกว่าสลิกบริเวณไหล่ยางมากขึ้นเพื่อรองรับการขับขี่แบบสปอร์ตที่มากขึ้น

โดยเจ้าลายสายฟ้านั้นจะถูกใช้บริเวณตรงกลางหน้ายางทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ในลักษณะการวางที่ช่วยให้สึกหรอที่สม่ำเสมอ และช่วยรีดน้ำออกจากหน้าสัมผัสเวลาขับขี่ทางตรงหรือรถตั้งตรงได้ดี

ด้านข้างจะมีร่องดอกยางที่สอดคล้องรับกับลายสายฟ้าตรงกลาง ช่วยรีดน้ำออกจากหน้ายางเวลาเข้าโค้ง หากเทียบกับเวอร์ชันเก่าแล้วจะพบว่าในส่วนของยางหน้านั้นจะมีพื้นที่สลิกมากกว่าที่องศาการเข้าโค้งมากกว่า 35 องศา

แต่ในส่วนของยางหลังนั้นตรงกลางหน้ายางจะมีพื้นที่สลิกมากขึ้น เพื่อช่วยให้การสึกหรอที่สม่ำเสมอ ขับขี่ได้เสถียรมากขึ้นที่ย่านความเร็วสูง โดยที่ยังรีดน้ำได้ดี

โครงสร้างใหม่

Rosso IV จะใช้โครงสร้างใหม่ที่พัฒนามาจากการแข่งขัน WorldSBK กับเทคโนโลยีใยเหล็ก 0 องศา ซึ่งจะช่วยให้ยางสามารถรับแรงเครียดที่เกิดขึ้นได้หลากหลาย โดยที่ไม่มีทำให้ยางกระด้างจนเสียความนุ่มสบายไป

ในส่วนยางหน้านั้นจะมีเส้นใยเรยองซึ่งมีความแข็งแรงกว่า แต่มีความหนาแน่นน้อยกว่า 20% ทำให้สามารถใส่เนื้อยางลงไปได้มากขึ้น ช่วยให้จับสัมผัสต่างๆ ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

ขณะเดียวกันยางหลังจะมีโครงสร้างต่างกันไป แบ่งออกเป็น 2 แบบ สำหรับยางหลังไซส์ที่ไม่ใหญ่เกินไปกว่า 190/50 ZR-17” จะมีเส้นใยเรยอนเกลียวคู่ซึ่งให้ความแข็งแรงมากขึ้น คล้ายกับยางหน้า

และสำหรับยางหลังไซส์ใหญ่ตั้งแต่ 190/55 ZR-17” ที่ออกแบบมาสำหรับซูเปอร์ไบค์และเน็กเก็ดไบค์ขนาดใหญ่ที่มีแรงม้าสูงๆ ระดับ 200 แรงม้าขึ้นไป จะมีโครงสร้างเส้นใย Lyocel 3 เกลียวที่มีคุณสมบัติทนทานต่อการบิดตัวหรือเสียรูปสูง จึงทำให้ยางทนต่อแรงเครียดที่เกิดจากการเร่งออกจากโค้งหรือเร่งความเร็วหนักๆ ในทางตรง

ซึ่งเมื่อผสานกันทั้งยางหน้าและยางหลังที่มีโครงสร้างใหม่ที่แข็งแรงทนทานพร้อมกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ของรถสมัยใหม่ๆ ก็จะช่วยเพิ่มการควบคุมและความปลอดภัยได้มากขึ้นอีกด้วย

ทั้งนี้ตัวยางรุ่นใหม่เบื้องต้นจะมีไซส์รองรับดังนี้
ยางหน้า
120/70 ZR 17 M/C (58W) TL

ยางหลัง
160/60 ZR 17 M/C (69W) TL
180/55 ZR 17 M/C (73W) TL
190/55 ZR 17 M/C (75W) TL
200/55 ZR 17 M/C (78W) TL
200/60 ZR 17 M/C (80W) TL

*หมายเหตุ วันวางจำหน่ายยังไม่ระบุ โปรดสอบถามตัวแทนจำหน่ายอีกครั้ง

สรุปโดยรวมจากการ เจาะลึก Pirelli Diablo Rosso IV ก็จะพบว่าเป็นยางซูเปอร์สปอร์ตถนน ที่มีสมรรถนะสูงสามารถใช้งานในแทร็กได้ และให้การยึดเกาะที่ดีแม้ในยามถนนเปียก ตลอดจนถึงสามารถรองรับรถสมัยใหม่ที่มีกำลังสูงเกินกว่า 200 แรงม้าได้ และมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ล้ำสมัยได้

เหมาะกับผู้ที่ชอบขับขี่แบบสปอร์ต โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องเป็นรถสปอร์ตเพียงอย่างเดียว แต่เหมาะกับรถทุกสไตล์ที่ต้องการสมรรถนะหรือการขับขี่แบบสปอร์ต ชอบการเล่นโค้งบนทางคดเคี้ยวหรือเส้นทางคดเคี้ยวบนเทือกเขา

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Next Post

Damon HyperSport เตรียมอัพเกรดใหม่รับปี 2021

Damon HyperSport เตรียมอัพเกรดใหม่รับปี 2021 &nbsp […]
Damon-HyperSport

You May Like

Subscribe US Now