รีวิว XMAX Tech MAX 2024 
กับ 7 จุดเด่น ปักหมุดเช็คอิน จ.ชลบุรี

Joe Superbike

รีวิว XMAX Tech MAX 2024 
กับ 7 จุดเด่น ปักหมุดเช็คอิน จ.ชลบุรี

รีวิว XMAX Tech MAX 2024

สำหรับใครที่กำลังมองหารถสกู๊ตเตอร์ในพิกัด 300 ซีซีเจ๋ง ๆ ซักคัน หรือกำลังพิจารณาอยู่แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นอะไรดี ครั้งนี้ทางทีมงาน SuperBike Thailand จะพาไปชม รีวิว XMAX TechMax 2024 แม็กซี่สกู๊ตเตอร์รุ่นฮิตติดเทรนด์ทั่วโลกจากค่ายส้อมเสียงที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา กับการกลับมาครั้งใหม่ด้วยภาพลักษณ์ที่เป็นอิดิชันพิเศษดูโดดเด่นสะดุดตาไปจากเดิม พร้อมกับ 7 จุดเด่นที่น่าสนใจ เดี๋ยวจะเล่ารายละเอียดทีละประเด็นให้คุณผู้ชมได้พิจารณากันครับ

1.ดีไซน์ปรับใหม่ หรูหรา พรีเมียมยิ่งกว่าเดิม

รีวิว XMAX Tech MAX 2024 รีวิว XMAX Tech MAX 2024

ประเด็นข้อแรกกับดีไซน์ที่ถูกปรับใหม่ ดูพรีเมียมและหรูหรามากยิ่งขึ้น อย่างแรกเลยคือเรื่องของชุดสีกับ Magma Black (น้ำตาล – ดำ) ซึ่งเป็นเฉดสีเดียวกันกับบิ๊กสกู๊ตเตอร์รุ่นพี่ในค่ายอย่าง TMAX Tech MAX และมีจำหน่ายเพียงสีเดียวในรุ่นนี้อีกด้วย พร้อมกับส่วนอื่น ๆ ที่ทางค่ายได้ติดตั้งมาเฉพาะในรุ่น Tech Max มีดังนี้

โช้คอัพหลัง Ohlins Tech MAX Limited Edition

รีวิว XMAX Tech MAX 2024

ระบบกันสะเทือนหลังสีทองประกายเด่น ๆ จะเป็นรุ่นอื่น ๆ ก็คงเป็นไปไม่ได้ นอกจากโช้คตัวเทพจาก Ohlins Tech MAX Limited Edition ตรงรุ่นจากโรงงาน มาพร้อมซับแทงค์และติดสติ๊กเกอร์ Ohlins Tech Max เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ใครที่ชื่นชอบรถสกู๊ตเตอร์และเป็นสาวกโช้คอัพแบรนด์นี้ก็ต้องพิจารณากันแล้ว

โลโก้ด้านหน้าพิเศษเฉพาะรุ่น TECH MAX EMBLEM 

เสริมความพรีเมียมเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น ด้วยโลโก้เอ็มเบล็มพิเศษเฉพาะตัวที่ด้านหน้าตัวรถ สื่อถึงความหรูหรา พิเศษและโดดเด่นในสไตล์โมเดลอิดิชันพิเศษรุ่นนี้ 

ปลอกแฮนด์พิเศษ Tech MAX Hand Grip

ปลอกแฮนด์ลวดสายพิเศษพร้อมตัวอักษร Tech MAX ที่ไม่ได้เพิ่มความหรูหราเพียงอย่างเดียว แต่ยังเพิ่มความกระชับในการใช้งานขับขี่มากยิ่งขึ้น

เบาะนั่งพิเศษ Exclusive Tech MAX SPECIAL SEAT

รีวิว XMAX Tech MAX 2024

อีกหนึ่งสิ่งที่เพิ่มความพรีเมียม ความหรูหรากับตัวเบาะออกแบบพิเศษ พร้อมพนักพิงหลังช่วยเสริมความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเบาะรุ่นนี้ใช้วัสดุเนื้อผ้าชนิดพิเศษ เดินตะเข็บคู่ออกมาดูสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ด้วยการติดแผ่นเพลท Yamaha ไว้ตรงเบาะคนซ้อน สะท้อนความหล่อเหลาในแบบแม็กซี่สกู๊ตเตอร์

ฝาปิดช่องเก็บของพิเศษ TECH MAX COVER FRONT

ฝาปิดช่องเก็บของพิเศษนี้หุ้มด้วยวัสดุพิเศษ เป็นเนื้อผ้าเดียวกันกับตัวเบาะ เพิ่มความเรียบหรูดูดีไปอีกระดับสมกับดีกรีเทคแม็กซ์

ชุดรองพักเท้าด้านหน้าอลูมิเนียม Tech MAX Foot Plates

รีวิว XMAX Tech MAX 2024

ใส่ใจยันไปถึงที่ฟุตเพลท ด้วยชุดรองพักเท้าอลูมิเนียมออกแบบพิเศษที่มีน้ำหนักเบา ช่วยเพิ่มความทนทาน เพิ่มความสบายใจใช้งานแล้วไม่ต้องกลัวรถเป็นรอย อีกทั้งยังติดแผ่นยางบนเพลทช่วยเสริมการยึดเกาะของผู้ขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น

ชิลด์หน้าปรับได้ ไฟหน้ารูปทรงตัว “X”
ท่อไอเสียทรงโต ไฟท้ายดีไซน์สปอร์ต

สำหรับรูปลักษณ์ดีไซน์ในส่วนอื่น ๆ ยังคงยึดต้นแบบของสายพันธุ์ MAX Series เจ็นใหม่ล่าสุด เริ่มที่ไฟหน้า ไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ และไฟท้ายดีไซน์รูปทรงตัว “X” รวมไปถึงไฟเลี้ยวบิวอินต์ตรงบริเวณคิ้วหน้า ชิลด์หน้าทรงสูงปรับแมนนวลได้ สำหรับตัวแฟริ่งยังคงดีไซน์ทรงสปอร์ต และยังคงให้ความดุดันด้วยชุดสีน้ำดำทั้งบังโคลนหน้า คิ้วไฟหน้า เบาะ แฟริ่งด้านข้างและด้านท้าย รวมไปถึงชุดแคร้งเครื่องและท่อไอเสียขนาดใหญ่ออกแบบมาตัดกับสีน้ำตาลได้อย่างลงตัว 

รีวิว XMAX Tech MAX 2024 รีวิว XMAX Tech MAX 2024
หน้าจอ Dual Display ช่องเก็บของด้านหน้า 2 ช่อง
ประกับฝั่งซ้าย ประกับฝั่งขวา

ขณะที่ฝั่งคอนโทรลเริ่มจากปะกับด้านซ้าย มีทั้งสวิตซ์ไฟสูงต่ำ ไฟพาส ไฟเลี้ยว แตร และปุ่มเมนูบังคับปรับโหมดหน้าจอ ส่วนปะกับด้านขวามีสวิตช์ออฟรันและไฟฉุกเฉินติดตั้งมาให้ ต่อด้วยหน้าจอ Dual Display ที่มีทั้งจอดิจิทัล LCD ขนาด 3.2 นิ้ว และจอสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว (รายละเอียดอยู่ในหัวข้อเทคโนโลยีใช้งาน) ส่องลงมาจะพบกับช่องเก็บของด้านหน้าซ้ายขวา สามารถเก็บสิ่งของได้ โดยเฉพาะช่องเก็บของฝั่งซ้าย จะมีช่องชาร์จไฟขนาด 12 โวลต์ สามารถชาร์จโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้นั่นเอง

2.เครื่องยนต์บลูคอร์ พิกัด 300 ซีซี

รีวิว XMAX Tech MAX 2024

ประเด็นข้อที่สองกับเครื่องยนต์ที่ให้ความประหยัดและสมรรถนะที่ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีบลูคอร์ กับสูบเดียวขนาด 292 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด ขับเคลื่อนด้วยสายพาน และนอกจากนี้กระบอกสูบยังเคลือบไดอะซิลที่เป็นคุณสมบัติเฉพาะรถยามาฮ่าที่จะเพิ่มความลื่นและช่วยลดแรงเสียดทานในการทำงานเป็นพิเศษ โดยให้พละกำลังแรงม้าสูงสุด 27 แรงม้าที่ 7,250 รอบ พร้อมแรงบิด 29 นิวตันเมตรที่ 5,750 รอบ ถังน้ำมันขนาด 13 ลิตร และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐาน Euro5 อีกด้วย

3.ช่วงล่างโดดเด่น ในแบบ Tech MAX

โช้คหลัง Ohlins ปรับแต่งได้เต็มระบบ โช้คหน้าเทเลสโคปิก ขนาดแกน 33 มม.

ประเด็นข้อที่สาม สำหรับช่วงล่างที่ถือว่าเป็นจุดขายของรุ่นนี้ก็ว่าได้ ด้วยระบบช่วงล่างที่ใช้โช้คหน้าเทเลสโคปิก ขนาดแกน 33 มม. ให้ระยะยุบที่ 110 มม.ส่วนด้านหลังเป็นยูนิตสวิงจากแบรนด์ Ohlins อย่างที่กล่าวไปข้างต้น มาพร้อมฟังก์ชันที่สามารถปรับแต่งได้เต็มระบบไม่ว่าจะเป็นพรีโหลด รีบาวด์หรือคอมเพรสชัน เรียกได้ว่าเต็มระบบ..!!

สำหรับระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 267 มม. ด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวเช่นกัน มีขนาดจาน 245 มม. พร้อมระบบป้องกันล้อล็อก ABS Dual Channel ต่อด้วยล้ออลูมิเนียมอัลลอยโดยล้อหน้ามีขนาด 15 นิ้ว ล้อหลัง 14 นิ้ว รัดด้วยยางแบบไม่ใช้ยางในขนาด 120/70 และ 140/70 ตามลำดับ เคลมน้ำหนักมาที่ 183 กก.

4.เทคโนโลยีเต็มขั้น เพิ่มความสะดวกในการขับขี่

รีวิว XMAX Tech MAX 2024

ประเด็นข้อที่สี่กับระบบเทคโนโลยีที่ติดตั้งมาเพื่อรองรับการขับขี่ได้อย่างเต็มระบบ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ LCD โชว์แสดงผลทั้งความเร็ว เรือบเครื่องยนต์ เกย์น้ำมัน อุณหภูมิอากาศ เวลาและทริปการเดินทาง ต่อด้วยหน้าจอสี TFT มาพร้อมฟังก์ชันต่าง ๆ มากมายให้พร้อมใช้งาน โดยแสดงผลทั้ง 

  • แสดงข้อมูลรถและการขับขี่ (ความเร็วเฉลี่ย, อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย)
  • แสดงข้อมูล รับสายโทรศัพท์ (เมื่อเชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธ) 
  • Text Message (SMS, Email) 
  • ภาษา (สามารถปรับตั้งค่าได้) 
  • ดิสเพลย์รายการเพลง (เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านระบบบลูทูธ)  
  • **ระบบแทร็คชันคอนโทรล (เปิด-ปิดได้)** 

รีวิว XMAX Tech MAX 2024

ยังมาพร้อมความพิเศษด้วยระบบนำทาง เมื่อเชื่อมต่อกับแอป Garmin Street Cross สามารถดูแมปเส้นทางได้ที่ตัวหน้าจอถือว่าสะดวกต่อผู้ใช้ครบครันโดยไม่มีค่าบริการ  แค่นั้นยังไม่พอตัวรถยังรองรับระบบ Y-Connect สามารถดูข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ ของตัวรถ และเช็คข้อมูลตัวรถผ่านทางสมาร์ทโฟนแบบครบ จบที่เดียว

5.ฟีเจอร์ใช้งานครบครัน

ประเด็นข้อที่ห้า กับฟีเจอร์พร้อมใช้งานมากมายทั้งช่องชาร์จไฟด้านหน้า กุญแจสมาร์ทคีย์ สะดวก พกพาง่าย ไม่ต้องเสียบเบ้ากุญแจ แถมยังมีฟังก์ชันกดค้นหารถให้ใช้งานอีกด้วย และที่สำคัญที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ สามารถเก็บหมวกกันน็อกได้ 2 ใบ หรือสัมภาระ กระเป๋าหรือเอกสารอื่น ๆ ได้

6.ราคาไม่แพงเกินไป

ประเด็นข้อที่หก กับราคาค่าตัวของเจ้า Tech MAX รุ่นนี้ เปิดราคาอยู่ที่ 224,900 บาท กับสีน้ำตาล-ดำ (Magma Black) กับสิ่งพิเศษที่เพิ่มเติมทั้งความโดดเด่น ความพรีเมียมในสไตล์ Tech MAX วัสดุตกแต่งพิเศษทั้งตัวโช้คอัพ (ลูกค้าจะได้โช้คอัพ 2 ชุดคือ โช้คอัพ Ohlins 1 ชุด และ โช้คอัพ Standard อีก 1 ชุด) เบาะ เอ็มเบล็ม ชุดรองพักเท้าด้านหน้า ช่องเก็บของ ปลอกแฮนด์และชุดสี โดยสามารถดูรายละเอียดหรือชมรถตัวจริงได้ที่ ยามาฮ่า สแควร์ ทุกสาขาทั่วประเทศ

7.รับประกัน 5 ปีหรือ 50,000 กม.

รีวิว XMAX Tech MAX 2024

ประเด็นข้อสุดท้ายกับ การรับประกัน 5 ปีหรือ 50,000 กม. ถือว่าเป็นสิทธิพิเศษที่ทางไทยยามาฮ่า มอบให้กับลูกค้าโดยเฉพาะ และเป็นค่ายเดียวในประเทศไทยที่ให้การรับประกันยาวนานสุด และแค่นั้นไม่พอโช้คอัพ Ohlins ยังกล้าให้รับประกันนานถึง 5 ปีหรือ 50,000 กม.เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าใช้กันยาว ๆ 

ฟีลลิ่งการขับขี่ 

รีวิว XMAX Tech MAX 2024

และการทดสอบครั้งนี้เรียกได้ว่าพิเศษกว่าครั้งไหน ๆ เพราะเป็นการรีวิวแบบ Trip and Test ปักหมุดวันเดย์ทริปในเส้นทาง กทม.-ชลบุรี พร้อมพาเจ้า Tech Max คันนี้ลุยเช็คอินสถานที่สำคัญทั้ง อ่างเก็บน้ำบางพระ – เขาฉลาก – หาดวอนนภา – เขาสามมุข – สะพานใหม่ รวมระยะทางไป-กลับกว่า 200 กม. เดี๋ยวเรามาดูฟีลลิ่งการขับขี่ในทีละส่วนกันดีกว่า 

รีวิว XMAX Tech MAX 2024

ออกสตาร์ทจาก Showpow สาขาอ่อนนุช รันอินทำความคุ้นเคยกับตัวรถ ก่อนเข้าสู่ถนนบางนา-ตราด และเดินทางยาว ๆ  100 กม. สู่อ่างเก็บน้ำบางพระ อย่างแรกเลยท่านั่งการขับขี่ โมเดลรุ่นนี้ออกแบบตัวเบาะ ฟุตเพลท แฮนด์ ออกแบบมาให้นั่งขับขี่สบายมาก ฟุตเพลทออกแบบ 2 ระดับทำให้การวางเท้านั้นสะดวกสบายไม่ว่าจะขับขี่แบบทั่วไปหรือขับขี่ในสไตล์ทัวริ่ง

โดยผู้ขับขี่สามารถขยับ Movement ในช่วงเวลาขับขี่นาน ๆ แล้วเกิดเมื่อยก็สามารถเหยียดขาไปข้างหน้าได้ในส่วนนี้ อีกทั้งตัวฟุตเพจอลูมิเนียมที่มีการออกแบบมาใหม่ ช่วยป้องกันรอยเปื้อนจากสิ่งต่าง ๆ ได้ และยังมีแผ่นยางช่วยเสริมการยึดเกาะกับตัวรองเท้าได้ดีมากขึ้น 

และสิ่งที่ทำให้เจ้า Tech Max รุ่นนี้แตกต่างไปจากรุ่นแสตนดาร์ด อย่างแรกเลยก็คือ ตัวเบาะลายพิเศษจากโรงงาน ที่มีการตัดเย็บ ปาดเว้าให้กระชับมากขึ้น แต่ก็ยังคงให้ฟีลลิ่งท่านั่งขับขี่ที่นุ่มนวลและสบาย (โครต ๆ) และที่ชอบเป็นพิเศษคือตัวพนักพิงด้านหลัง ที่ช่วยในเรื่องของการบล็อกท่านั่งขับขี่ได้สมูทมากยิ่งขึ้น ยิ่งใครที่มีปัญหากับอาการปวดหลังแนะนำรุ่นนี้เลย

รีวิว XMAX Tech MAX 2024

ต่อมาจะเป็นในส่วนของแฮนด์นั้น ให้ระยะองศามาค่อนข้างโอเค แฮนด์เดอริ่งคอนโทรลได้สะดวกในเวลาขับขี่มุดซอกแซก และยิ่งไปกว่านั้นปลอกแฮนด์ที่ออกแบบใหม่ ช่วยเสริมการยึดเกาะ จับแล้วรู้สึกกระชับติดมือ บิดแล้วไม่ลื่นในเวลาที่ขับขี่ทางไกลและใช้เวลานาน ๆ จะช่วยได้ในส่วนนี้ แต่อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการเพิ่มความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่ แนะนำให้ใส่ถุงมือด้วยน่าจะดีกว่าครับ

ข้อสังเกตุอีกจุดหนึ่งคือเรื่องของมิติตัวรถ หากใครเป็นที่มือใหม่หรือได้ลองจับเจ้า Tech Max มาขี่ครั้งแรก อยากให้ลองฝึก หาบาลานซ์และทำความคุ้นชินกับตัวรถเสียก่อน จะช่วยให้การขับขี่นั้นสนุกมากยิ่งขึ้น 

ขี่สนุก รอบต้นไหล รอบปลายดันยาว ๆ สู่อ่างเก็บน้ำบางพระ 

หลังจากบิดตึงมือได้ซักพักแล้ว ก็ขอแวะรับลม ชมวิวที่อ่างเก็บน้ำบางพระ-บ้างบึง สำหรับเครื่องยนต์นั้นคงไม่แตกต่างอะไรไปจากเจ้า XMAX 300 หลังที่ได้ทำการรีวิวไปก่อนมากนัก โดยเครื่องยนต์นั้นให้ตอบสนองได้ดี ช่วงเครื่องยนต์รอบต้นนั้นให้ความสมูท ออกตัวเนียน ๆ ส่วนช่วงรอบล่างนั้นมาไวตั้งแต่ความเร็วที่ 60 – 100 กม./ชม. ให้จังหวะการเร่งแซงนั้นทำได้คล่องตัว

แม้แต่ความเร็วในรอบปลายก็ขับขี่ได้สนุก หลังจากที่ได้ทดสอบแล้ว (เครื่องเดิมจากโรงงาน) ท็อปสปีดรุ่นนี้มาให้มากถึง 150 กม./ชม. เลยทีเดียว และมั่นใจได้ว่าถ้าหากไล่สเต็ปดี ๆ ตัวรถสามารถไปได้มากกว่านี้อย่างแน่นอน

ขี่ทางเรียบมันธรรมดาไป ขี่ขึ้นเขาฉลากเลยแล้วกัน

รีวิว XMAX Tech MAX 2024

ขี่วนรอบอ่างเก็บน้ำบางพระแล้วก็อดไม่ได้ที่จะไปชมทิวทัศน์เมืองชลบุรี ณ ยอดเขาฉลาก เพื่อชมทิวทัศน์เมืองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยระยะทาง 2 กม. กับความสูงอยู่ราว ๆ 250 เมตร ต้องบอกว่าขับขี่ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย บวกกับฟีลลิ่งการเบรกในช่วงลงเนินเขาถือว่าเอาอยู่หมัด สามารถกดเบรกได้อย่างมั่นใจโดยตัวล้อไม่มีอาการสะบัดให้เห็น ในส่วนนี้ตอบโจทย์โดยเฉพาะไบค์เกอร์สายท่องเที่ยว ถือว่าผ่าน แต่สำหรับสายที่ชื่นชอบความเร็วเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็อยากให้ลองอัปเกรดระบบเบรก เผื่อรองรับการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น

ช่วงล่างเยี่ยม 

เดินทางกันต่ออีก 12 กม. เข้าสู่หาดวอนนภา แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตย่านหนึ่งในใจกลางจ.ชลบุรี กับครั้งนี้ที่แอดมินนั้นพาเจ้า Tech MAX มาด้วย และแน่นอนด้วยความโดดเด่นของโฉมคันนี้ ย่อมเป็นที่สะดุดตาของผู้คนมากมาย เอาหล่ะเข้าประเด็น

อีกหนึ่งจุดเด่นหลักของโมเดล Tech Max คันนี้ หากไม่กล่าวก็คงเป็นไปไม่ได้ กับระบบกันสะเทือนด้วยโช้คหน้าเทเลสโคปิก โช้คหลังยูนิตสวิงรุ่น Ohlins ให้มาถือว่าค่อนข้างดี โดยเฉพาะด้านหลัง หลังจากที่ได้ขับขี่ วิ่งผ่านหลุมหรือร่องถนนต่าง ๆ นานา ตัวโช้คให้ระยะยุบและการคืนตัวได้ค่อนข้างนุ่มนวล และสามารถปรับแต่งได้เต็มระบบไม่ว่าจะเป็น พรีโหลด รีบาวด์ และคอมเพรสชัน แต่ถ้าอยากไปสุดก็ลองเปลี่ยนไส้โช้คหน้าก็น่าจะดีนะ

ถ้าเปลี่ยนยาง ไปได้มากกว่านี้

วิ่งเทียบชายหาดขึ้นมายาว ๆ จนมาถึงเขาสามมุข โดยลักษณะเส้นทางนั้นมีโค้งให้เล่นสนุก ๆ เป็นระยะ ก็ขอพูดถึงเรื่องยางสำหรับยางที่ติดมากับตัวรถ ถือว่าพอใช้งานได้ตามมาตรฐาน แต่ถ้าหากจะเสริมความปลอดภัยให้มากขึ้น ขับขี่ได้มั่นใจยิ่งขึ้น ก็อยากให้ลองเลือกยางดี ๆ มีโปรไฟล์ที่ช่วยเสริมการยึดเกาะถนนเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นถนนทางเรียบหรือทางฝุ่น ลองพิจารณากันดูกับราคาที่เพิ่มขึ้นเพียงไม่กี่พันบาท เชื่อว่ามันจะช่วยให้คุณขับขี่สนุกเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

ปิดท้ายในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน กับจุดเช็คอินที่สะพานใหม่ก่อนเดินทางกลับ ก็สรุปการเดินทางทริปนี้ใช้น้ำมันเฉลี่ยที่ 23.4 กม./ลิตร กับความเร็วเฉลี่ยที่ใช้ราว ๆ 100 – 110 กม./ชม.

คะแนนสำหรับรีวิวการทดสอบ
Design :
8.5/10 ตัวรถปรับเปลี่ยนใหม่หลายจุด ดูพรีเมียมมากขึ้น สำหรับคะแนนที่เหลือต้องยกให้กับผู้ขับขี่ที่ใช้งานแล้วกันครับ ว่าจะตกแต่งหรือคัสตอมเพิ่มเติมในแบบคะแนนเต็ม 10 ของตัวเองอย่างไร
Ergonomic : 8.5/10 มันเป็นสกู๊ตเตอร์ที่ขี่แล้วสบายเสียจริง จะใช้งานแบบไหนก็ค่อนข้างตอบโจทย์
Engine : 7.5/10 ออกตัวเนียน ๆ กำลังเริ่มมาในช่วงรอบความเร็วที่ 40 ขึ้นไป บิดเร่งแซงง่าย ส่วนรอบปลายก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งพื้นฐานเครื่องยนต์คงไม่ปรับเปลี่ยนอะไรไปจากรุ่น 300 แต่ก็ยังให้ฟีลลิ่งการขับขี่ที่สนุกและคล่องตัว
Suspension : 9.0/10 ซับแรงกระแทกได้ดี โช้คหลังมีการยุบตัว – คืนตัวได้ค่อนข้างรวดเร็ว แถมปรับได้หมด สำหรับโช้คหน้าด้วยระยะยุบ 110 มม.ในการขับขี่ความเร็วสูง ๆ จะเห็นอาการดีดเล็กน้อย
Brake : 7/10 ระบบเบรกใช้งานได้ดีตามมาตรฐาน
Tyre : 7/10 เหมาะสมกับการใช้งานทั่วไป แต่ถ้าอยากขี่สนุกมากยิ่งขึ้น แนะนำให้หายางเกาะถนนดี ๆ มาใช้งานครับ

OVERALL : 8.5/10 ตัวรถนั้นมีการอัปเกรดใหม่ เพิ่มมิติของความสวยงาม ความสะดวกสบายในการขับขี่ เครื่องยนต์สเปกเดิม ขี่สนุก มีระบบเทคโนโลยีรองรับใช้งานครบครันค่อนข้างลงตัว ระบบกันสะเทือนอัปเกรดใหม่ ช่วงล่างใช้งานได้ดีตามมาตรฐาน

Ride or Upgrade: นอกเหนือจากดีไซน์ที่โดดเด่นสะดุดตาแล้ว โมเดลรุ่นนี้แทบไม่ต้องมีอะไรแต่งเติมมากมาย ก็ขอแนะนำสำหรับอุปกรณ์เสริมความปลอดภัย อาทิ แครช์บาร์ การ์ดแฮนด์ หรือพวกแร็คท้ายและกล่องสำหรับเก็บอุปกรณ์เพิ่มเติมในส่วนนี้ สำหรับสายซิ่งคงไม่มีอะไรพูดเยอะ ตัวรถไปต่อได้แน่นอน

สำหรับเจ้า Yamaha XMAX Tech MAX รุ่นนี้นอกจาก 7 จุดเด่นที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ฟีลลิ่งการขับขี่ในแต่ละส่วน ทั้งตัวรถปรับใหม่ ท่านั่งสบาย เครื่องยนต์ขี่สนุก ช่วงล่างใหม่ปรับแต่งได้ เทคโนโลยีรองรับการขับขี่เต็มระบบกับราคา 224,900 บาท ซึ่งถือว่าไม่แพงจนเกินไปในพิกัดนี้ กับสิ่งที่ได้เพิ่มมาถือว่าค่อนข้างคุ้ม ถ้าไม่ไปสุดสายนี้ แทบไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่มเติม สุดท้ายนี้ก็ฝากโมเดลรุ่นนี้ให้ลองพิจารณากันดู หรือไปลองทดสอบตัวจริงได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการ ยามาฮ่า สแควร์ทุกสาขาทั่วประเทศ 

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

รีวิว BMW R1300GS สมเป็นยอดทัวริ่งแอดเวนเจอร์ระดับตำนาน

รีวิว BMW R1300GS สมเป็นยอดทัวริ่งแอดเวนเจอร์ระดับ […]
รีวิว BMW R1300GS

You May Like

Subscribe US Now