แอดเวนเจอร์ เอ็นดูโร่ ดูอัลสปอร์ต ซูเปอร์โมโต มันต่างกันยังไง?
แน่นอนว่าบทความครั้งนี้เขียนขึ้นมาเนื่องจากความบังเอิญที่ว่าไปได้ยินเรื่องๆ นึงเกี่ยวกับรถคันนึงซึ่งกำลังเป็นกระแสไปทั่วในตอนนี้ ซึ่งก็คือเจ้า Yamaha Tenere 700 ที่ออกมาหล่อเหลาได้ฟีลลิ่งรถแข่งดาการ์แรลลี่ (ก็แหงสิครับ เขาออกแบบมาแบบนั้น) ซึ่งทางค่ายก็บอกว่ามันเป็นแอดเวนเจอร์ไบค์ แต่ภาพที่ออกมาตามโซเชียลมีเดียบ้านเรานั้น โดดเนินกันลอยสูงอย่างกับรถโมโตครอส ในใจผมเองยังเป็นห่วงเลยขี่แบบนี้ไม่นานเข้าศูนย์แหงๆ ใช้กันเกินกำลังกันเหลือเกิน อยากโดดเนินขนาดนั้นไปซื้อรุ่นอื่นเถอะครับ สงสารรถ
เอ้า แล้วมันโดดเนินไม่ได้เหรอ รถแอดเวนเจอร์ไม่ใช่เหรอ ก็ต้องลุยได้สิ ต้องไปได้สิ ถ้าคิดแบบนี้แสดงว่าคุณอาจจะเข้าใจอะไรบางอย่างผิด และวันนี้ผมจะมาชี้แจงกันครับว่า รถลุยๆ ทั้งหลายแต่ละประเภทเนี่ยมันแตกต่างกันยังไง อันไหนเป็นอย่างไรให้ดูกันไปทีละประเภทกันไปครับ
แอดเวนเจอร์ไบค์
แอดเวนเจอร์ไบค์คือรถทัวริ่งที่สามารถจะกระโจนลงไปในทางฝุ่นได้ในระยะทางสั้นๆ ไม่จริงจังมาก ซึ่งหากจะต้องการเดินทางแบบออฟโร้ดเป็นระยะทางไกลๆ รถในสไตล์เอ็นดูโร่จะเหมาะสมกว่า เพราะรถเอ็นดูโร่นั้นจะมีชิ้นส่วนที่ทนทานและยางเป็นบั้งเป็นหนามที่เหมาะสมกับการขับขี่แบบออฟโร้ดมากกว่าครับ ส่วนแอดเวนเจอร์ไบค์นั้นจะมียางที่มีเหมาะกับการขี่ถนนหรือทางดำมากกว่า โช้คอัพที่นุ่มนวลมากกว่า และเครื่องยนต์จะมีพละกำลังที่เหมาะกับการขี่ทางไกลๆ บนท้องถนนได้สบายกว่ามาก ใครชอบลุย แต่ก็ชอบออกทริปทางไกลบนทางดำ แอดเวนเจอร์ ดูจะเหมาะกับคุณมาก
จุดเด่น: ดูเท่ และขับขี่ทางไกลได้สบายกว่ามาก
จุดด้อย: น้ำหนักมาก บางรุ่นบางขนาดอาจเทอะทะ ยากต่อการควบคุม
ดูอัลสปอร์ตหรือรถสองประสงค์
ดูอัลสปอร์ตไบค์หรือรถสองประสงค์นั้น ก็ตามชื่อเลยครับ ใช้ได้สองแนวทาง ทั้งทางเรียบและทางวิบาก ขี่ถนนได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ขณะเดียวกันก็ขับขี่บนเส้นทางขรุขระ ทางวิบาก ทางฝุ่นได้ได้ไม่เขอะเขิน เพราะตัวรถมีระยะห่างจากตัวรถถึงพื้นมาก ข้ามผ่านอุปสรรคได้ดี ระยะยุบโช้คก็มีให้มากเช่นกัน ส่วนมากมักมากับเครื่องยนต์แบบสูบเดียว ซึ่งจะให้ลักษณะคาแรกเตอร์ของกำลังแรงบิดที่เหมาะกับการขับขี่แบบออฟโร้ด
จุดเด่น: ขับขี่ได้ทุกเส้นทาง
จุดด้อย: นั่งขับขี่ได้ไม่ค่อยสบายนัก บางรุ่นอาจมีพละกำลังน้อย และไม่ค่อยหล่อสำหรับหลายๆ คน
เอ็นดูโร่
เอ็นดูโร่ไบค์และดูอัลสปอร์ตหรือรถสองประสงค์นั้นมีสายเลือดเดียวกัน มีความคล้ายคลึงกันมาก เพียงแต่ว่ารถเอ็นดูโร่นั้นจะเหมาะกับการขับขี่ออฟโร้ดทางไกลหรือเป็นระยะเวลานานมากกว่า เหมาะกับการไต่ทางชัน เนิน หรืออาจจะเป็นภูเขา นอกจากนี้ยังมีถังน้ำมันที่มีขนาดใหญ่กว่า ชิ้นส่วนที่แข็งแรงทนทานกว่า และมีอุปกรณ์เพิ่มเติมที่ติดตั้งเข้ามาเพื่อปป้องกันตัวรถจากความเสียหายและสึกหรอ ถ้าคุณเป็นสายเข้าป่า ขับฝ่าดงหิน ตะลุยทะเลทราย เอ็นดูโร่ไบค์นั้นเหมาะสำหรับคุณ
จุดเด่น: ทนทานและมีถังน้ำมันที่ใหญ่
จุดด้อย: บางรุ่นอาจจะจดทะเบียนไม่ได้ ขี่บนทางดำด้วยความเร็วสูงๆ ไม่ได้
สแครมเบลอร์
ย้อนกลับไปในยุค 60 สแครมเบลอร์เป็นแนวทางหลักๆ เลยสำหรับการโมดิฟายรถธรรมดาๆ ให้สามารถลุยทางฝุ่นได้ แต่ในระยะหลังๆ มานี้ สแครมเบลอร์ได้กลับมาและมีบทบาทสำคัญในการสร้างกระแสวินเทจให้กลับมาครองตลาดอีกครั้ง โดยรถสแครมเบลอร์สมัยใหม่จะมีกลิ่นอายของรถเรโทรด้วยการมีเบาะนั่งแบนราบ แฮนด์บาร์แบบมีค้ำ (Brace handbar) ยางหนาม โช้คหลังคู่ และท่อแบบติดตั้งไว้สูง
จุดเด่น: หล่อด้วยภาพลักษณ์สไตล์เรโทร ขี่ทางดำดี ทางฝุ่นก็พอไหว
จุดด้อย: ขี่ลุยทางออฟโร้ดได้บ้าง แต่ก็ไม่มากเท่ากับรถสองประสงค์หรือเอ็นดูโร่
ซูเปอร์โมโต
แค่ดูด้วยตาเปล่าคุณก็จะเห็นความแตกต่างแล้ว รถซูเปอร์โมโตนั้นมีลักษณะภายนอกที่แตกต่างจากรถอื่นๆ ชัดเจน โดยเฉพาะในส่วนของล้อและยาง มันเหมาะกับการขี่ถนนหรือทางดำมากกว่า เพราะล้อที่มีขนาดเล็กและหน้ายางที่กว้างกว่า เพื่อให้สามารถเข้าโค้งแคบๆ ได้ดีและได้เร็ว นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ที่ช่วยให้ขี่ได้เร็วและเบรกที่มีขนาดใหญ่กว่าเพื่อให้พลังเบรกที่เหมาะสมกับความเร็ว แต่ก็มีท่านั่งหลังตรงเหมือนกับรถสองประสงค์ อย่างไรก็ดีมันมีระบบกันสะเทือนที่แข็งกว่า และส่วนใหญ่ก็มักจะมีเครื่องยนต์แบบสูบเดียว แต่ 2 สูบก็มีนะ Ducati ไง
จุดเด่น: การควบคุมดี ขี่ความเร็วสูงๆ ได้ดี
จุดด้อย: ขี่ออฟโร้ดได้ไม่ดีนัก
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก