ยักษ์เขียว 1500 แรงม้า ของลุงผู้คลั่งในความเร็ว
เรียกว่าเป็นข่าวดีของวงการ Top Fuel Motorcycle หรือวงการแดร็กเรซซิ่ง รวมไปถึงแฟน ๆ ของ Jimmy Brantley หรือเดอะฮัลค์ ซึ่งใกล้จะกลับมาทุบสถิติแดร็กเรซซิ่งอีกครั้งแล้วด้วยเจ้า ยักษ์เขียว 1500 แรงม้า หลังจากแขวนหมวกหายไปจากวงการแข่งนานถึง 15 ปี
ซุ่มทำรถกันนานนับปีสำหรับลุงวัย 67 อดีตนักแข่งท็อปฟิวมอเตอร์ไซเคิลหลังบอกกับทีมงานทำรถสั้น ๆ ว่าได้เวลากลับมาหาความสนุกแล้วว่ะพวก และล่าสุดไม่กี่วันมานี้ทางทีมงานสร้างรถก็เริ่มทดสอบขับขี่ในสนามแดร็กจริง ๆ กันแล้วครับ ไปลองดูคลิปกันได้ว่าแรงขนาดไหน
พูดมาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้จักคำว่า ท็อปฟิวมอเตอร์ไซเคิล ผมก็ขออธิบายไว้ตรงนี้ก่อนว่ามันคือการแข่งแดร็กประเภทนึงที่เปิดโอกาสให้ทำรถกันแบบสุดติ่งกระดิ่งแมว ยัดได้ทั้งซูเปอร์ชาร์จ เทอร์โบ และถึงกับใช้ไนโตรมีเทน (ใช้แทนน้ำมันปกติ) ทั้งนี้สามารถทำเครื่องอย่างน้อย 3 สูบและทำได้ใหญ่ถึง 3,278 ซีซี หรือถ้ามีระบบเทอร์โบหรือซูเปอร์ชาร์จจะสามารถทำได้ไม่เกิน 1,700 ซีซี ซึ่งรับรองได้เลยว่าแรงมากจริง ๆ สำหรับรถที่ลงแข่งในคลาสนี้
ย้อนกลับไปช่วงปี 2000-2007 ปีที่ Brantley ยังลงแข่งอยู่เขาทำผลงานในการแข่งขันประเภทนี้ไว้ได้น่าจดจำมากเมื่อเทียบกับจำนวนปีที่ลงแข่งขัน ขณะที่ตำนานและเจ้าของสถิติโลกอีกคนอย่าง Larry McBride ฉายาสไปเดอร์แมน ลงวิ่งต่อเนื่องเกินกว่า 40 ปี โดยเดอะฮัลค์หรือ Brantley นั้นเป็นคนที่สองในวงการที่ลงแข่งและสามารถทำสถิติเวลาอยู่ในโซน 5 วินาทีได้ โดยเคยทำสถิติไว้ที่ 5.8 วินาทีกับท็อปสปีด 385.6 กม./ชม.
ก่อนที่เขาจะมาระเบิดฝีไม้ลายมือกันที่พิกัดใหญ่ เขาเคยลงแข่งในรายการระดับชาติกับ Suzuki Hayabusa ในปี 2000 ที่สนาม Gainesville Raceway ในการแข่ง AMA Prostar มาแล้ว และก็ได้ตัดสินใจกระโดดลงมาแข่งในรุ่นสุดระห่ำนี้ทันที ซึ่งไม่มีนักแข่งที่ไหนเขาทำกัน ซึ่งเจ้าเหยี่ยวคันนั้นต่อให้แรงแค่ไหนก็ไม่มีวันเท่าเจ้าเขียวคันเก่ากับความแรง 1200 แรงม้าที่เขาขายไปแล้วตอนเลิกแข่งเลยสักนิด
หลังจากนั้นหลายปี เขากลับมาหาแก๊ง 5 วินาทีของเขาและให้ทีมงานทำรถของ Larry ทำรถให้เขาขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และมันก็กลายเป็นเจ้ายักษ์เขียว 1500 แรงม้าคันที่คุณเห็นอยู่นี้เอง โดยตัวรถมีชิ้นส่วนที่ต้องทำมือหลายชิ้น ต้องเช็คในดีเทลต่าง ๆ มากมายหลายต่อหลายครั้งเพื่อลดความผิดพลาด กลายเป็นความทุ่มเทครั้งยิ่งใหญ่ที่ต้องใช้ทั้งความรู้ความสามารถฝีมือตลอดไปจนถึงเวลาหลายปีและเงินมหาศาล กระทั่งรถของเขาก็เสร็จในปี 2020 แต่ก็ยังมีการปรับแต่งกันไปเรื่อย ๆ
กระทั่งในปีนี้เองเขาทุ่มสุดตัวลดน้ำหนักตัวเองเกือบ 20 กิโลกรัมเพื่อที่จะลุยทำสถิติเวลากันอีกครั้ง ทำให้ทีมงานต้องปรับจูนตำแหน่งท่านั่งใหม่ให้เหมาะกับตัว Brantly อีกครั้ง ก่อนจะออกไปทดสอบกันอีกครั้งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง
สุดท้ายนี้เขาจะทำลายสถิติเวลาเดิมของเขาได้มั้ย หรือจะแรงจนทำลายสถิติของ Larry ได้ด้วย งานนี้ก็คงต้องติดตามกันต่อไปครับ
รับชมวิดีโอการทดสอบรถต่างๆ ของเราคลิก