ทดสอบ H-D Pan America 1250 สายลุยสัญชาติอเมริกัน

Admin Superbike

ทดสอบ H-D Pan America 1250 สายลุยสัญชาติอเมริกัน

ทดสอบ H-D Pan America 1250 (1)สวัสดีครับ วันนี้พวกเราทีมงาน SuperBike Thailand ได้มีโอกาสทดสอบรถ Adventure รุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง Harley Davidson นั่นก็คือ Pan America 1250 โดยทาง Harley Davidson Thailand ได้เชิญเข้าร่วมทดสอบขับขี่ในรอบสื่อมวลชน และเป็นครั้งแรกของพวกเรากับเจ้า Pan America 1250 คันนี้ สำหรับการขี่ในวันนี้จะลุยแค่ไหนเรามาดูกันเลยครับ

ในช่วงเช้าก่อนที่จะเริ่มขับขี่ทางค่ายก็ได้มีการบรีฟเกี่ยวกับตัวรถ โดยบอกว่ามีการออกแบบดีไซน์ตัวรถให้ใช้งานได้หลากหลาย และอุปกรณ์ที่ใส่เข้าไปในตัวรถไม่เพียงแค่สวยงามเท่านั้น แต่ยังต้องใช้งานจริงได้ทุกส่วนอีกด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นในการออกแบบนั้นก็ยังคงมีความเป็น Harley-Davidson อยู่
สำหรับรุ่นที่ทางทีมงานได้ทดสอบในวันนี้จะเป็นตัว Special ซึ่งเป็นรุ่นท็อบที่มีเทคโนโลยีแบบจัดหนักจัดเต็มกว่ารุ่นสแตนดาร์ด

 


เริ่มต้นที่มีระบบกันสะเทือนปรับไฟฟ้าทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยทำให้การขับขี่นุ่มนวลมากที่สุด โดยจะอาศัยขอมูลจาก IMU แบบ 6 แกนที่ติดตั้งอยู่ในตัวรถ คำนวณน้ำหนักของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และสัมภาระ ที่โหลดลงบนตัวรถ รวมถึงลักษณะอาการของรถในขณะนั้นว่าอยู่ในสถานะใด และเลือกค่ายืดยุบของตัวโช้คให้เหมาะสมกับการใช้งานให้มากที่สุด

นอกจากนี้ยังมีระบบ Adaptive Ride Height เป็นระบบที่ปรับความสูงของตัวรถโดยอัตโนมัติ การทำงานของระบบนี้ก็คือ ในขณะที่รถหยุดนิ่งโช้คจะยุบตัวลง ลดความสูงของรถทำให้ผู้ขับขี่เอาเท้ายันพื้นได้แบบสบาย ๆ และเมื่อรถออกตัวและมีความเร็วเกิน 30 กม./ชม. ขึ้นไป โช้คก็จะยืดขึ้นเพิ่มความสูงของตัวรถกลับมาตามปกติ

ยังมี
หน้าจอสีดิจิทัล TFT ขนาด 6.8 นิ้ว แบบระบบสัมผัส พร้อมเมนูภาษาไทย ที่บอกสถานะต่าง ๆ ของตัวรถแบบครบครัน รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธและสามารถแสดงแผนที่แบบเคลื่อนไหวบนหน้าจอ สามารถเลือกโหมดการขับขี่ของตัวรถที่มีทั้งหมด 5 โหมด และสามารถปรับตั้งค่าได้ที่หน้าจอแบบสัมผัสได้เลย

ในส่วนของเครื่องยนต์ Revolution Max 1250 นี้เป็นเครื่องยนต์ใหม่ของทาง Harley Davidson ที่เป็นแบบระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ต่างจากรุ่นก่อน ๆ ที่เคยทำมาแต่ยังคงความเป็นเครื่องยนต์แบบวีทวิน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทางค่าย ปริมาตรกระบอกสูบอยู่ที่ 1,252 ซีซี ให้กำลังแรงม้า 150 แรงม้าที่ 8,750 รอบ/นาที และแรงบิด 128 นิวตันเมตรที่ 6,750 รอบ/นาที


 

สำหรับการขับขี่ในวันนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงหลัก ๆ โดยจะเริ่มต้นกันที่ 747 Cafe ขี่ในเส้นทาง On Road หรือบนถนนประมาณ 20 กิโลเมตร เดินทางไปที่ Rucker Park เพื่อไปขี่ในเส้นทาง Off Road หรือเส้นทางวิบากที่ทางทีมงานได้จัดเตรียมใว้ให้ ระหว่างทางก็ได้มีการลองสมรรถนะของรถ เวลาตกหลุมหรือผ่านช่วงคอสะพาน โช้คอัพซับแรงได้ดีมาก แทบจะไม่รู้สึกเลยว่ารถสะเทือน และที่สำคัญ Pan America 1250 คันนี้ แรงมาก ๆ

เมื่อมาถึง Rucker Park แล้วก็มีการเรียนรู้เกี่ยวกับการขี่รถในทาง Off Road นิดหน่อย โดยมีครูอิฐเป็นผู้ให้คำแนะนำการขับขี่ในทาง Off Road เบื่องต้นและคำแนะนำในการขี่ในวันนี้ว่าจะต้องเจอกับทางแบบไหนบ้าง

ถึงเวลาลงสนามจริงแล้ว !! ในด่านที่ 1 ก็จะเป็นการขี่สลาลอมบนทางลูกรัง เพื่อให้เราได้คุ้นชินกับตัวรถมากขึ้น ซึ่งคิดว่าถ้าใครได้ลองขี่เจ้าคันนี้แล้วคงใช้เวลาปรับตัวไม่นาน เพราะตัวรถค่อนข้างขี่ง่าย พลิกเลี้ยวได้ง่าย เพราะรถถูกออกแบบมาให้จุดศูนย์ถ่วงอยู่ต่ำจึงทำให้ผู้ขับขี่ควมคุมรถได้อย่างง่ายดาย ไม่รู้สึกว่าน้ำหนักตัวรถเป็นปัญหา
เมื่อเราทำความคุ้นชินกับตัวรถมากขึ้นแล้ว ในด่านที่ 2 ก็จะเป็นการทดสอบระบบเบรก ABS ตัวรถ โดยการกำเบรกหน้าและกำคลัตช์ 100% บนทางลูกรัง จากที่ได้ลองแล้วรถไม่มีอาการล้อล็อกแม่แต่นิดเดียวเลย และใช้ระยะเบรกที่สั้น เพราะว่าตัวรถมีระบบกระจายแรงเบรกให้เท่ากันทั้งล้อหน้าและล้อหลังถึงแม้ว่าเราจะใช้แค่เบรกหน้าอย่างเดียวก็ตาม  ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ว่าระบบเบรกนั้นดีปลอดภัยห่ายห่วงแน่นอน

ด่านที่ 3 ขึ้นเนินลงเนิน ในด่านนี้ก็จะเป็นการทดสอบระบบ Hill Hold Control หรือระบบช่วยหยุดรถบนทางลาดชัน ซึ่งด่านนี้จะจำลองสถานการณ์ที่เราต้องหยุดรถบนทางลาดชัน โดยระบบนี้จะช่วยเบรกรถบนเนินหรือทางลาดชัน ทำให้ง่ายต่อการออกตัวเพียงแค่ค่อย ๆ ปล่อยคลัตช์แล้วเติมคันแร่งเท่านั้นเราไม่ต้องกังวลว่าจะต้องคอยกำเบรกหรือกลัวว่ารถจะไหลลงเนินเลย โดยระบบนี้จะทำงานประมาณช่วยเบรกรถให้เองอีก 15 วินาที

หลังจากที่ได้ทดสอบระบบต่าง ๆ ของตัวรถกันไปแล้ว ก็ได้มีการขับขี่กันแบบลุย ๆ สักหน่อยให้ได้ตื่นเต้นกันพอหอมปากหอมคอ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ขึ้นเนิน ลงเนิน ลุยน้ำ ลุยโคลน ซึ่งเจ้าคันนี้ก็สามารถพาเราผ่านทุกเส้นทาง ทุกอุปสรรค ไปแบบง่าย ๆ เพราะตัวรถมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มาให้พร้อมใช้ในทุกสถานการณ์จริง ๆ

เมื่อลุยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เดินทางกลับกันมาที่ 747 Cafe อีกครั้ง และในการขี่ในวันนี้ ทาง Harley-Davidson ก็ได้มีการมอบใบ Certificate ว่าเราได้ผ่านการทดสอบขับขี่ของ Pan America Adventure Camp ให้อีกด้วย
และสุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณทีมงาน Harley-Davidson Thailand อีกครั้งที่ให้พวกเราได้มีโอกาส ทดสอบ H-D Pan America 1250 และสัมผัสประสบการณ์ในการขับขี่ในเส้นทาง Off Road มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ และขอบคุณทาง Nolan Thailand ที่สนับสนุนหมวกกันน็อกที่ใส่ในการขี่ทดสอบครั้งนี้ด้วยครับ ในครั้งหน้าจะมีการทดสอบรถรุ่นไหน รุ่นอะไร ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Next Post

เปิดตัว Yamaha YZF-R7 ในไทย พร้อมราคา 339,000 บาท

เปิดตัว Yamaha YZF-R7 ในไทย พร้อมราคา 339,000 บาท […]

You May Like

Subscribe US Now

Exit mobile version