รีวิว Triumph Tiger Sport 660 สปอร์ตทัวริ่งไซส์กลางสุดจี๊ด

Admin Superbike

รีวิว Triumph Tiger Sport 660 สปอร์ตทัวริ่งไซส์กลางสุดจี๊ด

ล่าสุดเราก็ได้มีโอกาสไปขับขี่ทดสอบ รีวิว Triumph Tiger Sport 660 2022 กับทางไทรอัมพ์ ประเทศไทย ในรอบสื่อมวลชน โดยจะเป็นการขับขี่ทดสอบในแบบเส้นทางจริง ถนนจริง เพื่อจำลองการใช้งานจริง ๆ โดยเส้นทางจะเป็นการเดินทางจากกรุงเทพ – เขาใหญ่ แต่ไม่ได้ไปตรง ๆ มีอ้อมไปทางอื่นอยู่ โดยรวมแล้วกินระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ซึ่งจากการทดลองขับขี่ก็พบว่ามันจี๊ดอยู่ในใจไม่น้อยเลยล่ะครับ

เท่สไตล์สปอร์ต

รีวิว Triumph Tiger Sport 660

สำหรับเจ้าเสือสายเที่ยวคันนี้มีดีไซน์ที่ออกมาได้ ดูไม่เทอะทะ ดูเล็ก เบา กะทัดรัด ถ้าเป็นในกลุ่มทัวริ่งก็ถือว่าคันนี้คือรถ ทัวริ่งขนาดกลาง ที่มีการออกแบบดูเพรียว สวย และดูสปอร์ตไปในตัว ชิลด์หน้าสามารถปรับความสูงได้ง่าย ดึงขึ้นลงได้เลยกลไกไม่ซับซ้อน แฟริ่งหน้าสวยงามดูเหมือนรถสปอร์ตมาพร้อมไฟหน้าคู่ แบบ LED สว่างดูสวยเด่นชัด

รีวิว Triumph Tiger Sport 660

มาต่อกันที่แฮนด์บาร์ที่มาพร้อมกับการ์ดกันกระแทกมาจากโรงงาน เรือนไมล์แบบ TFT ปรับความสว่างได้ พร้อมกับบอกสถานะต่าง ๆ ของตัวรถทั้งหมดผ่านตรงนี้ เช่น รอบเครื่องยนต์ ความเร็ว ไฟเตือน การปรับตั้งค่า และก็เมนู Riding Mode ปรับการแสดงผลทั้งหมดใช้งานง่ายผ่านปุ่มที่ปะกับฝั่งซ้ายได้เลย 

จี๊ดจ๊าดผิดคาด

รีวิว Triumph Tiger Sport 660

พื้นฐานเครื่องยนต์คันนี้เป็นพื้นฐานเดียวกับเครื่องยนต์ตัว Trident  660 แต่จะมีฟิลลิ่งที่แตกต่างกันออกไปครับ สำหรับเครื่องยนต์ตัวนี้จะเป็นเครื่องสามสูบเรียง 660 ซีซีที่เคลมกำลังมาที่ 81 แรงม้าที่ 10,250 รอบต่อนาที และทางโรงงานยังเคลมว่าเป็นรถที่มีแรงม้าสูงสุดในพิกัดเดียวกันอีกด้วย ส่วนกำลังแรงบิดนั้นจะอยู่ที่ 64 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบต่อนาที 

รีวิว Triumph Tiger Sport 660

ส่วนระบบส่งกำลังมาพร้อมกับเกียร์ 6 สปีด พร้อมเทคโนโลยี Slip & Assist ทำงานเหมือนสลิปเปอร์คลัตซ์ ช่วยในการลดแรงกระชากเวลาเชนเกียร์ลง ไม่ให้รถเสียอาการ สำหรับในส่วนท่อไอเสียที่มีการดีไซน์ปลายท่อแบบ 3 ออก 1 อยู่กลางลำตัวรถให้ศูนย์ถ่วงต่ำเพื่อบาลานซ์ที่ดีเวลาขับขี่ และที่สำคัญเสียงท่อไอเสียและเครื่องยนต์ฟังแล้ว ดุดันเหมือนรถสปอร์ตเลย 

ช่วงล่างไม่ธรรมดา

รีวิว Triumph Tiger Sport 660 รีวิว Triumph Tiger Sport 660

สำหรับช่วงล่างบอกเลยว่าไม่ธรรมดา เริ่มที่โช้คอัพหน้าก่อนเลย พรีเมี่ยมแบรนด์จาก Showa ที่ให้มาเป็นแบบอัปไซด์ดาวน์ มีแกนเส้นผ่าศูนย์กลาง อยู่ที่ 41 มิลลิเมตร มีระยะยืดยุบอยู่ที่ 150 มิลลิเมตร ในส่วนของโช้คอัพหลังจะเป็นโช้คเดี่ยวจาก Showa เช่นกัน มีระยะยืดยุบเท่ากันกับช่วงยุบหน้า 150 มิลลิเมตร แต่ยังมีลูกเล่นเป็นตัวปรับรีโมทสามารถปรับค่าพรีโหลดแข็งอ่อนของสปริงได้ง่าย สะดวก ไม่ยุ่งยาก

เข้ามาดูอีกส่วนสำคัญคือระบบเบรก คาลิเปอร์เบรกแบบ 2 ลูกสูบจาก Nissin กับดิสก์เบรกคู่ขนาด 310 ม.ม. ขณะที่ด้านหลังจะเป็นคาลิปเปอร์สูบเดี่ยวจับกับจานเบรกขนาด 255 มิลลิเมตร เสริมระบบความปลอดภัย ABS ทั้งหน้าและหลัง เบรกได้ระยะดีกว่า มั่นใจกว่า และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือล้ออลูมิเนียมขนาด 17 นิ้วแบบ 5 ก้าน ดูสปอร์ตสวยลงตัวมาพร้อมกับยางขนาด 120/70 และ 180/55 ตามลำดับ เรียกว่าให้หน้ายางมาใหญ่ เลี้ยวโค้งได้มั่นใจทั้งยังได้ฟีลลิ่งสปอร์ตจากส่วนนี้อีกด้วย 

เทคโนโลยีมีพอตัว

สำหรับเรื่องของเทคโนโลยี โมเดลนี้ก็มีให้พอสมควร เริ่มกันที่ส่วนของ Riding Mode ที่ให้มา 2 โหมด คือ Road และ Rain สามารถปรับได้ ตรงนี้จะทำการงานร่วมกันกับระบบคันเร่งไฟฟ้า สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ต่อด้วยระบบแทร็คชันคอนโทรล ซึ่งก็คือระบบป้องกันล้อหน้า-หลัง หมุนไม่เท่ากัน เอาง่าย ๆ ช่วยป้องกันอุบัติเหตุเวลาถนนลื่น ช่วยรักษาสมดุลตัวรถ ผู้ขับขี่สามารถเปิด ปิด ได้ตามใจชอบ และในส่วนของหน้าจอเองก็จะเป็นหน้าสี TFT ที่สามารถปรับการแสดงผลและความสว่างได้ นอกจากนี้ยังมี เลขบอกเกียร์ ไฟเตือนเปลี่ยนเกียร์หรือชิฟต์ไลท์ รวมไปข้อมูลต่าง ๆ แทบทุกอย่างจะถูกแสดงผลผ่านหน้าจอทั้งหมด 

ขี่ง่ายนั่งสบาย

ขึ้นชื่อว่ารถทัวริ่ง หากออกแบบมาดี ทำให้ขับขี่ได้ง่ายขี่ได้สบาย การเดินทางไกลก็จะไม่ใช่ปัญหา สำหรับคันนี้ท่านั่งถือว่าผ่านเลยละ สำหรับการใช้งานในเมืองช่วงที่ต้องซอกแซก แซง หรือมุดตัวรถก็สามารถผ่านได้ดี แต่อาจจะต้องใช้ความเคยชินเล็กน้อย ส่วนตัวจากที่ลองแฮนด์บาร์ผ่านได้ กะระยะดี ๆ ก็ไม่มีปัญหา

รีวิว Triumph Tiger Sport 660

ตำแหน่งการวางเท้า ไม่ตึงไม่หย่อนจนเกินไป ไม่รู้สึกเมื่อย เดินทางสัก 100 – 150 กิโลเมตร พักสักทีก็กำลังดี โดยรวมถือว่าออกแบบตำแหน่ง ท่านั่งขับขี่ ออกมาได้ดีเลย และความสูงของตัวรถที่ไม่สูงมาก เทียบกับคนไทยสูงสัก 160 – 165 เซนติเมตร ถือว่าสามารถขับขี่ได้ง่าย ๆ เลย ด้วยมิติตัวรถที่เล็ก น้ำหนักเบา จะทำให้รู้สึกมั่นใจขึ้นในการที่เราต้องทรงตัว หรือเอาเท้ายันยืนถึง ตรงนี้ถือว่าตอบโจทย์คนบ้านเราเลย 

มาดูกันที่เบาะผู้ขับขี่มีการเลือกใช้แบบเบาะตอนเดียว 2 ระดับ ออกแบบมาให้ท่านั่งกระชับ ยังคงความหนานุ่มของตัวเบาะอยู่เช่นเดิม คอนเฟิร์มตรงนี้เลย สองร้อยโล นั่งสบาย สำหรับทริปนี้ ขับขี่จาก กทม แก่งคอย เขาใหญ่ ถือว่าผ่านเลยละ สำหรับการเดินทางออกทริป 

พุ่ง ๆ นุ่ม ๆ 

สำหรับฟีลลิ่งในครั้ง เป็นฟีลลิ่งในการเดินทางออกทริปในระยะปานกลาง สั้นๆ ระยะ จากโรงแรมรามาการ์เดนท์ วิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าสู่ เขาใหญ่ โดยจะใช้เส้นทางจากวิภาวดี สระบุรี แก่งคอย กังหันลมเขายายเที่ยง เขาใหญ่ เส้นทางก็ราวๆประมาณ เกือบ ๆ สองร้อยกิโลเมตรได้ ถือว่า รีวิว Tiger sport 660 คันนี้ได้พอสมควร 

สำหรับคันนี้ถือว่าเป็นรถสไตล์ทัวริ่งหัวใจสปอร์ต ท่านั่งการขับขี่สบาย มีแฟริ่งและชิลด์บังลม ขี่ทางไกลความเร็วสูง ๆ ไม่เหนื่อย ใช้งานเดินทางได้ หรือจะขับขี่ใช้งานในเมืองก็สะดวก ช่วงที่รถติดการคอนโทรลตัวรถทำได้ง่าย เท้ายันพื้นได้ อีกทั้งตัวรถมีน้ำหนักที่เบา ภาระจากตัวรถเลยน้อยไปด้วย จะมีเพียงแค่การสร้างความเคยชินกันระยะการ์ดแฮนด์ แค่นี้ก็คล่องตัวขึ้นกว่าเดิมแน่นอน 

ในส่วนของเครื่องยนต์รู้สึกได้เลยว่าเป็นเครื่องยนต์ที่มีกำลังเหลือใช้ รอบต้น กลาง ตามสไตล์รถ 3 สูบ มาเต็ม มาแรง ออกตัว เร่งแซงมั่นใจ ยิ่งเป็นคันเร่งไฟฟ้า ทำให้คันเร่งเบา ขี่ง่าย พุ่ง ๆ วัยรุ่นสายซิ่งจะชอบ จะบอกว่าเครื่องยนต์ตัวนี้ความเร็วปลายก็ไม่ธรรมดา สามารถทำความเร็วทะลุ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้อย่างสบาย ๆ เอาเป็นว่าเครื่องตัวนี้พละกำลังไม่ธรรมดา จะขึ้นเนิน จะบรรทุก ก็เอาอยู่หายห่วง 

จับฟีลช่วงล่างกันบ้าง ส่วนตัวรู้สึกนุ่มนวล แต่จะมีช่วงถนนที่มีโค้งเยอะ ๆ ช่วงถนนน้ำตกเจ็ดสาวน้อย เส้นทางจะมีโค้งเยอะเลยปรับพรีโหลดหลังเพิ่มนิดหน่อย รู้สึกเฟิร์มมากขึ้นในช่วงความเร็วสูง ๆ แต่ถ้าให้ชอบฟีลนุ่มนวล ใช้งานในชีวิตประจำวัน ก็ปรับอ่อนลงมาหน่อย ก็จะได้ฟีลอีกแบบ ตัวรถยังมีองค์ประกอบอื่น ทั้งล้อ ยาง เบรก รู้สึกได้ว่าเป็นตัวช่วยให้รถขี่ง่ายขึ้น เลี้ยวได้ดี เบรกได้เนียน รู้สึกปลอดภัย มั่นใจในการขับขี่ได้มากกว่าเดิม 

สรุป

โดยรวมแล้วถือว่าเป็นทัวริ่งพิกัดกลางที่ออกแบบพัฒนา ออกมาตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการเดินทางแต่ยังคงคอนเซปต์ความแรงในตัวเอง ต้องได้ลองคันนี้ ที่มาพร้อมกับความคุ้มค่า คุ้มราคา กับราคา 359,000 บาท ของที่ให้มา ความแรงจากเครื่องยนต์ ความนุ่มนวลของช่วงล่าง เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ถูกติดตั้งลงไป บอกเลยว่าต้องไปลอง แล้วจะร้องว่าถูกใจแน่นอน การันตี..

อ่านข่าวอื่นๆ คลิกที่นี่

รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก

Next Post

Honda DAX125 2022 มินิไบค์สไตล์เรโทรเผยโฉมแล้ววันนี้

Honda DAX125 2022 มินิไบค์สไตล์เรโทรเผยโฉมแล้ววันน […]
Honda DAX125 2022

You May Like

Subscribe US Now