รีวิว CBR150R 2021 ในสนาม กับน้องเล็กสายสปอร์ต ปรับใหม่พร้อมซิ่ง!!
ก่อนหน้านี้เราได้มีโอกาสทดสอบ รีวิว CBR150R 2021 คันนี้ไปกันแล้ว แต่เป็นในเวอร์ชั่นใช้งานทั่ว ๆ ไป ขี่ถนน ใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน แต่สำหรับครั้งนี้จะพิเศษหน่อยเพราะทาง Thai Honda ปิดสนามช้างฯ ให้ทดสอบกันแบบเต็มระบบ เต็มสมรรถนะเลย ซึ่งจะเป็นโอกาสพิเศษมาก ๆ แบบว่า “นานทีปีหน” ที่เราจะได้ขี่รถ 150 ซีซี ในสนามระดับโลกแบบนี้ จะเป็นยังไง ลองอ่านได้เลยครับ!!
ดีไซน์พร้อมซิ่ง
สำหรับในโมเดลใหม่นี้จะมีแฟริ่งที่ได้รับการออกแบบดีไซน์มาใหม่หมดเลยทั้งคัน มีมิติตัวรถที่กว้างขึ้นมากกว่าตัวโฉมก่อนหน้านี้ แฟริ่งใหม่จะมีเส้นสายดีไซน์ที่ออกแบบมาตามหลักแอโรไดนามิกหรืออากาศพลศาสตร์ ช่วยลดแรงลมปะทะซึ่งก็จะมีประโยชน์เวลาขับขี่ทำความเร็วนั่นเอง อีกทั้งฐานล้อก็ยาวขึ้นช่วยให้ขับขี่ได้นิ่งเสถียรมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ก็จะมีไฟหน้าใหม่ ไฟท้ายก็ใหม่ เอาจริง ๆ ผมว่าหน้าตารูปร่างคล้ายกันกับรุ่นพี่อย่างเจ้า CBR250RR ละยิ่งเห็นใกล้ ๆ กันก็บอกว่า ใช่เลย ถอด DNA ตามกันมาเลย โดยผมคิดว่ามันหล่อขึ้นกว่าเดิม 100%
ท่านั่งและการขับขี่
มาพูดถึงฟีลลิ่งตรงนี้กันบ้าง เพราะคงจะไม่ใช่หลังตรงแน่ ๆ อยู่ในสนามยังไงก็ต้องหมอบ ท่านั่งมีการปรับมาใหม่ เวลาที่ขับในสนาม รู้สึกได้เลยว่า ตัวถังและระยะของแฮนด์จับโช้คปรับเข้ามาหาตัวผู้ขับขี่มากขึ้น ตัวเบาะเองก็ปรับองศามาให้เข้ากัน โดยมีท่านั่งที่สปอร์ตมากขึ้น
เวลาขับขี่ช่วงที่เลี้ยวเข้าโค้งความเร็วสูง ๆ เวลาจะโหนตัวรถก็ถือว่าทำได้ดี ขี่ได้ง่าย สมู้ทและก็สนุกไปกับตัวรถได้ไม่ยาก ถือว่าขี่สนามได้ดี แม้ว่าจะไม่ได้มีกำลังมากมายในแบบรุ่นพี่ก็ตาม
เครื่องปรับใหม่แรงบิดดีขึ้น 5%
สำหรับเครื่องยนต์ยังคงเป็นเครื่องยนต์ในพิกัด 150 ซีซีแบบสูบเดียวระบายความร้อนด้วยน้ำ เกียร์ 6 สปีด แต่ครั้งนี้มาพร้อมเทคโนโลยีแอสซิสต์และสลิปเปอร์คลัตช์ และมีการปรับท่อเดินอากาศไอดีใหม่ ช่วยให้แรงบิดดีขึ้น แรงคนบิดก็ดีตามไปด้วย เพราะต้องบอกเลยว่าซัดกันจนเครื่องแทบแตก 555+ ในบรรดาพี่ ๆ เพื่อน ๆ สื่อมวลชน บิดกันหมดปลอก ไม่ยก ไม่เบรกกันเลย ทางตรงสนามช้าง กดกันจนรอบตัด ทำท็อปสปีดได้ราว ๆ 129-133 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ผมบอกเลยว่าเครื่องตัวนี้ให้กำลังช่วงรอบต้น-กลาง ดีขึ้น และไหลสมู้ท ๆ จนถึงรอบปลาย แต่ที่รู้สึกได้ชัดเลยคือ คลัตช์เบามือลงมากและนุ่มขึ้นกว่าเดิม ทางโรงงานบอกว่ารุ่นนี้ปรับมาให้นุ่มและขี่ง่ายขึ้น และช่วงที่เชนเกียร์ในโค้ง 12 ตัวสลิปเปอร์คลัตช์ทำงานได้ดี ช่วยลดแรงกระชากจากเครื่องลงสู่ล้อ ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากขึ้นไม่สะบัด สไลด์
สรุปสำหรับส่วนนี้ผมคิดว่าออกแบบมาให้ขี่ง่าย ขี่สนุก ถึกทน (เสริมให้เลย เพราะพวกเราขี่เค้นในสนามทั้งวัน รอบจัด ๆ ยังไม่พัง) สำหรับมือใหม่ใช้สบาย ๆ เลยครับ
ช่วงล่างปรับใหม่
ทดสอบในสนามรู้สึกได้แบบชัดเจนเลย ว่าโช้คหน้าให้ฟีลลิ่งที่ดีขึ้น ซับแรงได้มากและเนียนขึ้นกว่าเดิม ตัวโช้คหัวกลับมีแกนขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 37 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นของจาก Showa ซึ่งปรับลูกสูบด้านในใหม่ให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งโรงงานเคลมตัวเลขมาว่าดีกว่าเดิม 3.5 เท่า จากการทดสอบอันนี้รู้สึกได้ว่าจริง ไม่ได้โม้ ช่วงที่ลองเบรกหนัก ๆ ทั้งตัวรถ ความเร็ว น้ำหนักคนขี่ไหลลงไปอยู่ที่ช่วงหน้าทั้งหมด ยังไม่ยันเลย ยังสามารถกดลงไปได้อีก และยังคงให้ความนุ่มนวล ส่วนในช่วงของความเร็วสูง ๆ อย่างโค้งไฮสปีดในสนาม ตัวโช้คก็ทำงานไม่ต่างจากรถบิ๊กไบค์เลย โค้งเดียวกัน ไลน์เดียวกัน เข้าได้ตามกันสบาย ๆ ถือว่าการปรับโช้คตัวนี้มา กำไรอยู่กับผู้ใช้ล้วน ๆ
สรุปเลยแล้วกัน..!!
หลังจากที่ได้ทดสอบกันแบบเต็ม ๆ 1 วัน ในสนามช้างฯ ผมบอกเลยว่าการ รีวิว CBR150R 2021 ในสนาม เวอร์ชัน All New คันนี้ให้ฟีลลิ่งการขับขี่มีความคล่องตัวมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งช่วงล่าง เบรก เครื่องยนต์ และยังปรับโฉมหน้าตาแฟริ่งใหม่ให้ดูซิ่งมากขึ้นกว่าเดิม เด่น หล่อแบบชัดเจน
ใครที่กำลังมองหารถสปอร์ตไบค์ตัวเริ่มต้นที่ ขี่ง่าย คอนโทรลง่าย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกอันดับต้น ๆ เลยสำหรับคันนี้ ถ้าใครสนใจสามารถไปสอบถามที่ Honda Wing Center ได้ทุกสาขาทั่วประเทศไทย โดยเปิดราคาแนะนำที่ 92,900 บาทสำหรับตัวธรรมดา และราคาแนะนำที่ 99,900 บาทสำหรับตัว ABS สุดท้ายนี้ เข้าฤดูหนาวแล้วขับขี่ไปเที่ยวที่ไหนก็ขอให้ปลอดภัยนะครับ…
Special Thank
ขอขอบพระคุณ X-Lite Thailand สำหรับหมวกสวย ๆ X-803 RS
อ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับ Honda คลิก
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก