รีวิว All New Honda Click160 จ่าฝูงตัวจริง
เรียกได้ว่าเป็นโมเดลสกู๊ตเตอร์ที่ร้อนแรงมาก ๆ อีกโมเดลนึง เพราะมีการปรับเปลี่ยนแบบพลิกโฉมหน้ากันไปเลย และเราก็เคยได้ทดลองขับขี่กันไปแล้วแบบพอหอมปากหอมคอ มาครั้งนี้เราได้มีโอกาส รีวิว All New Honda Click160 กันแบบเต็ม ๆ อีกครั้งนึง มาลองบนถนนจริง ๆ แล้วมันจะเป็นยังไง
โฉมใหม่หล่อใหญ่
สำหรับเรื่องรูปลักษณ์ ทางฮอนด้าเองได้มีการออกแบบแฟริ่งใหม่หมดทั้งคัน มีความกว้างบึกบึนเพิ่มขึ้นจากตัวก่อนหน้านี้เล็กน้อย มีเส้นสายที่ดูสปอร์ตมากขึ้น ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ 2 ชั้น แบบ LED ขณะที่ด้านท้ายเองก็ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้นพร้อมกับใส่โลโก้ Click สีทองโดดเด่นหรูหราพรีเมียมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว (เฉพาะรุ่น ABS) เรือนไมล์แบบดิจิทัลมองง่ายดูล้ำสมัย ตัวรถโดยรวมภายนอกที่ออกแบบมาใหม่สร้างความสะดุดตา ไม่ว่าใครก็เหลียวมอง หล่อเท่แบบจ่าฝูงไม่เหมือนใครแน่นอน
เครื่องใหม่ลื่นไหลทุกช่วง
เรื่องเครื่องยนต์อันนี้ต้องยกให้เป็นจุดเด่นของรถคันนี้เลย สำหรับเครื่องยนต์ตัวใหม่ eSP+ ขยายความจุเพิ่มซีซีให้มากขึ้นเป็น 157 ซีซี ให้ความแรงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย พร้อมกับเทคโนโลยี Piston Oil Jet หรือหัวฉีดน้ำมันเครื่องใต้ลูกสูบ ช่วยทำให้เครื่องยนต์ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ช่วยให้ตัวรถขับขี่ได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน
สำหรับฟีลลิ่งการขับขี่เจ้าจ่าฝูงคันนี้ สัมผัสได้เลยว่า ออกตัวดีกว่าเดิมเยอะ ทำได้ดีเลยทีเดียว คันเร่งเบา ถูกใจสุด ๆ ช่วงความเร็วปลาย สามารถทำได้ 120 กม./ชม. ได้สบาย ๆ ถือว่าไม่เลวเลยนะสำหรับเครื่องยนต์พิกัดนี้
นอกจากนี้ตัวรถยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Idling Stop System ที่จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นเวลาหยุดรถตามไฟแดง ช่วยได้เยอะเลย ที่สำคัญบิด ๆ เร่ง ๆ คันนี้แต่เวลาใช้งานจริงกินน้ำมัน 40 กิโลเมตร ต่อ 1 ลิตรเท่านั้น เรียกว่าถูกใจไบคเกอร์แน่แบบนี้
ช่วงล่างดียิ่งขึ้น
สำหรับช่วงล่างนั้นด้านหน้ายังคงเป็นโช้คแบบเทเลสโคปิก ขณะที่ด้านหลังก็เป็นโช้คเดี่ยวเช่นเดิม สำหรับระบบกันสะเทือนนั้นถือว่านุ่มนวล คล่องตัว รู้สึกได้ขี่ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม เพราะมียางที่ใหญ่ขึ้นให้หน้าสัมผัสมากขึ้น ทำให้เวลาเลี้ยวรู้สึกได้ว่าคล่องตัว มั่นใจ เวลาโยนโค้งยาว ๆ ยังสามารถไปได้อย่างต่อเนื่องไม่มีอาการสะบัดเกิดขึ้น ถือว่าทำการบ้านมาดี
สำหรับระบบเบรก ที่มีการอัปเกรดเพิ่มในส่วนของดิสก์เบรกหลัง และ ดิสก์เบรกหน้าที่มีการเพิ่มเทคโนโลยี ABS มาให้จากโรงงาน ในส่วนเบรกตรงนี้คือดีเลย เพราะ หลายๆคนกำลังรอสิ่งนี้อยู่ มาเพิ่มสมรรถนะให้กับรถสกู๊ตเตอร์ขนาดเล็ก
ทั้งนี้เบรกหลังไม่ต้องออกแรงกำเบรกมาก ก็เอาอยู่ แม้ว่าอาจจะต้องสร้างความคุ้นเคยสักเล็กน้อย เพราะมันนุ่มจริง ๆ กำเบรกไม่ดีอาจจะมีล้อล็อกได้ ในส่วนของเบรกหน้าก็กล้ากำเบรกมากขึ้น ทำให้ได้ระยะเบรกที่สั้นลงกว่าเดิม ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นอีกจุดเด่นของรถคันนี้ ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก
ท่านั่งบังคับเลี้ยวดี
เทคโนโลยี ก็มีมาให้ใช้
เรียกว่าเป็นฟังก์ชันสมัยใหม่ที่เดี๋ยวนี้ไม่มีถือว่าไม่โอเค สำหรับระบบสมาร์ทคีย์ ซึ่งช่วยให้ใช้งานง่ายสะดวกเพียงพกติดตัวแล้วอยู่ในระยะทำงาน ก็สามารถเปิดตัวรถ เปิดเบาะผู้ขับขี่ สะดวกสบายมากขึ้น สมเป็นสกู๊ตเตอร์ระดับแนวหน้า
ระบบ Idling Stop System เทคโนโลยีนี้จะเข้ามาช่วยให้รถคันนี้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ช่วงที่รถจอดหยุดนิ่งระบบนี้จะทำงาน สั่งเครื่องยนต์ทำรอบเดินเบา เบาจนรู้สึกว่ารถดับ ภายใน 5 วินาทีหลังรถหยุดนิ่ง ถ้าต้องการออกตัวก็สามารถบิดคันเร่งออกตัวได้เลย เครื่องยนต์จะทำงานอัตโนมัติ สามารถเปิด/ปิด ระบบนี้ได้ที่ปะกับแฮนด์ฝั่งขวา
นอกจากนี้ยังมีช่องจ่ายไฟแบบ USB-A ถูกติดตั้งอยู่ที่เกะทางด้านซ้าย สามารถชาร์จโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้สะดวกสบายอีกด้วย
สรุปทิ้งท้าย
สุดท้ายนี้ สำหรับใครที่กำลังมองหารถสกู๊ตเตอร์พิกัดเริ่มต้นขี่ง่าย ขี่สบาย ดิสก์เบรกหน้าหลังปลอดภัย กำลังเครื่องยนต์ eSP+ เหลือ ๆ ที่สำคัญในโจทย์ต้องการรถที่มีรูปลักษณ์หล่อ ๆ ไม่ควรมองข้ามรถคันนี้ คันนี้เป็นคำตอบให้คุณได้เลย
ยิ่งถ้าใครใช้เส้นทางในเมืองบ่อย ๆ แนะนำเลย นอกจากนี้ใครที่ชอบขี่แบบสปอร์ต ๆ รวดเร็วนิดนึง เร่งรีบบางเวลาคันนี้ก็ตอบโจทย์อาจจะด้วยช่วงล่างและยางขนาดใหญ่มากขึ้นมาจากโรงงาน ทำให้เวลาเข้าโค้งเร็ว ๆ ก็รู้สึกได้ว่ามั่นใจมากขึ้นสามารถเลี้ยวได้ดี ขี่สนุก ตอบโจทย์สายสปอร์ต
อย่างคันที่เราทดสอบนั้นคือ รุ่น ABS กับราคาแนะนำ 69,900 บาท และตัว STD ราคา 63,500 บาท ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่ากับตัวรถเลยล่ะ สำหรับใครที่อยากดูตัวจริงก็สามารถเข้าไปที่โชว์รูมฮอนด้าทุกสาขาทั่วประเทศไทยได้เลย รับประกันไม่มีผิดหวังคันนี้
อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก